pearleus

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

จับแก๊งค์ปล้นรถขนยางพารา


เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 25 มีนาคม 2558 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ท.วีระพงษ์  ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์เป็นยางพารา 2 ครั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร คือ นายไตรสิทธิ์ ภัทรสิทธิพัฒน์ คนขับรถกระบะ , นายชาตรี ทึกขุนทด คนใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้เสียหาย และ นายบุญเลิศ ทรงจันทร์ ผู้จัดหารถบรรทุกและนำยางพาราไปขาย โดยมีของกลางเป็น อาวุธปืนพกขนาด.22,เครื่องกระสุน,แม๊กกาซีน 1 อัน,รถยนต์กระบะ 1 คัน,โทรศัพท์มือถือ 2  เครื่อง,และ รถกระบะบรรทุก (มีข้างเสริม)  2 คัน นอกจากนี้ยังมีแผนผังการก่อเหตุของคนร้ายกลุ่มนี้มาแสดงด้วย ซึ่งในแผนผังนั้นยังคงมีบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 2 คน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเปิดเผยได้ คือ บุคคลที่คาดว่าน่าจะเป็นคนขับรถภายในบริษัทฯ ที่มีการขนส่งยางพารา กับ บุคคลที่รับซื้อยางพารา ซึ่งอยู่ในจังหวัดนครปฐม อีกทั้งยังคาดการณ์อีกว่าน่าจะมีคนที่คอยบงการและวางแผนให้กลุ่มคนเหล่านี้ร่วมกันปล้นรถขนยางพารา ซึ่งน่าจะอยู่ในพื้นที่ภาคใต้
พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้ง 3 คนนี้ ได้ร่วมกันก่อเหตุเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2558 เวลาประมาณ 02.30 น. บริเวณริมถนนเอกชัย  ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร เขตความรับผิดชอบของ สภ.เมืองสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 เวลาประมาณ 04.00 น. บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ริมถนนพระราม 2 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร เขตพื้นที่ความรับผิดชอบของ สภ.บางโทรัด โดยลักษณะของการก่อเหตุทั้งสองครั้ง คือ คนร้ายทั้ง 3 คน จะใช้อาวุธปืนจี้บังคับคนขับรถขนส่งยางพารา จากนั้นก็ใช้ผ้าเทปสีดำมัดมือมัดเท้าปิดตา ก่อนนำขึ้นรถบรรทุกสิบล้อคันที่ผู้เสียหายขับมา โดยจะขับรถไปประมาณ 20 นาที แล้วก็ไปจอดในสถานที่แห่งหนึ่ง แล้วทั้ง 3 คน ก็ได้ช่วยกันขนถ่ายสินค้ายางพารา จากหลังรถ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ ซึ่งเมื่อเสร็จแล้วผู้ที่จี้บังคับก็ได้ขับรถบรรทุกต่อไปอีกประมาณ 10 นาที จึงจอดรถ แล้วก็ทิ้งผู้เสียหายกับรถไว้ ส่วนคนร้ายได้หลบหนีไป ซึ่งการก่อเหตุทั้งสองครั้งนั้นมีมูลค่าความเสียหายครั้งละประมาณ 1 ล้านบาท ส่วนสถานที่ๆ คนร้ายได้ขับรถบรรทุกยางพาราไปจอดเพื่อจะขนถ่ายยางพาราไปยังรถอีกคันนั้น ทราบต่อมาภายหลังจากที่จับกุมผู้ต้องหาและได้ให้การรับสารภาพว่า คือ บริเวณลานด้านหลังมหาชัยเมืองใหม่ซึ่งเป็นลานโล่งเปลี่ยวและมีต้นหญ้าสูงขึ้นปิดบังคนภายนอก
ทั้งนี้ต่อมาจากการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร และตำรวจภูธรบางโทรัด ก็ทำให้สามารถติดตามจับกุมตัวบุคคลทั้ง 3 ได้ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้นำยางพาราไปขายให้กับพ่อค้ารายหนึ่งในจังหวัดนครปฐม อีกทั้งยังมีบุคคลภายในบริษัทที่ขนส่งยางพาราร่วมในขบวนการด้วย ซึ่งจะเป็นคนที่คอยบอกพิกัดของรถเป้าหมายว่าขับมาถึงที่ไหน ลงมือก่อเหตุเมื่อไหร่ และเมื่อถึงที่สบโอกาสก็จะส่งสัญญาณให้ทั้ง 3 คนเข้าก่อเหตุทันที โดยยางพาราทั้งหมดหลังจากที่ปล้นมาได้ก็จะนำไปขายทันที ซึ่งได้เงินมาแล้วเกือบ 1 ล้านบาท


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาแก่ทั้ง 3 คนว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมส่วนผู้ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเปิดเผยได้นั้น ก็จะเร่งรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป








0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น