ผู้ว่าฯลำพูน,อธิบดีกรมสค.และผอ.ศูนย์ฯลำพููน
ทั้งนี้อธิบดีสตรีและสถาบันครอบครัว ได้เดินเยี่ยมเยียน กล่าวทักทาย เป็นกำลังใจให้กลุ่มอาชีพสตรีที่นำผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับการฝึกอบรมจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีฯ มาแสดงและจัดจำหน่ายภายในงานกว่า 20 บูธ ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน
นายเลิศปัญญา กล่าวว่า กรมฯ มีนโยบายในการดำเนินงานด้านสตรีและครอบครัวโดยการส่งเสริมให้สตรีและครอบครัวมีความมั่นคงในทุกมิติ มีการดำเนินการด้านยุทธศาสตร์ระดับประเทศ ถ่ายทอดสู่การดำเนินงานไปยังจังหวัดต่างๆ โดยผ่านการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) อีกทั้ง สค. เรายังมีหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ชื่อว่า ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว 8 ศูนย์ 8 เขตรับผิดชอบ ที่จะขับเคลื่อนงานนโยบายในการพัฒนาศักยภาพสตรี การฝึกอาชีพ การสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การสนับสนุนงานครอบครัวของศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) และท้องถิ่น ให้สตรีและครอบครัวในภูมิภาคได้รับการยกระดับสถานภาพให้ดีขึ้น มีความอยู่ดีกินดีและมีความสุข ไม่ตกไปเป็นเหยื่อของการค้าประเวณี และการค้ามนุษย์ ตลอดจนเป็นกำลังหลักในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป
อธิบดีกรมสค.ยังกล่าวต่ออีกว่า ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา บรมราชินีนาถจังหวัดลำพูน แห่งนี้เป็น 1 ใน 8 ศูนย์ ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ในสังกัด สค. ที่มีแนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางสังคมโดยการมุ่งเน้นองค์กรสมัยใหม่ เน้นคนเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการพัฒนา และการดำเนินงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ร่วมกันเป็นภาคีเครือข่าย การบูรณาการความร่วมมือกันทำงาน โดยระดมทรัพยากรของเครือข่ายมาจัดสวัสดิการสังคมแก่กลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นหลักการทำงานที่ให้ความสำคัญในฐานสิทธิ(right based approach) สิทธิมนุษยชน Human Right สิทธิพลเมือง Civil Right สิทธิและบทบาทหญิงชายและการพิทักษ์สิทธิของประชาชนทั้งอยู่ในสภาวะปกติและทั้งที่ตกอยู่ในสภาวะประสบปัญหาทางสังคม ให้องค์กรและผู้ปฏิบัติงานมีความพร้อมในการจัดการปัญหาทางสังคมในปัจจุบัน ของความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและการแก้ไขปัญหาความยากจน ตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่มีความเป็นพลวัตอยู่ตลอดเวลาทำให้สังคมโลกและสังคมไทยต้องเผชิญกับสภาวะความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนที่มีความประสงค์อยากฝึกอาชีพ อยากมีอาชีพมีงานทำและมีรายได้เข้ามาฝึกอาชีพ ซึ่งมีทั้งหลักสูตรที่จบมาแล้วมีงานทำมีอาชีพแน่นอน 100% และหลักสูตรที่เป็นการยกระดับให้สตรีมีทางเลือกประกอบอาชีพซึ่งเป็นหลักสูตรต่อเนื่อง เช่น หลักสูตรระยะสั้น 1 เดือน อาทิ หลักสูตรขนมไทยและเบเกอรี่กระเป๋าผ้าด้นมือ อาหารว่างและเครื่องดื่ม เพ้นท์เล็บ และ
ตกแต่งเล็บ หลักสูตรระยะสั้น 3 เดือน หลักสูตรตัดผมชายหลักสูตรเสริมสวยสตรี หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ หลักสูตรระยะสั้น 6 เดือน การดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งหลักสูตรนี้เทียบโอน ปวช. หลักสูตรคอมพิวเตอร์ธุรกิจ หลักสูตรบัญชีหลักสูตรอาหารและโภชนาการ หลักสูตรตัดเย็บเสื้อผ้าหลักสูตรธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมด้วย
----------------------
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น