pearleus

วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ตบกะโหลก งามหน้า ต.นาดี เพลิงมา รถไม่มี (น้ำมัน) ?

 
งามหน้า ต.นาดี
 เพลิงมา รถไม่มี (น้ำมัน) ?
            เตือนแล้วเตือนอีก เตือนอีกเตือนแล้ว จนได้มั้ยล่ะ ผู้บริหารนาดี อวดดีจนได้เรื่อง เรื่องที่ควรเร่งรัดไม่ทำ ที่ไม่ควรทำนั้นขยันจัง  เข้าใจว่าหลายคนยังคงจำกันได้ดีว่า ก่อนหน้านี้ทีมงานหนังสือพิมพ์ชี้ชัดเจาะลึก โดยการนำของพี่หนวด บก.ใหญ่ ได้เคยออกมาเตือนผู้ดูแลตำบลนาดี พันจ่าเอก อัษฎางค์ วิเศษวงศ์ษา ปลัดเทศบาล ปฎิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรี ให้รีบดำเนินการแก้ไขปัญหา ต.นาดี ขาดแคลนรถดับเพลิง
            อย่างที่เคยบอกกล่าวกันไว้ตรงนี้ว่า ประเด็นปัญหาของรถดับเพลิงตำบลนาดีนั้น เกิดจาก รถดับเพลิงที่เคยใช้งานอยู่นั้นเกิดเสียขึ้นมา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่ของใช้ย่อมมีเสียมีพัง แต่เมื่อฝ่ายผู้ปฎิบัติงานอย่างกองดับเพลิงทำเรื่องเสนอซ่อมให้ พันจ่าเอก อัษฎางค์ วิเศษวงศ์ษา  รีบดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่เรื่องก็ยังไปไม่ถึงไหน ถึงกระทั่งพี่หนวดชี้ชัดต้องออกกำลังอยู่พักใหญ่  ทางปลัด ฯ จึงยอมออกมาตั้งโต๊ะแถลงถึงสาเหตุที่ทางนาดี ไม่มีรถดับเพลิงที่ใช้งานได้ โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากรถที่มีอยู่ทั้งหมดเกิดเสีย  ต้องรองบใหม่ในปีหน้า จะซื้อรถใหม่ ส่วนที่เคยมีการเสนอให้ซ่อมก่อนก็ให้เหตุผลว่า ค่าซ่อมแพงเกินไป จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตีเรื่องกลับไป 
เมื่อพี่หนวดกดดันต้องการคำตอบที่ชัดเจนว่า แล้วจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ทางปลัดก็ดูเหมือนจะบอกให้ร้องเพลงรอรถใหม่ในปีหน้าไปก่อน  เป็นคำตอบที่ได้ใคร ๆจะเชื่อว่าคนระดับปลัดตำบล จะโชว์ฉลาดได้ถึงเพียงนี้ สุดท้ายก็จำนนต่อหลักฐาน ถูกมอบหมายจากสื่ออย่างชี้ชัด ให้แบกหน้าไปยืมรถที่อบต.อื่นมาประจำการไว้ก่อน แม้ดูรวม ๆ แล้วน่าสังเวช และไร้เสน่ห์สิ้นดีก็ตาม  ซึ่งในที่สุดท่านปลัดของพี่น้องก็โชว์ฝีมือการบริหารบ้านเมือง โดยเจรจาขอรถจากที่อื่นมาได้จำนวน 1 คัน ต่อการดูแลโรงงานนับร้อยนับพันโรงงาน ในต.นาดี …5555555
            ล่าสุดก็ดั่งที่คาดกันไว้ โดยไม่ต้องสาปแช่ง ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ในอบต.นาดี  ไม่ใช่สิ ในโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.นาดี ต่างหาก ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตโดยเหตุเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2560  ที่บริษัท พีพีแอล รับเบอร์ แอนด์ ฟุตแวร์ จำกัด อยู่หมู่ที่ 9 ต.นาดี  และแน่นอน อบต.นาดีไม่มีปัญญาดับเพลิงได้ จึงต้องขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานอื่นเข้าระงับเพลิง
            เพลิงไหม้ครั้งนี้สร้างความฉิหาย สมดั่งใจหวัง  ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกับรถดับเพลิงเกือบ 20 คันตำบลอื่นที่เข้าช่วยระดมฉีดน้ำภายในโรงงานที่มีเนื้อที่ขนาด  4 ไร่ ท้ายที่สุดราบพนาสูร ซึ่งถ้ามีรถดับเพลิงประจำการเป็นตนเอง อาจจะทำให้เพลิงไหม้ลุกไหม้รุกลามไปมากกว่านี้  และคงไม่สร้างความเสียหายที่ประเมินมูลค่าคร่าว ๆ น่าจะประมาณ 30 – 40 ล้านบาท
            ทราบข้อมูลเลา ๆ จากวงในว่างานนี้ เกิดจากความขัดแย้งกันระหว่างลูกน้องกับเจ้านายที่ไม่กินเส้นกัน  ประมาณมีรถ แต่มีค่าน้ำมัน หรืออะไรประมาณนั้น  เรื่องนี้ปล่อยคาราคาซังก็รังแต่จะทำให้บ้านเมืองวอดวาย ถ้าเรื่องภายในยังเคลียร์กันไม่จบ ก็ไม่ต้องดูแลบ้านเมืองกันแล้ว ลาออกไปเถอะ อย่างนี้คงต้องถึงมือหัวหน้าสายงานอย่างนายอำเภอหรือระดับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องเข้ามาดำเนินการแล้วล่ะครับ

                      …………………………………………………………………





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น