pearleus

วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

กก.สส.บก.น.6 จับกุมยาบ้าจำนวน 800,000 กว่าเม็ด

วันศุกร์ที่ 3 พ.ย.60  เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. , พล...ชาญเทพ          เสสะเวช รรท.ผบช..,พล...พุทธชาติ เอกฉันท์ ,พล...อนุรักษ์ แตงเกษม ,พล...ปรีชา เจริญสหายานนท์ ,  พล...สมพงษ์ ชิงดวง ,พล...ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ,พล...มนตรี ยิ้มแย้ม ,พล...จิรพัฒน์ ภูมิจิตร , พล...ภาณุรัตน์ หลักบุญ ,พล...จิรสันต์ แก้วแสงเอก ,พล...ฤชากร จรเจวุฒิ ,พล...กฤตธาพล ยี่สาคร , พล...นิตินันท์ เพชรบรม      รอง ผบช..
            กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ภายใต้การอำนวยการของ พล...ดุสิต สมศักดิ์ รรท.ผบก..6 ,...ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์, พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม  รอง ผบก..6 และมีผลการปฏิบัติของกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 6 ภายใต้การอำนวยการของ พ...สุวัฒน์  เกิดแก้ว  ผกก.สส.บก..6 ,...ณกฤช บุญศักดิ์ รอง ผกก.ฯ ,พ.ต.ต.ชนทัช       วุฒิภัทรโสภณ, พ.ต.ต.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง ,พ.ต.ต.สิบทิศ วรรณสิทธิ์ สว.สส.บก.น.6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก..6  ได้ร่วมกันทำการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ คือ
            นายณรงค์ชัย ขุนเทพ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ม.2 ต.เขาดิน อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์
            โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายจับได้เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ 20.00 . บ้านเลขที่ 105 ถ.สุขาภิบาล 1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. พร้อมของกลาง  ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 43.244 กิโลกรัม  ยาบ้า จำนวน 896,000 เม็ดรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส ทะเบียน ฆท 2139 กทม.จำนวน 1 คัน
             ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีได้แก่ นายนราวุฒิ หรือตี๋ ลิมตศิริ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 99 ม.6 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี และน.ส.เบญจมาษ  หรือเบญ สาหร่าย อายุ 30 ปี ที่อยู่ 16/23 ซ.อ่อนนุช 88/3 แขวง/เขตประเวศ กรุงเทพฯ

  ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านเลขที่ 105 หมู่บ้านรังสิยา ถ.สุขาภิบาล1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. เป็นสถานที่เก็บและซุกซ่อนยาเสพติดที่ลำเลียงมาจากทางภาคเหนือ และจะกระจายยาเสพติดให้กับลูกค้าทางภาคกลาง , ภาคตะวันออก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนเฝ้าสะกดรอย  ติดตามบุคคล ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว โดยได้ทำการสืบสวนมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงเชื่อมันว่าบ้านหลังดังกล่าวตามที่สายลับให้ข้อมูลมานั้นเป็นสถานที่พักยาเสพติดจากทางภาคเหนือจริง
กระทั่งเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2560 เวลาประมาณ 20.00 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการเฝ้าอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว เพื่อดูรถและบุคคลต้องสงสัย กระทั่งพบเห็นรถยนต์ โตโยต้า วีออส หมายเลขทะเบียน ฆท 2139 กรุงเทพฯ ขับขี่มาจอดบริเวณด้านหน้าบ้านหลังดังกล่าว และพบเห็นชายไทย จำนวน 1 คน ( ทราบชื่อภายหลัง คือ  นายณรงค์ชัย หรือนิว   ขุนเทพ )   เดินลงออกจากรถยนต์คันดังกล่าว ได้เปิดประตูหน้าบ้านและมีการขนกระสอบ จำนวน 1 กระสอบเข้าไปไว้ในบ้าน ซึ่งเชื่อว่าภายในกระสอบน่าจะมียาเสพติดบรรจุอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและทำการเข้าจับกุม
ระหว่างนั้น ชายผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ได้พยายามหลบหนีการจับกุมไปพร้อมกับหญิงซึ่งนั่งรถยนต์มาด้วยกัน  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังบางส่วนไล่ติดตามรถยนต์ โตโยต้า วีออส คันดังกล่าว
กระทั่งพบเห็นรถยนต์ โตโยต้า วีวอส สีเทา หมายเลขทะเบียน ฆท 2139 กรุงเทพฯ จอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถภายในสถานบันเทิงเมรี ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกระปิ   เขตห้วยขวาง  กทม. จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ตรวจสอบผู้ครอบครองทางทะเบียบพบชื่อ น.ส.สุพรรณ์สา  สมบัติ อายุ 36 ปี เป็นผู้ครอบครอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดจึงได้ทำการตรวจค้นภายในบ้านหลังซึ่งเชื่อว่าเป็นสถานที่พักยาเสพติดโดยที่ชั้นล่าง พบยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในห่อพลาสติกซึ่งเป็นห่อที่ไว้สำหรับบรรจุชาจีน จำนวน 40ห่อ ซุกซ่อนอยู่ในกระสอบที่นายณรงค์ชัย ฯ ขนออกมาจากรถยนต์ คันที่หลบหนีและพบยาบ้า อีกจำนวนประมาณ  896,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระดาษเทียนไข มีอักษร 999 และที่ชั้นบน ยังพบยาไอซ์ อีก จำนวน 3 กิโลกรัม  
รวมยาเสพติดที่ตรวจยึดได้จากบ้านที่เป็นที่สถานที่พักยาเสพติด ได้ ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 43 กิโลกรัม , และยาบ้า อีกจำนวน ประมาณ 896,000 เม็ด
โดยนายณรงค์ชัย ฯ ให้การบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเช่า โดย น.ส.เบญจมาษ สาหร่าย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของตน และเป็นภรรยาของนายนราวุฒิ  หรือตี๋  ลิมตศิริ เป็นผู้ติดต่อขอเช่า เพื่อเป็นสถานที่เก็บพักยาเสพติด   โดย น.ส.เบญจามาษ  เป็นผู้เช่าเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ในราคา 8,000 ต่อเดือน โดยยาไอซ์ ที่บรรจุอยู่ในกระสอบจำนวน 40 กิโลกรัม นั้น ตนเองพร้อมกับนายนราวุฒิ  และ น.ส.เบญจมาษ  ได้พากันไปรับมาจากบริเวณริมถนนใกล้กับศูนย์การค้าเดอะวอร์ค สาขาราชพฤกษ์ ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรีโดยมีหัวหน้าของนายนราวุฒิ เป็นคนโทรสั่งให้นายนราวุฒิ ไปรับยาไอซ์ดังกล่าว นำไปเก็บไว้ที่บ้านเช่า ที่หมู่บ้านรังสิยา เพื่อรอสั่งการอีกที
นายณรงค์ชัย ฯ ได้ยังให้การรับอีกว่า ตนเองนั้นพักอาศัยอยู่ที่ หมู่บ้านปลาทองกรัต เลขที่ 4/29 ถ.บางนาตราด  ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ร่วมกับ นายนราวุฒิฯและน.ส.เบญจมาษ  ฯ
ซึ่งเป็นผู้เช่า  โดยตนเองพึ่งจะมาขอทำงานกับนายนราวุฒิ ฯ ได้ 2 เดือน และตนเองเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว  โดยเคยไปรับและส่งยาให้กับลูกค้าแล้ว ตามคำสั่งของนายนราวุฒิ ฯ มาแล้ว ประมาณ 4 ครั้ง  โดยเงินที่ได้รับจ้างค่าจ้างตนเองนำไปใช้จ่ายธุระส่วนตัวและเอาไปใช้เที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิงทั่วไปย่านพื้นที่สมุทรปราการ 
และนายณรงค์ชัย ฯ ยังได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบยาไอซ์ น้ำหนัก 244 กรัม บรรจุอยู่ในห่อพลาสติกซึ่งเป็นห่อที่ไว้สำหรับบรรจุชาจีน ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องเก็บของใต้บันไดบ้าน
โดยการทำงานนั้น นายนราวุฒิ ฯ จะมอบหมายให้ตนเอง ขับรถไปรับยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอบางปะอิน , อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และแถวถนนราชพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี  โดยได้รับค่าจ้าง จำนวน 500 บาท/ต่อลูก(2,000เม็ด)ยาบ้า  ,  จำนวน 500 บาท/ต่อ กก. (ยาไอซ์)  ซึ่งนายนราวุฒิ ฯ จะเป็นคนสั่งการให้ไปรับยาเสพติดในช่วงหัวค่ำ หรือในช่วงเช้ามืด เพราะว่าเป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้มงวดในการการตั้งด่าน โดยส่วนใหญ่ตนเอง จะนำยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้า ริมถนนอ่อนนุช ซึ่งในการส่งให้ลูกค้าแต่ละครั้งนั้นจะส่งยาบ้า  จำนวน 4-5 มัด ( 40,000-50,000 เม็ด) ,ยาไอซ์ จำนวน 4-5 กิโลกรัม โดยเคยส่งยาไอซ์ให้กับลูกค้าแถวย่านอ่อนนุชและประเวศต่อครั้งจำนวนมากสุด อยู่ที่  10 กิโลกรัม  โดยในแต่ละวันจะส่งให้กับลูกค้าประมาณ 3-4 เจ้า โดยจะไม่นำไปส่งออกนอกพื้นที่ดังกล่าว โดยจะเป็นการวางทิ้งไว้ที่บริเวณริมถนน ใกล้กับจุดที่มีป้ายโฆษณา
จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาที่หลบหนีทั้ง 2 รายนั้นพบว่า
-นายนราวุฒิ  ลิมตศิริ  เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด   โดยเมื่อปี 2556 , 2558  เคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด ในพื้นที่ สน.ประเวศ
-น.ส.เบญจมาศ  สายหร่าย เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยเมื่อปี 2552 เคยถูกจับกุมในข้อหา ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย
โดยในคดีดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ได้ทำการตรวจยึดยาเสพติด
รวมยาไอซ์ ที่ทำการตรวจยึดได้จำนวน 43.244 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน 21,622,000 บาท
รวมยาบ้า ที่ทำการตรวจยึดได้จำนวน 896,000 บาท คิดเป็นเงิน  89,600,000 บาท
                                            รวมเป็นเงิน  111,222,000 บาท
พร้อมนำตัวผู้ต้องหา และของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้การตรวจยึดและอายัดสมุดฝากบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาทั้ง 2 ที่ยังหลบหนี
ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม  ได้พยายามติดตามจับกุมตัวผู้ต้องทั้ง 2 คนที่ยังหลบหนีอยู่ และจะขยายผลเพื่อทำการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดดังกล่าว และจะใช้มาตรการยึดทรัพย์กับผู้ต้องหาในคดีนี้ ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 อีกด้วย







0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น