pearleus

วันอังคารที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2560

รมว.มท.ประธานการประชุม ศปถ. สั่งคุมเข้มทุกมาตรการ ดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ย้ำยึดหลัก 4 ห้าม 2 ต้อง เน้นบูรณาการและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ภายใต้แนวคิด “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร”


วันนี้ (4 เม.ย. 60) เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุม1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) โดยความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานภาคีเครือข่าย โดยมีการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด กำชับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2560 ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" ควบคู่การเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ตามคำสั่ง คสช. มาตรา 44 รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนยึดหลัก "4 ห้าม 2 ต้อง" สร้างความปลอดภัยในการเดินทาง เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน และส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในสังคมไทยร่วมกันอย่างยั่งยืน
พลเอก อนุพงษ ์เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลกรานต์ พ.ศ.2560 ภายใต้แนวคิด “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” โดยมุ่งรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และมีน้ำใจแก่ผู้ร่วมใช้เส้นทาง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามหลัก “4 ห้าม 2 ต้อง” ได้แก่ 4 ห้าม...ห้ามขับรถเร็ว ห้ามดื่มแล้วขับ ห้ามโทรแล้วขับ ง่วงห้ามขับ  2 ต้อง...ต้องสวมหมวกกันน็อก และคาดเข็มนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง สำหรับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งมีทั้งการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และรวมถึงการใช้บังคับตามมาตรา 44 ของ คสช. ที่บังคับให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง และการกวดขันอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ และการคุมเข้มผู้ขับขี่ที่ดื่มแล้วขับ รวมถึงการจัดตั้งจุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และตรวจจับความเร็ว ซึ่งจะบรรลุเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุทางถนนได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน โดยขับรถอย่างมีวินัย เคารพกฎหมายจราจร และมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้ทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2560 เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ในการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ได้กำชับให้พื้นที่ มีการกำหนดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัยและปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Zoning) รวมทั้งมีการส่งเสริมการจัดกิจกรรมสวดมนต์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีกด้วย

      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้ทุกจังหวัดเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะสถานที่จัดงานเทศกาลสงกรานต์ได้เน้นย้ำให้ดูแลเป็นพิเศษ โดยให้ตั้งด่านตรวจและจุดบริการตามเส้นทางต่างๆ รวมทั้งประสานชุมชนให้ช่วยกันใช้มาตรการทางสังคมในรูปแบบ “การตั้งด่านชุมชน” เพื่อเพิ่มความระมัดระวังและดูแลความปลอดภัยในระดับพื้นที่ 
     ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้บูรณาการในการทำงานอย่างเต็มที่ โดยประสานการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งในด้านการสนับสนุนการทำงานตามมาตรการและแนวทางที่กำหนด รวมทั้งขอความร่วมมือสื่อต่างๆ ช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักและมีจิตสำนึกในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนร่วมกัน     
     
ทั้งนี้ สำหรับการเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนร่วมกันรณรงค์เล่นน้ำสงกรานต์ในปีนี้ ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ทุกชีวาปลอดภัย” ด้วยการเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างประหยัด และถือปฏิบัติตามประเพณีอันดีงามที่ควรอนุรักษ์เชิงสร้างสรรค์เพื่อร่วมสืบสานประเพณีไทยให้คงอยู่ตลอดไป ท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย และมีความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น