pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กำชับเร่งรัดคดีฆาตกรรม “สมยศ” เจ้าพ่อสถานบันเทิง พระราม 9 คาเฟ่

วันนี้  2  ก.ค. 58 เวลา 11.00 น.ด้วย พล.ต.อ.ดร.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร.(ปป2) นัดหมายประชุมกำชับเร่งรัดหน่วยงานทุกฝ่ายที่ร่วมปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรม นายสมยศ  สุธางค์กูร  เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ พร้อมเปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายรอบยิง อดีตเสี่ยคาเฟ่ สมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระรามเก้าคาเฟ่ว่า ในวันนี้ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรายงานผลการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานในคดีเพิ่มเติม และได้รายงานให้พลตำรวจเอกสมยศพุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ทราบถึงความคืบหน้าของคดีอยู่ตลอด โดยท่านได้กำชับให้ดำเนินการทุกอย่างให้รอบคอบมากที่สุด โดยจะต้องหาถึงองค์ประกอบใน 2 เรื่อง เกี่ยวกับการสืบสวนผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนจ้างวานฆ่าและผบ.ตร. ได้กำชับให้รวบรวมพยานหลักฐานให้เร็วที่สุดและเร่งให้จับกุมคนร้ายโดยเร็วซึ่งองค์ประกอบในการสืบสวนสอบสวนในประเด็นหลัก 2 ประเด็นคือหาคนขับและมือปืน และผู้ที่จ้างวานให้ได้ ซึ่งภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น คาดว่าในช่วงเย็นอาจจะมีการเชิญบุคคลที่มีความสำคัญแต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นใครเพื่อเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อีกด้วย
               ในส่วนของการตัดประเด็นในการก่อเหตุนั้น ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้น้ำหนักไปที่ประเด็นโกงหนี้พนันกว่า 4 ล้านบาท และคดีว่าจ้างในการล้มคดี แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นในเรื่องอื่นทิ้ง  ส่วนการควบคุมตัว เสธ.นุ นายทหารนอกราชการ และ นายสมชัย นิตยา หรือ เล็ก ชุมพร เข้ามาให้ปากคำกับตำรวจ โดยไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา หรือควบคุมตัวไว้ และได้ปล่อยให้กลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่อาจจะมีการเรียกบุคคลทั้ง 2 มาให้การเพิ่มเติมในภายหลัง ส่วนผลการสอบปากคำ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวนการสืบสวนสอบสวน และการเรียกบุคคลทั้งสองเข้ามาให้ปากคำ เพราะมีความเกี่ยวเนื่องในประเด็นหนี้พนัน และการวิ่งเต้นคดี ตามที่ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐาน และตามคำให้การของ นางศุภนิดา นรรัตน์ หรือ ก้อย หนึ่งในพยานสำคัญในคดีนี้
                ด้านพลตำรวจตรีนายแพทย์พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า จากการผ่าชันสูตรศพนั้น พบว่าพบปลอกกระสุนขนาดกระสุนปืนที่พบในร่างของผู้เสียชีวิตเป็นขนาด 9 มม. อยู่ระหว่างการนำไปให้กองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบว่าน่าจะมาจากอาวุธปืนชนิดใด และจะมีการนำไปตรวจสอบประวัติอาชญากรว่ากลุ่มใดที่ใช้อาวุธปืนชนิดนี้บ้าง
               พลตำรวจเอกเรืองศักดิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ตายเป็นคนละเอียดรอบคอบ หลังจากรู้ตัวว่าจะถูกปองร้าย จึงได้มีการลงบันทึกในสมุดจดส่วนตัวและมีการบันทึกเสียงในการสนทนาและข้อมูลที่สำคัญไว้ในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งไปตรวจสอบข้อมูลที่กองพิสูจน์หลักฐาน///อ๊อด ชี้ชัดรายงาน







0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น