pearleus

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

(สุชาดา พรหมจำรัส/สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม)รายงาน

11 ตุลาคม 2554 เวลา 06.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล นำคณะข้าราชการ ทำบุญสืบชะตา ขอขมาแม่น้ำปิง โดยมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ รูป บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดและสะพานนวรัฐ หลังจากสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก ได้คลี่คลายลง โดยได้สร้างความสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินของราษฎรชาวจังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 25 อำเภอที่ผ่านมา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา ได้ร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย 
















ตำรวจภาค  จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
         ข่าวนครปฐม
 พันตำรวจเอก ณรงค์  ทรัพย์เย็น  รองผู้บังคับการ กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 7  เปิดเผยว่า  ตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม  ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผุ้ประสบอุทกภัยขึ้น  สามารถบริจาคเงินและสิ่งของได้ที่ทำการตำรวจภูธรภาค โดยบริจาคเงินผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย  สาขานครปฐม  ประเภทออมทรัพย์  เลขที่  701-0-88898-1  ชื่อบัญชี "ช่วยเหลือผ้ประสบอุทกภัยและครอบครัวตำรวจภูธรภาค 7"  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลข  034-245990-9,  084-4694460
โครงการชลประทานนครปฐมสรุปรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2554 
นายมรกต  คงทน  ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม  ได้รับแจ้งจาก  นายชูชาติ  รักจิตร  ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม  รายงานว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2554  โดยพิจารณาจากสภาพน้ำท่าเป็นเกณฑ์  ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ช่วงตั้งแต่ อำเภอบางเลน-อำเภอสามพราน   นอกจากนี้ในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครปฐม ก็มีน้ำท่วมขังอยู่ ส่วนสถานการณ์น้ำ ในวันพรุ่งนี้(13 ต.ค.54)  อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตรวจสอบแนวป้องกัน โดยพิจารณาจากข้อมูลระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำวัดได้ 3.23 เมตร สูงกว่าระดับตลิ่ง 23 เซนติเมตร (ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54  2 ซม.) และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตร ในเขต อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กำลังไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน   ปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่เกษตรด้านบน (ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด) ทำให้ระดับน้ำในคลองพระยาบันลือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งหรือแนวป้องกันที่เสริมใหม่อยู่ 25 เซนติเมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 11 ตค.54    2 เซนติเมตร  (ระดับตลิ่งใหม่ 3.50 เมตร) และได้มีการเปิดบานระบาย เพื่อรับน้ำเข้าพื้น ที่เกษตรฝั่งซ้ายของแม่น้ำท่าจีน บริเวณตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน ซึ่งจะส่งผลถึงอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑล สำหรับสภาพน้ำท่าในแม่น้ำท่าจีน  ที่จุดตรวจวัดระดับน้ำและปริมาณน้ำมี 4 จุดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.54 เวลา 06.00 น. คือ
ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง(T13) จังหวัดสุพรรณบุรีระดับน้ำท่าจีน 3.23 เมตร
จากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร  เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 23 เซนติเมตร  เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร  สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ   
สถานีวัดน้ำบางไทรป่า(T15) ระดับน้ำท่าจีน 2.69 เมตรจากระดับตลิ่ง 2.20 เมตร 
เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 49 เซนติเมตร  เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร  สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ    
สถานีวัดน้ำนครชัยศรี(T1) ระดับน้ำท่าจีน 3.23 เมตร จากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร 
เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 46 เซนติเมตร  เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 3 เซนติเมตร  สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ   
และสถานีวัดน้ำสามพราน(T14) ระดับน้ำท่าจีน 3.71  เมตร จากระดับตลิ่ง 4.00
เมตร  เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 29 เซนติเมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554  ลดลง 3 เซนติเมตร  สถานการณ์ยังเฝ้าระวังอยู่    
   
ส่วนสภาพน้ำท่าในคลองสายสำคัญ ได้แก่
คลองพระยาบันลือ(G1) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 25 เซนติเมตร ระดับตลิ่งใหม่ 3.50 เมตร  เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54  เพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร ปิดบานระบายด้านติดแม่น้ำท่าจีนสูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณน้ำ 14.40 ลบ.ม.ต่อวินาที,  
คลองพระพิมล(G4)  มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม  ทำให้ระดับน้ำวันนี้(12 ตค.54)สูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 43 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 3 เซนติเมตร  จึงต้องเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 22.25 ลบ.ม.ต่อวินาที และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด,   

- 2 -
คลองมหาสวัสดิ์(G7)  มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม  ทำให้ระดับน้ำวันนี้(12 ตค.54)สูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 29 เซนติเมตร  เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54  เพิ่มขึ้น 5เซนติเมตร  มีการปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 13.75 ลบ.ม.ต่อวินาที และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด  
คลองบางภาษี(G5)  ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 60 เซนติเมตร  เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 ลดลง 25 เซนติเมตร  ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง  ต้องปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 18.00 ลบ.ม.ต่อวินาที
คลองลำพญา(G6)  มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม  ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 55 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 5 เซนติเมตร ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง  จึงต้องปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 2.00 ลบ.ม.ต่อวินาที  และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด   
และคลองประชาศรัย(G3)  มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม  ระดับน้ำวันนี้(12 ตค.54)สูงกว่าตลิ่ง 51 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร  ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่งเช่นกัน  จึงต้องปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 2.40 ลบ.ม.ต่อวินาที  และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
          สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้ชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังเฉพาะจุดในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จำนวน 8 เครื่อง และได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่สะพานสำโรง-ลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี  จังหวัดนครปฐม จำนวน 20 เครื่อง สลับหมุนเวียนเดินเครื่องครั้งละ 14 เครื่อง  เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำท่าจีนให้ไหลลงสู่ทะเลให้เร็วขึ้น
ซึ่งจังหวัดนครปฐมจึงได้ประสานกับ สนง.ชลประทานที่ 13 ให้ควบคุมลดปริมาณน้ำในคลองชลประทานสาย 5 L และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งกำจัดวัชพืชสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างเร่งด่วนแล้ว   นอกจากนี้ยังให้มีการผลักดันน้ำจากคลองธรรมศาลา ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมือง  ไปเข้าคลองบึงกุมบึงช้างหรือบึงบางระกำ อำเภอนครชัยศรี   ลงคลองจินดา อำเภอสามพราน  เพื่อที่จะได้ผลักดันลงสู่ทะเล    และสั่งการให้ผลักดันน้ำพร้อมกัน 4 จุด ที่สะพานวัดเทียนดัด  สะพานอำเภอสามพราน   สะพานโพธิ์แก้ว  และสะพานวัดไร่ขิงอีกด้วย
         ด้านการคาดหมายลักษณะอากาศบริเวณจังหวัดนครปฐม  สถานีอุตุนิยมวิทยานครปฐม รายงานว่า ระหว่างวันที่ 10-16 ตุลาคม 2554  ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก  ในช่วงวันที่ 13-16 ตุลาคม 2554 ร่องมรสุมจะมีกำลังอ่อนลง และเลื่อนไปพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะนี้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย  ลักษณะนี้จะทำให้จังหวัดนครปฐม  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ตลอดช่วง  ในช่วงวันที่ 10-12 ตุลาคม 2554 มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา  อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะนี้ 




0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น