ว้าว ว้าว ว้าว
วววว
บิ๊กตู่ ทุบโต๊ะ(อีกแล้ว) มหาชัยต้องเป็นครัวโลก
ก็อย่างที่ทราบกันดีกว่า
เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา
พี่บิ๊กตู่ของเราขนทีมงานชุดใหญ่ไม่จำกัดลิมิต เดินทางเหยียบแผ่นดินสมุทรสาคร แล้วก็อย่างที่รู้กันว่า ก่อนวันเดินทางของทัพ
พญาเหยียบเมือง บรรดาขุนนางหัวเมืองทั้งหลาย
ต่างก็เข้าตลาดล่าซื้อผัดชีมาโปรยทั่วเมือง
โดยเฉพาะเส้นทางที่พญาเคลื่อนทับอย่างถนนสหกรณ์ที่ จัดระเบียบกันครั้งใหญ่ ทั้งถางหญ้า
ขุดคลอง ปะถนน ฝึกระเบียบแถวซักซ้อมคำถามตอบต่าง ๆ กับหน่วยงานที่ต้องไปเยือนอย่าง
LPN สะพานปลา รวมทั้งปัดกวาดลานลงเฮลิปคอปเตอร์ของพี่บิ๊ก
เมื่อถึงกำหนดเวลา
เครื่องร่อนก็ลงจอด พร้อมกับเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับยืนเรียงหน้าสลอน นำโดยพ่อเมือง
ในชุดทำงานที่เรียบกริบ ที่รีดไว้ตั้งแต่ 2
วันที่แล้ว ก่อนเคลื่อนทัพพร้อมรถตามขบวนที่มีชาวบ้านที่จอดรถติดไฟแดง
มาฟ้องให้เข้าหูว่า นั่งจอดรถติดไฟแดงที่ตำรวจเค้ากั๊ก
ถนนไว้ให้ท่าน ๆ ผ่าน นับแบบงู ๆ ปลา ๆ พวกบอกได้ประมาณเหยียบร้อยคัน …พ่อคูณเอ้ย น้ำมูกน้ำมัน
งบประมาณของชาติทั้งนั้น
สิ้นเปลืองสิ้นดีแท้
ทั้งนายทั้งบ่าว
การมาครั้งนี้ของพี่บิ๊กเจ้าอารมณ์
ผุดไอเดีย (เก่าแต่เอามาเล่าใหม่) หนุนสมุทรสาครหรือมหาชัย
ต้องเป็นศูนย์กลางอาหารทะเลโลก เป็นศูนย์กลางการผลิตและแปรรูปสินค้าอาหารทะเลระดับโลก
(Hub of Seafood) โดยให้เหตุผลว่า ด้วยชัยภูมิที่ติดทะเล
ส่งผลให้สมุทรสาครมีท่าเทียบเรือประมงกว่า 86 ท่า เรือประมง 592 ลำ เกิดโรงงานแปรรูปอาหารทะเลกว่า 788 แห่ง
อีกทั้งยังมีโรงงานผลิตปลาทูน่ากระป๋องเพื่อการส่งออกใหญ่ที่สุดของประเทศ
และห้องเย็นเกือบ 100 แห่ง สร้างมูลค่าการส่งออกราว
100,000 ลบ. ต่อปี
จึงกลายเป็นแหล่งธุรกิจการประมงที่สำคัญของประเทศ ซึ่งทางรัฐบาลพร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงไปยังจังหวัดอื่น
ๆ เช่น จ.นครปฐม และเพชรบุรี เพื่อให้เติบโตไปพร้อมกัน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของแรงงาน
บิ๊กตู่ โปรยความหวานเข้าไปอีกว่า "ขอให้กำลังใจแรงงานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างด้าว รัฐบาลพร้อมดูแลคุณภาพชีวิต การศึกษา
และสาธารณสุข อยู่ประเทศไทยก็ขอให้รักประเทศไทย
เราจะต้องเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขอให้แรงงานทุกคนไปขึ้นทะเบียนแรงงานเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
และเมื่อมีการเลือกตั้งขอให้ทุกคนไปใช้สิทธิ อย่านอนหลับทับสิทธิ" ….เอ้ากราบ
ว่าไปแล้วเรื่องสมุทรสาครครัวโลก
เค้าพูดกันมาหลายปีแล้ว ทำได้แค่ไหนไม่รู้ แต่คงไม่ใช่แค่ว่ามีแหล่งทรัพยากรเยอะแยะเท่านั้น
หากแต่การบริหารจัดการทุกระดับก็ต้องสอดรับ
โดยเฉพาะงานเอกสารและธุรการที่ต้องอ้างอิงกับฝ่ายราชการที่ต้องยอมรับว่า อืดอาด
ไม่สอดรับการกระแสการแข่งขันทางธุรกิจของภาคเอกชน
ไม่ต้องดูอะไรเยอะ แค่เรื่องการขึ้นทะเบียนต่างด้าว ก็ชวนเวียนหัวแล้ว งานเยอะ เจ้าหน้าที่น้อย
ขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน
การจะให้สมุทรสาครเป็นศูนย์กลางอาหารทะเลโลกจะทำได้แค่ไหน
ไม่อยากสนใจเท่าไหร่ เพราะไม่เชื่อน้ำลายท่านผู้นำ ไม่ว่ายุคไหน พ.ศ.ไหน
แต่ปัจจุบัน เอาแค่เรื่องครัวในบ้านในเมืองนี้ก็ให้รอดเสียก่อนเถอะ เรื่องแรงงาน ขยะ ระบบระเบียบมาตรฐานความปลอดภัย
ไล่ไปจนถึงความฉ้อฉลของเจ้าหน้าที่รัฐในกรมกองที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ แค่นี้ก็จัดการไม่หวั่นไม่ไหว
เอาให้ติดแค่ชายขอบครัวโลกก็หรูแล้ว นายเอ้ย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น