ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายชาญวิทย์ กาญจนวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Natural & Premium Food จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯ เตรียมงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เพื่อยกระดับระบบปฏิบัติการของบริษัท ให้สอดรับกับอุตสาหกรรมยุค 4.0
ทั้งนี้เนื่องจากการทำงานด้วยระบบ Manual บางอย่างอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงปรับปรุงระบบปฏิบัติการของบริษัทฯ ครั้งใหญ่ นอกจากยกระดับระบบการทำงานของบริษัทฯ แล้ว ยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์ของไทยด้วย เนื่องจากเราจะใช้นวัตกรรมเครื่องจักรใหม่มาใช้ตรวจสอบสารพิษ และ ปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในผัก ของแบรนด์ N&P
โดยประกอบด้วยเครื่อง HPLC (High-performance liquid chromatography) และ GC (Gas chromatography) ซึ่งการนำนวัตกรรมเครื่องจักรเข้ามาใช้ในตรวจสอบผักของแบรนด์ N&P ก็เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และไม่ให้การหลุดรอดของผักที่ไม่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ซึ่งทางบริษัทฯ เราไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้แสดงความรับผิดชอบ
ทั้งนี้เพราะความไว้วางใจของลูกค้าคือกำลังใจของแบรนด์เรา และตลอดระยะเวลากว่า 16 ปีของการทำงานที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ พัฒนาระบบปฏิบัติการมาโดยตลอด การันตีคุณภาพผลิตภัณฑ์ และ ระบบการผลิตของโรงงาน จากรางวัลและประกาศนียบัตร ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย อาทิ มาตรฐาน Organic Thailand ซึ่งออกโดย กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ EU Organic USDA Organic GMP HACCP และ องค์การอาหารและยา (อย.)
ส่วนการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์แบรนด์ N&P ขณะนี้เราทุ่มเงินกว่า 2.5 แสนบาทต่อเดือนในการซื้อชุดตรวจสอบสารตกค้างจากองค์การเภสัชกรรม และยังใช้บริการห้องแล็ปของ AMARC ซึ่งเป็นห้องแล็ปที่ได้มาตรฐานจากหน่วยงานของภาครัฐและมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งใช้ตรวจสอบสารเคมีอันตรายและปุ๋ยเคมีตกค้าง ผักจากแบรนด์ N&P ผักของเรามาจากเกษตรกร ร่วมโครงการกว่า 100 รายทั่วประเทศ และ การยกระดับการตรวจสอบคุณภาพที่มีความเข้มข้นนี้ จะทำให้มั่นใจได้ว่าผักของเราเป็นอินทรีย์แท้
นอกจากนี้ เรายังเป็นบริษัทฯ ที่คืนกำไรให้กับสังคมโดยการนำผักไปมอบให้กับวัด และ มูลนิธิ หลายแห่ง อาทิ วัดพระบาทน้ำพุ วัดป่าสุขใจ มูลนิธิเด็กกำพร้า จ.กาญจนบุรี มูลนิธิธรรมานุรักษ์ โรงเรียนปลูกศรัทธา เพราะรอยยิ้มของผู้รับคือความสุขของแบรนด์ N&P
สำหรับ บริษัท Natural & Premium Food จำกัด เริ่มก่อตั้งเมื่อ ปี พ.ศ. 2547 รวมระยะเวลาในการดำเนินการ 16 ปี ซึ่งมีปณิธานและความตั้งใจที่แน่วแน่ในดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และมุ่งมั่น พัฒนา อยู่เสมอโดยมีเป้าหมายคือการผลิตสินค้าที่มีประโยชน์ และคุณค่าตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และได้ช่วยเหลือเกษตรกรที่เจอปัญหา ราคาพืชผักตกต่ำ และ ไม่มีตลาดที่แน่นอน อีกทั้งทางบริษัทฯ ยังให้ความรู้กับเกษตรกร โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาผู้ชำนาญพร้อมให้การอบรมเกษตรกรเป็นประจำหมุนเวียนไปตามภูมิภาคต่างๆ โดยในปัจจุบันมีฟาร์มในระบบจำนวนกว่า 100 ราย ทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด...
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น