เมื่อ 6 ม.ค.60 นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในหลายจังหวัดในภาคใต้ เนื่องจากมีฝนตกหนักถึงหนั กมากมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและทุกหน่ วยงาน ที่เกี่ยวข้องได้เร่งระดมกำลั งเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการนำประชาชนผู้ประสบภั ยออกจากพื้นที่นำท่วมและพื้นที่ เสี่ยงได้สั่งการทุกหน่วยเร่ งระดมเรือ เครื่องยนต์ และรถยกสูง เข้าไปลำเลียงประชาชนที่ติดค้ างในบ้านพักหรือพื้นที่ต่างๆ ออกมาให้เร็วที่สุด โดยได้แจ้งให้จังหวัดที่ประสบภั ยขอรับการสนับสนุน อุปกรณ์ เครื่องมือ สะพานเชื่อมถนนขาดหรื อสะพานขาดชั่วคราว (แบรี่) เรือ และรถยกสูง ได้ที่ สำนักงานป้องกั นและบรรเทาสาธารณภัยภาคและจั งหวัดข้างเคียง หน่วยทหารบก หน่วยทหารเรือในพื้นที่หรือพื้ นที่ข้างเคียง หากไม่เพียงพอให้ใช้วิธีการจั ดจ้าง เช่าหรือซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรั บเรือหรือรถยกสูงของภาคเอกชนได้
ในส่วนของการช่วยเหลื อประชาชนเพื่อสนับสนุนอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค เข้าพื้นที่น้ำท่วม/เสี่ยงภัย และ จุดอพยพหรือที่พักพิงได้กำชั บให้มีการแบ่งพื้นที่ให้ชั ดและครอบคลุมทั่วถึง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ ประสานงานหน่วย ที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางเพื่ อร่วมสนับสนุนภารกิจในพื้นที่ แล้ว อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กรณี ยารักษาโรคและแพทย์หน่วยทหาร กรณี จังหวัดที่ต้องการเรือ เครื่องยนต์ ใช้ในการอพยพประชาชนก็ได้ขอให้ ประสานงานกับหน่วยทหารเรือในพื้นที่ได้โดยตรง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ขอรั บการสนับสนุนจากผู้บั ญชาการทหารเรือซึ่งท่านได้กรุ ณาอนุมัติไว้แล้ว
ด้านการดูแลประชาชนในที่พักพิง หรือจุดพักชั่วคราวเพื่อรอน้ำลด กระทรวงมหาดไทยได้รับทราบว่ามี ภาคเอกชนและหน่วยราชการในพื้นที่ ใกล้เคียง หรือจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่มีสถานการณ์น้ำท่วม มีความประสงค์จะเข้าไปบริ จาคอาหารปรุงเสร็จหรือสำเร็จรูป หรือเครื่องอุปโภคบริโภค และยารักษาโรคในสถานที่พักพิ งในจังหวัดประสบภัย
จึงได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจั งหวัดทุกจังหวัดที่ไม่ประสบภั ยน้ำท่วมและมีความประสงค์จะเข้ าไปช่วยเหลือประชาชนได้เป็นหน่ วยกลางในการประสานงานระหว่างผู้ ที่ประสงค์จะเข้าไปช่วยเหลื อและจังหวัดเป้าหมายให้เป็นไปด้ วยความเรียบร้อย
และล่าสุดในวันนี้ (6 ม.ค.60) พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภั ยแห่งชาติ ได้ลงนามในประกาศกองบัญชาการป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่ งชาติประกาศยกระดับการจั ดการสาธารณภัย เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ ระดับ 3 โดยจัดตั้งกองบัญชาการป้องกั นและบรรเทาสารณภัยแห่งชาติ ส่วนหน้า ขึ้น ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภั ยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลื อประชาชน และจัดตั้งส่วนสนับสนุนการปฏิบั ติงานในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.) ตามที่ผู้บัญชาการป้องกั นและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เห็นสมควร
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ทุ กจังหวัดที่ประสบภัยแบ่งพื้นที่ ให้ชัดเจนต่อการเข้าให้ความช่ วยเหลือทั้งพื้นที่ที่เกิดภั ยแล้ว หรือเสี่ยงภัย กำหนดผู้รับผิดชอบอำนวยการพื้ นที่ให้ชัดเจน และให้ประชาสัมพันธ์สร้ างความเข้าใจกับสาธารณชนไม่ให้ ตื่นตระหนกและให้ประชาชนได้รั บทราบข่าวสารที่ถูกต้อง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น