เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 58เวลา 18.00น.ที่โรงแรมไมด้า ทาราวาดี
ชั้น 2 อ.เมือง จ.นครปฐม นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท แอสเซท แมเนสเมนท์ จำกัด (APM)
ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO
(ไพ-โม่) เป็นผู้นำด้านการผลิต
และจัดจำหน่ายมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ มอเตอร์กำลังที่ใช้ในภาคเกษตร
อุตสาหกรรม เครื่องสูบน้ำ/ไดโว่ ปั้มหอยโขง มอเตอร์สำหรับสระน้ำ สปา
และมอเตอร์ปั้มในบ้าน นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม เปิดเผยว่า ผู้บริหารของบริษัทฯ
ที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
เดินสายนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์)
ทั้งพร้อมแนะนำรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก
(IPO) ของไพโอเนียร์ มอเตอร์ ให้แก่นักลงทุนในจังหวัดนครปฐม
โดยคาดว่าจะมีนักลงทุนสนใจเข้าร่วมรับฟังประมาณ 300 คน
นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท
ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
การจัดโรดโชว์ในจังหวัดนครปฐมครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลทั่วไป และรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทฯ
ไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งบริษัทฯ
มีรายได้หลักจากการรับผลิตมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ
มอเตอร์กำลังที่ใช้ในภาคเกษตรอุตสาหกรรม เครื่องสูบน้ำ/ไดโว่ ปั้มหอยโข่ง
มอเตอร์สำหรับสระน้ำ สปา และมอเตอร์ปั้มในบ้าน และมีจำนวนลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้ได้ในปีนี้
6 เดือน และรับรู้เต็มปีหน้า สำหรับในปี 2557 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้เท่ากับ
489 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 40 ล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้ โดยมีรายได้ขายในประเทศสัดส่วนประมาณ 75%
และต่างประเทศประมาณ 25%
นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO
(ไพ-โม่) กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในการที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
เอ็ม เอ ไอ ซึ่งการเดินสายโรดโชว์ในครั้งนี้
ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของบริษัทฯ และการนำเสนอข้อมูลต่างๆของบริษัทฯ
เพื่อให้นักลงทุนได้ทำความเข้าใจและใช้ข้อมูลที่ได้มาประกอบการพิจารณามากยิ่งขึ้น
ซึ่งหวังว่าบริษัทฯ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสำหรับนักลงทุน
ปัจจุบันบริษัท ไพโอเนียร์ จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ
130,000,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 520,000,000 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยมีทุนเรียกชำระแล้วเท่ากับ 100,000,000 ล้านบาท
แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 400,000,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ทั้งนี้
บริษัทฯจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 120,000,000
ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25
ภาพ/ข่าว
ณัฐวัฒน์ พานโพธิ์ทอง 092-386-5998
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น