pearleus

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

พม.จับมือ AIS เปิดศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนต้นแบบ ร่วมบ่มเพาะวิสาหกิจชุมชน- สค.เตรียมทำหลักสูตรเดินหน้าสร้างตลาดออนไลน์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่  3 พฤศจิกายน 2560 เวลา 10.30 น. นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)  ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือและเปิดศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนต้นแบบ Co-working Space AIS ร่วมบ่มเพาะวิสาหกิจชุมชน กล่าวรายงานโดย นายชาลี สมมาตร ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ จังหวัดลำปาง และกล่าวถึงวัตถุประสงค์และความตั้งใจในการนำองค์ความรู้ด้านดิจิทัลไปส่งเสริมให้ผู้ประกอบการภายในศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว โดย นางวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงาน ประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS มาเป็นผู้แทนในการลงนาม MOU ด้วยดังกล่าว ซึ่งโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กับ AIS โดยมีจุดเริ่มต้นจากการได้รับการสนับสนุน
จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรศัพท์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชน  ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ จังหวัดลำปาง
                                         
                                                                            
นายเลิศปัญญา กล่าวว่า พม. โดย สค. มีความมุ่งหวังให้ประชาชนทุกคนสามารถพัฒนาตนเอง และพึ่งพาตนเองในการประกอบอาชีพ มีรายได้ที่ยั่งยืน ครอบครัวมีความมั่นคง ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข เป็นพื้นฐานในการพัฒนาสังคมด้านอื่นๆ โดยมีกลไกระดับพื้นที่ภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในการขับเคลื่อนการดำเนินการ ชื่อว่า ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว 8 ศูนย์ 8 เขตรับผิดชอบ ให้บริการด้านการฝึกอบรมอาชีพแก่สตรีและครอบครัวที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ตลอดจนกลุ่มสตรีที่ต้องการเพิ่มทักษะฝีมือในวิชาชีพด้านต่างๆ ให้มีทักษะฝีมือในการประกอบอาชีพ เพื่อหารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ซึ่งเป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลที่เห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนของพี่น้องประชาชนในชนบท และเห็นความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในท้องถิ่น เพื่อป้องกันปัญหาสังคมด้านอื่น ๆ ซึ่งการขับเคลื่อนการดำเนินงานต่าง ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ต้องมีการประยุกต์ และปรับรูปแบบให้สอดคล้องและรองรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะด้าน IT ที่เข้ามามีบทบาทในสังคมไทยปัจจุบันเป็นอย่างมาก
นายเลิศปัญญา กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ถือเป็นวันที่ชุมชนจะได้รับโอกาสในการพัฒนาความรู้ทางด้าน IT โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) โดย นางสาวศิริเพ็ญ  ไทวะศุภกุล ผู้อำนวยการสำนักชุมชนสัมพันธ์ ส่วนงานประชาสัมพันธ์และคณะทำงาน คัดเลือกศูนย์ฯ นี้นำร่องในการจัดทำ “ศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนต้นแบบ Co-Working Space AIS ร่วมบ่มเพาะวิสาหกิจชุมชนดิจิทัล” ซึ่งได้เข้ามาปรับปรุงห้องศูนย์อินเทอร์เน็ต ที่ กสทช. ได้เคยจัดตั้งเป็นศูนย์อินเทอร์เน็ต (USO NET) ให้กับศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ จังหวัดลำปางไว้ก่อนแล้วเมื่อปี 2553 โดยได้มีการติดตั้งคอมพิวเตอร์ไว้ให้ จำนวน 10 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ และปี 2560 ทาง AIS ได้ให้การสนับสนุนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเพิ่มอีก จำนวน 10 เครื่อง พร้อมทั้งอบรมให้ความรู้ด้านดิจิตอลแก่ผู้ประกอบการในแขนงต่างๆ เหล่านี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมมือกันสนับสนุนองค์ความรู้ด้านดิจิทัลให้
แก่ชุมชนเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ระบุว่า  ผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพเหล่านี้ คงเกิดขึ้นได้ยาก หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้ามาบูรณาการการทำงานร่วมกัน มองเห็นคุณค่าของชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้สามารถเดินหน้าและพัฒนาต่อยอดได้โดยการนำ IT มาประยุกต์ใช้ให้สอดรับกับสถานการณ์ของสังคมในปัจจุบัน เหล่านี้ ถือเป็นความร่วมมือที่ สค. ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนและพัฒนาชุมชนร่วมกัน สำหรับ พม. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้ ก็จะขยายกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้นและครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะทำให้ศูนย์ฯ นี้เป็น ศูนย์ต้นแบบนำร่อง และเป็นศูนย์กลางแหล่งรวมความรู้ของนวัตกรรมใหม่ๆ ที่รองรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ โดยใช้ตลาด IT เป็นเครื่องมือในการประกอบธุรกิจการค้าของชุมชนให้สินค้าระดับชุมชนไม่ได้ขายแค่ในชุมชนแต่จะทำให้สินค้าของชุมชนสามารถขายได้ทั่วโลกด้วยสื่อดิจิตอล ทั้งนี้ สค.ยินดีเปิดรับทุกภาคส่วนในการเข้า
มาพัฒนาต่อยอดการขับเคลื่อนงานเพื่อการพัฒนาสังคมร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป
                                                                          
                                     
                                                                            
                         
“พม. โดย สค.ได้เตรียมการจัดทำหลักสูตรเดินหน้าสร้างตลาดออนไลน์ทาง Social Media ให้กลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาฝึกอบรมควบคู่กันไปด้วย โดยสอนให้ความรู้คลอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การทำความเข้าใจธุรกิจยุคใหม่ การออกแบบสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ การทำบัญชี ตลอดจนเรียนรู้กฏหมายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของลิขสิทธิ์ และการคุ้มครองผู้บริโภค อาทิ หลักสูตรผู้ประกอบการยุค 4.0 หลักสูตรการสร้างแรงจูงใจเพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์ หลักสูตรการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อการตลาดยุคใหม่ เป็นต้น” นายเลิศปัญญา กล่าวในตอนท้าย 

***************

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น