ย้ำเดินหน้าเข้มข้น
ต่อเนื่อง ยึดหลักการบังคับใช้กฎหมายและเป็นไปตามมาตรฐานสากล
วันนี้ (5 ก.ย. 58) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เปิดเผยว่าตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อให้ประเทศไทยพ้นจากระดับ Tier 3 กระทรวงมหาดไทยได้นำนโยบายของรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
โดยมอบหมายให้กรมการปกครองเร่งขับเคลื่อนภารกิจการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ภายใต้แผน Road Map
7 ขั้นตอน คือ 1. การขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติระดับตำบล
หมู่บ้าน และชุมชน 2. การป้องกัน เฝ้าระวัง
เน้นความสำคัญด้านการข่าว 3.การเพิ่มช่องทางรับเรื่องร้องเรียนแจ้งเบาะแสผ่านศูนย์ดำรงธรรมทุกระดับ 4.
การบังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด 5. การคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายและพยาน 6.
การตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด และ 7. การประชาสัมพันธ์สร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชน
ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มข้นทั้งในระดับกระทรวง
จังหวัด และอำเภอ โดยเฉพาะในระดับพื้นที่ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ
ทำหน้าที่บูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
มีผลการดำเนินงานถึงปัจจุบัน ดังนี้
ด้านการป้องกัน กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติ เมียนมา ลาว
และกัมพูชาในปี 2557 และในปี 2558 ได้เปิดให้มารายงานตัวใหม่อีกครั้ง จำนวน 1,050,068
ราย เพื่อผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวอีก 1 ปีเพื่อรอการพิสูจน์สัญชาติต่อไป
และเปิดต่ออายุและจดทะเบียนใหม่เฉพาะแรงงานประมงปี 2558 อีกจำนวน
80,418 ราย รวมทั้งการดำเนินการให้สถานะที่ถูกต้องกับชนกลุ่มน้อยและบุคคลไร้สัญชาติซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน
ด้านการสกัดกั้นและการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเข้าถึงเครือข่ายค้ามนุษย์
รวมถึงการรับแจ้งข้อมูลข่าวสาร ได้มีการประสานงานกับทุกภาคส่วนและทุกระดับ
ตั้งแต่ระบบการข่าว ระบบฐานข้อมูล และการปฏิบัติเพื่อสกัดกั้นการลำเลียงคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทุกพื้นที่
โดยจัดตั้งชุดปฏิบัติการระดับตำบลมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทำหน้าที่สำรวจตรวจสอบผู้หลบหนีเข้าเมืองหรือผู้ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายการค้ามนุษย์ในพื้นที่ของตนเอง
และพัฒนากลไกการรับแจ้งข้อมูลเบาะแสผ่านเครือข่ายศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอ
ด้านการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ ได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ
โดยพนักงานฝ่ายปกครองสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปราม
จับกุม ผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้มีการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ
โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น แรงงานประมง แรงงานในโรงงาน สถานประกอบการ
และการบังคับค้าประเวณีในสถานบริการ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ
รวมทั้งการนำคนมาขอทาน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์ส่งดำเนินคดีจำนวน 16 คดี
ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้จำนวน 160 คน
และลงพื้นตรวจสอบติดตามนายจ้าง สถานประกอบการ และสถานที่เสี่ยงอื่นๆ กว่า 5,758
แห่ง ตลอดจนการสนธิกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ที่อาจเป็นพื้นที่พักพิงของกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์
ทั้งพื้นที่ป่าเขา พื้นที่ชายแดนและเกาะแก่งต่างๆ โดยประสานกับกอ.รมน.ภาค 4และหน่วยกำลังในพื้นที่ดำเนินการแล้วใน 67 จังหวัด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า
กระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ
และเจ้าหน้าที่ทุกระดับที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเข้มข้นและต่อเนื่องทั้งด้านการป้องกัน การดำเนินคดี
และการให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
โดยเฉพาะการทำงานเชิงพื้นที่เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยยึดหลักการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
มีประสิทธิภาพ และการดำเนินงานตามมาตรฐานสากลเพื่อให้ปัญหาการค้ามนุษย์หมดสิ้นไปจากประเทศไทย
วันนี้ (5 ก.ย. 58) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่
ด้านการป้องกัน กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับหน่
ด้านการสกัดกั้นและการเพิ่
ด้านการปราบปรามขบวนการค้ามนุ
รัฐมนตรีว่
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น