pearleus

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2563

สมุทรสาคร จัดพิธีถวายราชสักการะ ร. 5 เนื่องในงานประเพณี 18 มีนา สุขาภิบาลท่าฉลอม (วันท้องถิ่นไทย)



 



 สมุทรสาคร  จัดพิธีถวายราชสักการะ ร. 5
เนื่องในงานประเพณี 18 มีนา สุขาภิบาลท่าฉลอม (วันท้องถิ่นไทย)   
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 18 มี.ค.2563 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร  มี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในโอกาส วันท้องถิ่นไทยประจำปี 2563  โดยมีผู้เข้าร่วม อาทิ    นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  นายมณฑล ไกรวัตนุสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร และนายชิงชัย    บุญประคอง ปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เข้าร่วมพิธี
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้พระราชกำหนดสุขาภิบาลกรุงเทพฯ ร.ศ. 116 ขึ้น อันเป็นต้นแบบของการดำเนินงานสุขาภิบาล ครั้นเมื่อ ร.ศ. 123 พระองค์ได้เสด็จประพาสต้นผ่านมา ณ ตำบลท่าฉลอมครั้งหนึ่ง และตำบลมหาชัยอีกครั้งหนึ่ง ทรงเล็งเห็นถึงความพร้อมของตำบลท่าฉลอม ซึ่งถือเป็นชุมชนที่มีความเจริญมากกว่าชุมชนอื่น ๆ ตามที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเสนอ จึงทรงตัดสินพระทัย ประกาศจัดตั้ง สุขาภิบาลตำบลท่าฉลอม ขึ้น เป็นสุขาภิบาลหัวเมืองนอกมณฑลกรุงเทพฯ แห่งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2448 (ร.ศ. 124)  
สำหรับความเป็นมาของ วันท้องถิ่นไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอกําหนดให้เป็นวันที่ 18 มีนาคมของทุกปี เพื่อรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีพระบรมราชโองการยกฐานะตําบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม นับเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอํานาจการปกครองให้แก่ประชาชน และเป็นการถือกําเนิดขึ้นของการปกครองส่วนท้องถิ่นครั้งแรกในประเทศไทย โดยกิจกรรมเนื่องในวันท้องถิ่นไทย ประกอบด้วย พิธีทำบุญถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ และทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร   บริเวณสี่แยกตลาดสุขาภิบาล ถ.ถวาย ต.ท่าฉลอม  



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น