pearleus

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

วัชระ เพชรทอง” ถอดเทปลับมติซื้อเมล์ NGV ฉาว จี้"นายกฯตู่"อาจเจอ ม.157


ตามที่นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานบอร์ด ขสมก.และนายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. แถลงข่าวลักไก่อ้างบอร์ด ขสมก.ทั้งคณะมีมติเห็นชอบโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV. 489 คันวงเงิน 4,261 ล้านบาท ปรากฏว่าตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมามีแต่ข้อครหาและเสียงร้องเรียนทั้งจากประชาชนแจ้งกองปราบฯและเอกชนร้องทุกข์ต่อ ปปช.และ สตง. ถึงความไม่โปร่งใสและอาจเข้าข่ายทุจริตทำให้รัฐเสียหายนั้น 

ล่าสุดนายวัชระ เพ็ชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์  ออกมาเปิดเผยว่ามีไอ้โม่งบิ๊กทหาร คสช.บงการอยู่เบื้องหลัง พร้อมโชว์หลักฐานถอดเทปรายงานการประชุมบอร์ดที่นายณัฐชาติ ใช้เป็นข้ออ้างว่าบอร์ดมีมติเห็นชอบว่าเป็นการทำรายงานเท็จ ส่งแก่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2561  นายวัชระ  ให้สัมภาษณ์รายการวิทยุและเพจดัง”สืบจากข่าว” 100.5 อสมท. ถึงกรณีดังกล่าวตามที่สื่อมีการเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง ว่า  “ผมทนไม่ได้กับการที่เห็นว่าเขากำลังจะโกงเงินของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ผมไม่อยากเชื่อว่าจะมีการโกหกหัวหน้า คสช. โกหกนายกรัฐมนตรีได้ในยุคไทยแลนด์ 4.0 พวกท่านกล้าออกมาแถลงข่าวอันเป็นเท็จ รายงานนายกฯอันเป็นเท็จ ทำเอกสารราชการอันเป็นเท็จ   ขสมก.ต้องเปิดเผยผลการประชุมและรายงานการประชุมต่อสาธารณชนและแจกเอกสารรายงานการประชุมให้สื่อมวลชนพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าแท้จริงแล้วในวันที่ 18 และ 20 ธันวาคม พวกท่านพูดอะไรไว้บ้าง”

นายวัชระกล่าวอีกว่า  จากการถอดเทปการประชุมกรรมการบริหารกิจการ ขสมก. ชัดเจนแล้วว่าในวันที่ 18 ธันวาคม 2560 ไม่มีการโหวตใดๆทั้งสิ้น ส่วนผลการประชุมในวันที่ 20 ธันวาคม 2560 มีบอร์ดเข้าประชุมเพียง 6 ท่านคะแนนโหวตเห็นชอบแค่ 2 ท่าน คือนายณัฐชาติ จารุจินดา กับ นายสมศักดิ์ ห่มม่วง เท่านั้นส่วนกรรมการที่ไม่เห็นด้วย ที่ต้องเคารพ ที่ต้องเชิดชูว่ารักษาผลประโยชน์ให้พี่น้อประชาชนมี 3 ท่านคือ พลตำรวจตรีประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์,นายสมศักดิ์ ประถมศรีเมฆ, รศ.คณิต วัฒนวิเชียร และท่านที่งดออกเสียงคือ รศ.พัชรา พัชราวนิช ใช้สิทธิ์งดออกเสียง  สรุปเห็นชอบ 2 ไม่เห็นชอบ 3 งดออกเสียง 1 ตนต้องขออนุญาตเอ่ยชื่อกรรมการท่านที่ลงอนุมัติไม่เห็นชอบ ก็เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบพร้อมกัน ว่าท่านเหล่านี้ได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและของประชาชน

 “ท่านนายกฯต้องปราบปรามขบวนการทุจริตการจัดซื้อรถเมล์ครั้งนี้ให้เป็นแบบอย่างครับ ทั้งๆที่บริษัทนี้เคยประมูลไว้แค่ 3,800 ล้านบาท แล้วต่อมาใช้วิธีการตกลงราคาเฉพาะบริษัทกับ ขสมก. ปรากฏว่าราคามันพุ่งขึ้นถึง 4,261 ล้านบาทได้อย่างไร ส่วนต่างตรงนี้แพงขึ้น 461 ล้านบาทถ้านับรวมอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกับเงิน US ดอลล่าห์ ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นทำให้เอกชนได้กำไร 700 ล้านบาท รวมแล้วเป็นเงินรัฐและพี่น้องประชาชนเสียหาย 1,200 ล้านบาท"นายวัชระ กล่าวและว่า   ท่านพลเอก ประยุทธ์ ต้องสั่งการไปถึงนางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นกรรมการบอร์ด ขสมก.ด้วย แต่ไม่เข้าประชุมบอร์ดในวันที่ 20 ธันวาคม และไม่เข้าประชุมบอร์ดหลายครั้งอาจรู้ว่างานนี้มีคนขอ อ้างบารมีบิ๊กทหาร คสช.ให้ผ่านโครงการก็เป็นไป

นายวัชระ ยังกล่าวด้วยว่า ตนได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์  อย่างเป็นทางการขอให้สั่งการ 1.อธิบดีกรมบัญชีกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องระงับการจ่ายเงิน 4,261 ล้านบาท เพราะส่วนต่างที่เกิดขึ้นจาก 3,800 ล้านบาท พุ่งขึ้น แพงขึ้นในรัฐบาล คสช. ไม่สมเหตุสมผล ถ้าเป็นรัฐบาลที่เกิดจากการเลือกตั้ง ซื้ออย่างนี้ไม่ได้ 2.ให้สอบสวนว่ามีการวิ่งเต้นจ่ายให้กับผู้หลักผู้ใหญ่กับบิ๊กทหาร คสช.จริงหรือไม่? และ 3.ท่านนายกรัฐมนตรีต้องหยุดยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าด้วยการสั่งยกเลิกโครงการนี้เพราะส่อทุจริต พร้อมเปิดให้ประมูลใหม่ สัญญาที่ไม่ล็อกสเปก เปิดให้เอกชนมีสิทธิเข้าประชุมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย”

พร้อมระบุด้วยว่า การทุจริตของ ขสมก.ครั้งนี้เป็นกระบวนการเป็นการกระทำที่สำเร็จแล้ว ตนไปยื่นหนังสือถึง ปปช. ให้ตรวจสอบโครงการฯ  และให้ดำเนินการตรวจสอบการทุจริต ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร จนถึงประธานบอร์ด กรรมการบอร์ด ขสมก. จนถึงผู้รักษาการ ขสมก.

" เอาแบบครบทั้งยวงปล่อยไว้ไม่ได้ครับ เพราะถ้าเราปล่อยเท่ากับการละเว้น แล้วรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขาเรียกว่าฉบับปราบโกง ท่านพลเอก ประยุทธ์  เองเรียกร้องให้พวกเราปราบปรามทุจริต ให้เราเป็นหูเป็นตาให้กับบ้านเมือง มาแจ้งเบาะแส ผมมาบอกว่าเจ้าหน้าที่ จะโกงซื้อรถเมล์ 4,261 ล้านบาท แล้วแถมยังจะขึ้นค่าโดยสารพี่น้องที่ขึ้นรถเมล์อีกระยะละ 2 บาท มันเกินไปครับ ผมยอมไม่ได้ครับต้องทำเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ความโลภมันไม่เข้าใครออกใคร ถ้าพลเอก ประยุทธ์ ไม่ระงับยับยั้งมีโอกาสตกเป็นจำเลยที่ 1 นายณัฐชาติและนายประยูร ยังรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ทำเอกสารราชการเท็จอีกกระทงด้วย ทีมเสนาธิการของท่านพลเอกประยุทธ์ อย่าละเลย นิ่งเฉย มีคนแอบอ้างนายทหารใหญ่บิ๊ก คสช.อนุมัติโครงการนี้ ท่านต้องไประงับและยับยั้งไม่งั้นประเทศชาติเสียหาย เรื่องนี้ผมคิดว่ามีการโกงทุจริตอื้อฉาวไม่แพ้กรณีโกงเงินคนจนหรือว่ากรณีเงินทอนวัดแต่อย่างใด"

นายวัชระ ยังกล่าวด้วยว่า  ยังมีอีก 1,600 ล้านบาท ระบบ E- Ticket ที่เป็นกล่องๆ แล้วใช้บัตรสวัสดิการคนจนไปรูด ก็เจ๊ง  ติดไว้แหกตาชาวบ้าน ไหนว่ารัฐบาลนี้ต้องการปราบโกง ไหนว่าเงินแม้แต่บาทเดียว ขอให้พลเอกประยุทธ์ อย่าตกเป็นเครื่องมือกลุ่มคนเหล่านี้ 

ด้านนายสุรดิษ สีดามาตย์ กรรมการบริษัท แม่โขงเทคโนโลยี่ จำกัด กล่าวว่า  “ได้อ่านรายงานการประชุมบอร์ดครั้งที่ 15/60 วันที่ 18/12/2560 เห็นชัดว่าไม่มีการลงมติใดๆทั้งสิ้น ส่วนรายงานการประชุมครั้งที่ 16/2560 เมื่อวันที่ 20/2/2560 ได้มีมติรับรองการประชุมโดยคณะกรรมการฯเสียงข้างมากคือเห็นด้วย 2 ไม่เห็นด้วย  3 และงดออกเสียง 1 ซึ่งไม่ตรงกับที่นายณัฐชาติและนายประยูร ให้ข่าว ดังนั้นการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนี้จึงขัดต่อระเบียบพัสดุปี 2560 การกระทำดังกล่าวจึงไม่มีผลผูกพันตามตัวอย่างคำพิพากษาศาล ฎีกาที่ 7277/2549 ว่า “สัญญาเกิดจากการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงไม่มีผลผูกพันและเท่าที่เห็นภาพรถเมล์ที่ ขสมก.กำลังจะตรวจรับและนำออกมาทดลองวิ่ง เห็นชัดๆว่าผิดสเปกไม่ตรงตาม ทีโออาร์ กำหนดในข้อ 9.3.1 ป้ายอีเล็กทรอนิกส์ บอกหมายเลขเส้นทางและชื่อต้นทาง-ปลายทาง ด้านบนของประตูทางขึ้น-ลง ขนาดไม่น้อยกว่า 20 คูณ75 ซม.

"ตรงนี้ถือเป็นสาระสำคัญมาก คณะกรรมการตรวจรับของ ขสมก.จะปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด ถ้ายังกล้าที่จะตรวจรับ หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญางานนี้บอกได้เลยว่า เจอกันแน่ครับและขอฝากไปถึงท่านพลเอกประยุทธว่า อย่าปล่อยผ่านครับเรื่องนี้เด็ดขาดครับจะอีกกี่ปีก็ไม่จบ และที่สำคัญคือมันได้ไม่คุ้มเสียครับ ” นายสุรดิษ กล่าวในที่สุด


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น