pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

กองปราบ รวบอดีตตำรวจร่วมกับพวกปล้นทรัพย์เหยื่อ


เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป.มอบหมายให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุม ส.ต.ท.ณัฐพล หรือจ่านุ จันทร์เพชร อายุ 50 ปี อดีตตำรวจสังกัดตำรวจภูธรภาค 8 อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 14 ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ตามหมายศาลจังหวัดไชยา ที่ 154/2557 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน , แต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ โดยมีและใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม , พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา


                ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 13 กันยายน 2557 ผู้ต้องหาร่วมกับพวก รวม 3 คน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจสังกัด บช.ปส.บุกเข้าปล้นทรัพย์จากนายรณชัย หมันง๊ะ หรือบังบี โดยอ้างว่ามาขอตรวจค้นยาเสพติด เหตุเกิดที่ถนนสายบ่อเดื่อ หมู่ 3 ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 5/3 หมู่ 4 ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นได้นำเอาทรัพย์สินมีค่า ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท เงินสด 9,000 บาท อาวุธปืนไม่ทราบขนาด 1 กระบอก ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี
                ภายหลังเกิดเหตุชุดสืบสวนตำรวจ สภ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุไว้แล้ว ได้แก่ นายดำรงศักดิ์ บ่อทอง , ส.ต.ท.ณัฐพล , นายสมชาย ไม่ทราบนามสกุล และ ด.ต.สุรัติ ปาโทสิทธิ์ อดีต ผบ.หมู่ สภ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัว นายดำรงศักดิ์ , ด.ต.สุรัติ ไว้ได้ โดยทั้งสองให้การซัดทอดว่า ส.ต.ท.ณัฐพล หรือจ่านุ ว่าเป็นผู้วางแผนก่อเหตุทั้งหมด กระทั่งชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ได้เข้าจับกุม ส.ต.ท.ณัฐพล ไว้ได้ดังกล่าว ซึ่งคดีนี้คงเหลือเพียง นายสมชาย ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม
                สอบสวนเบื้องต้น ส.ต.ท.ณัฐพล ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชยา รับไว้ดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ส.ต.ท.ณัฐพล ถูกให้ออกจากราชการมาแล้วกว่า 5 ปี หลังจากต้องคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์จากผู้เสียหาย และเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ขณะที่ ด.ต.สุรัติ ต้องโทษในคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ โดยก่อเหตุอุ้มเหยื่อซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ซึ่งตามแนวทางการสืบสวนพบว่าทั้งสอง เคยร่วมกับพวก ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น