DSI จับมือ
DTI วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ
สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) โดย พลเอก สมพงศ์ มุกดาสกุล
ผู้อำนวยการสถาบัน และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย นางสุวณา สุวรรณจูฑะ
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศเพื่อการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ
กรอบระยะเวลา 5 ปี
และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อจัดทำระบบฐานข้อมูลเชิงพื้นที่รหัสเปิดบนเครือข่ายแผนที่เพื่อกระบวนการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ
(DSI MAP EXTEND) และร่วมดำเนินการวิจัยและพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สำหรับใช้บนอุปกรณ์สื่อสารไร้สายโดยให้สามารถใช้งานผ่านแม่ข่ายแผนที่ผ่านอินเทอร์เน็ต
(DSI MAP) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยประยุกต์การใช้เทคโนโลยีกับฐานข้อมูล โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ความร่วมมือนี้เพื่อ พัฒนารูปแบบการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพ
สนับสนุนภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
และเสริมศักยภาพให้กับข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิธีลงนามจัดขึ้นที่ ณ
ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์
ในวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม
2558 เวลา 08.00 น. ด้วยเทคโนโลยีมีพัฒนาการที่รวดเร็วและต่อเนื่อง
รูปแบบอาชญากรรมในปัจจุบันก็มีพัฒนาการที่ซับซ้อนโดยอาศัยเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระทำผิด
ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
รวมทั้งภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่มีความซับซ้อน
จึงจำเป็นที่จะต้องปรับตัวและพัฒนาศักยภาพให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI) องค์การมหาชน
กระทรวงกลาโหม เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและการป้องกันประเทศ เป็นหน่วยงานที่มีฐานข้อมูล
องค์ความรู้
รวมถึงบุคลากรที่เป็นนักวิจัยที่จะสามารถให้การสนับสนุนภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
โดยการวิจัยพัฒนาระบบเทคโนโลยีกับระบบฐานข้อมูลและอุปกรณ์ที่ทันสมัยให้เกิดประสิทธิภาพเพื่อเป็นเครื่องมือพิเศษในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ
สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและองค์ความรู้ต่างๆ
โดยเฉพาะงานด้านระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) มาอย่างต่อเนื่อง
ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่างๆ
ที่จะเพิ่มขีดความสามารถและมาตรฐานทางด้านเทคโนโลยีในการสร้างเครื่องมือในการสืบสวนสอบสวน
เก็บพยานหลักฐาน เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับรัฐและประชาชน
รวมทั้งการเพิ่มช่องทางในการมีส่วนร่วมของประชาชนในหลายมิติ อาทิ
การแจ้งเบาะแสและเฝ้าระวังการบุกรุกพื้นที่ของรัฐได้อย่างง่าย
เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น