วันที่ 22 กันยายน 2558 เวลา 09:30 น. นายปิติ ทั้งไพศาล
นพ.สสจ.จังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดแถลงข่าวชี้แจง กับสื่อมวลชนจังหวัดร้อยเอ็ดและหน่วยงานสาธารณสุข
20 อำเภอ ใน สตรีตั้งครรภ์เป็นไข้หวัดใหญ่รุนแรงจนเสียชีวิตทั้งแม่และลูก ว่า
ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี หญิงตั้งครรภ์ อายุ ๑๗ ปี ท้องแรก
อาชีพแม่บ้าน อาศัยอยู่ที่อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด สิทธิการรักษา
บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า การศึกษา ม. 3 ตรวจพบว่าท้องแฝดโดยการอัลตราซาวด์
เมื่อตั้งท้องได้ 4เดือน วันที่ 9 กันยายน
2558 เวลา 00.33 น. มาโรงพยาบาลด้วยอาการ
ไข้ ไอ เจ็บคอมา 1 วัน ซึ่งตั้งท้องได้ 8 เดือน ปฏิเสธโรคประจำตัว ตรวจพบมีไข้สูง หมอบอกว่าเป็นโรคหลอดลมอักเสบและให้ยากลับไปกินต่อที่บ้านและให้มาฝากท้องตามนัดในตอนเช้า
ซึ่งในตอนเช้าตรวจซ้ำไม่มีไข้ จึงให้ยาบำรุงครรภ์กลับบ้านไป ต่อมาเวลา 20.30 น. มีไข้ ไอ เจ็บคอและเจ็บครรภ์ จึงกลับมาโรงพยาบาล พบมีไข้สูง
ความดันเริ่มสูง 144/81 มม.ปรอท
จึงให้นอนรักษาในโรงพยาบาลในห้องรอคลอด เวลา 21.00 น.
ตรวจภายในปากมดลูกเปิด 3 ซม. เนื่องจากท้องแฝด
และยังไม่ครบกำหนดคลอด หมอได้คุยกับญาติจะส่งต่อโรงพยาบาลร้อยเอ็ดซึ่งมีความพร้อมทั้งคนและเครื่องมือ
ในตอนนั้นตรวจคลื่นหัวใจทารกในท้องพบเต้นเร็ว 170-180 ต่อนาที จึงให้น้ำเกลือและใส่หน้ากากออกซิเจนช่วย และโทรปรึกษาโรงพยาบาลร้อยเอ็ด
ให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด เวลา21.30 น.
ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว เหนื่อยหอบมาก นอนราบไม่ได้
จึงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมาใส่ท่อหายใจที่ห้องฉุกเฉินและต่อเครื่องช่วยหายใจ
พบความดันสูงมาก 200/120 มม.ปรอท จึงได้ให้ยาลดความดัน
และสังเกตอาการจนคงที่แน่ใจว่าสามารถส่งต่อได้ เวลา 22.40
น. ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ถึงเวลา 23.45 น.
ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น จึงได้ทำการกู้ชีพ
พบหัวใจกลับมาเต้นปกติ จึงย้ายเข้าหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม ภาพรังสีปอดพบปอดขวาเกือบทั้งหมดอักเสบและหัวใจโต
ผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นอีกครั้งเวลา 01.37 น.
ทำการกู้ชีพประมาณ 30 นาที ไม่ตอบสนอง ปรึกษาญาติ
ญาติไม่ประสงค์ให้กู้ชีพต่อผู้ป่วยเสียชีวิตเวลา 02.02 น.
หลังเสียชีวิต ญาติขอให้ผ่าเด็กออก พบเป็นแฝดสาม
*ผลการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เนื้อเยื่อปอดและเนื้อเยื่อหัวใจ พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด
เอ ไทพ์ เอช 3 ( Influenza A virus typing H3 )
**ข้อประเด็นข้อสงสัยของญาติ
ถาม – วันแรกที่มาทำไมไม่ได้นอนโรงพยาบาล
ตอบ – เพราะตรวจและประเมินอาการ ผู้ป่วยไม่มีข้อบงชี้ในการนอนโรงพยาบาล และญาติไม่แสดงความจำนง
ถาม – ตอนเช้านัดมาฝากท้องตามนัด ใช้เวลานานขณะรอมีอาการหนาวสั่น แต่หมอบอกว่าไม่มีไข้
ตอบ – นานเนื่องจากรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ร่วมกับตรวจร่างกายไม่มีไข้
ถาม – หมอบอกจะส่งต่อโรงพยาบาลร้อยเอ็ดตั้งแต่เวลา 21.00 น. รถพร้อม ญาติพร้อม แต่กว่าจะได้ไปก็เวลา 22.40
น. ทำอะไรอยู่?
ตอบ – เพราะคนไข้มีอาการแย่ลงหายใจหอบเหนื่อย
นอนราบไม่ได้ จำเป็นต้องให้การช่วยเหลือโดยใส่ท่อช่วยหายใจและรอสังเกตอาการจนกระทั่งมันใจว่าสามารถส่งต่อได้
ถาม – ทำไมโรงพยาบาลโพนทองไม่ทำการเอ็กซเรย์ปอดจะได้รู้ว่าป่วยเป็นอะไร
ตอบ – เพราะขณะนั้นผู้ป่วยมีอาการหนักเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
จึงต้องเร่งให้การช่วยเหลืออย่างฉุกเฉิน การเอ็กซเรย์ปอดจึงไม่ใช่ความจำเป็นเร่งด่วนในการรักษา
และสามารถรอมาทำที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ดได้
ถาม – ญาติบอกว่า “ไอ่คนที่ 3 แลนมาจุกยุคอหอย” (เนื่องจากฝากครรภ์ตรวจพบแฝด 2หลังผ่าพบเป็นแฝด 3 จึงมีความคิดว่าทำให้แม่หายใจไม่ได้)
ตอบ – ที่แม่หายใจไม่ได้เป็นเพราะน้ำท่วมปอดจากภาวะปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรง
ถาม – ญาติบอกว่า “ตอนมายังยางเองได่ บ่กี่ชั่วโมงคือตาย”
ตอบ – ไข้หวัดใหญ่ในสตรีตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่มากกว่าคนทั่วไป
โดยเฉพาะภาวะปอดอักเสบและอาจเสียชีวิตได้
ถาม – มีแนวทางป้องกันอย่างไร? ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียอีก
ตอบ – มีนโยบายการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้แก่กลุ่มสตรีตั้งครรภ์อยู่แล้ว
แต่มีปัญหาความครอบคลุมและจำนวนวัคซีนไม่เพียงพอ ทั้งจังหวัดได้รับวัคซีนจำนวน
51,280 โด๊ส สำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
และสตรีตั้งครรภ์
ถาม -การเยียวยาจะช่วยเหลือญาติและครอบครัวอย่างไร?
ตอบ- บันทึกยื่นขอความช่วยเหลือตามช่องทาง มาตรา 41
แล้วคณะกรรมการจะพิจารณาอีกที
***ความรู้เกี่ยวกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus)ไวรัสไข้หวัดใหญ่มี
3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A, B และ
C โดยสายพันธุ์ที่มีการระบาดมากที่สุด คือ สายพันธุ์ A
ซึ่งจำแนกต่อโดยไกลโคโปรตีน คือ Haemagglutinin มี 18 ชนิด (H1 – H18) และ Neuraminidase
มี 11 ชนิด (N1-N11) ไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในปี พ.ศ. 2552 คือ ไข้หวัดนกสายพันธุ์
H5N1โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคหนึ่งที่พบว่า
หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่มากกว่าคนทั่วไป
โดยเฉพาะภาวะปอดอักเสบและอาจเสียชีวิตได้ ทั้งนี้หญิงตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาในระบบหัวใจและหลอดเลือด
ระบบทางเดินหายใจ และมีความต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น โดยพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นไข้หวัดใหญ่มีโอกาสต้องรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่าหญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์และไม่เป็นไข้หวัดใหญ่ถึง 4
เท่าโรคไข้หวัดใหญ่ ในประเทศไทยจะพบมากตอนช่วงฤดูฝน
และพบต่อเนื่องในช่วงฤดูหนาว เชื้อไข้หวัดใหญ่มักมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ที่ระบาดเกือบทุกปี
คนที่เคยเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วก็มีโอกาสเป็นซ้ำได้ เนื่องจากอาจป่วยจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่เปลี่ยนสายพันธุ์ไป
และภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจะอยู่ได้ไม่นาน วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะมีส่วนประกอบของเชื้อไข้หวัดใหญ่
3 สายพันธุ์ โดยเป็น Type A จำนวน 2
สายพันธุ์ คือ H1N1 และ H3N2 และ Type B 1 สายพันธุ์ วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบของสายพันธุ์ไวรัสที่จะบรรจุในวัคซีนทุกปี
ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
ในปัจจุบัน
****แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนควรรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
โดยสามารถฉีดได้ในทุกช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งนอกจากจะป้องกันไข้หวัดใหญ่ในหญิงตั้งครรภ์แล้ว
ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจะผ่านรกจากมารดาสู่ลูกในครรภ์ด้วย ทำให้เมื่อคลอด
ลูกจะมีภูมิคุ้มกันไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่แรกเกิดโดยไม่ต้องฉีดวัคซีน
ไม่ต้องรอให้ครบตามเกณฑ์ปกติคือ 6 เดือนถึงจะให้วัคซีน
การได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในหญิงตั้งครรภ์จึงเป็นการได้ประโยชน์สองต่อ
คือหญิงตั้งครรภ์ได้รับประโยชน์โดยตรง ส่วนลูกได้รับประโยชน์โดยทางอ้อม
รายงานข่าวโดย เดช นาคราช/ร้อยเอ็ด
*ผลการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เนื้อเยื่อปอดและเนื้อเยื่อหั
**ข้อประเด็นข้อสงสัยของญาติ
ถาม – วันแรกที่มาทำไมไม่ได้
ตอบ – เพราะตรวจและประเมินอาการ ผู้ป่วยไม่มีข้อบงชี้
ถาม – ตอนเช้านัดมาฝากท้องตามนัด ใช้เวลานานขณะรอมีอาการหนาวสั่น แต่หมอบอกว่าไม่มีไข้
ตอบ – นานเนื่องจากรอผลตรวจทางห้องปฏิ
ถาม – หมอบอกจะส่งต่อโรงพยาบาลร้อยเอ็
ตอบ – เพราะคนไข้มีอาการแย่
ถาม – ทำไมโรงพยาบาลโพนทองไม่ทำการเอ็
ตอบ – เพราะขณะนั้นผู้ป่วยมีอาการหนั
ถาม – ญาติบอกว่า “ไอ่คนที่ 3 แลนมาจุกยุคอหอย” (เนื่องจากฝากครรภ์ตรวจพบแฝด 2หลังผ่าพบเป็นแฝด 3 จึงมีความคิดว่าทำให้แม่
ตอบ – ที่แม่หายใจไม่ได้เป็นเพราะน้
ถาม – ญาติบอกว่า “ตอนมายังยางเองได่ บ่กี่ชั่วโมงคือตาย”
ตอบ – ไข้หวัดใหญ่ในสตรีตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงเกิ
ถาม – มีแนวทางป้องกันอย่างไร? ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียอีก
ตอบ – มีนโยบายการฉีดวัคซีนไข้หวั
ถาม -การเยียวยาจะช่วยเหลือญาติ
ตอบ- บันทึกยื่นขอความช่วยเหลือตามช่
***ความรู้เกี่ยวกับไวรัสไข้หวั
ในปัจจุบัน
****แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ทุ
รายงานข่าวโดย เดช นาคราช/ร้อยเอ็ด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น