pearleus

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สถานการณ์น้ำสุพรรณบุรี -มงคล สว่างศรี - นิคม หลิวเลิศพิพัฒน์ สุพรรณบุรี/รายงาน



 หลังจากพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช อ.สามชุก อ.ศรีประจันต์ อ.เมือง อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ที่อยู่สองริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือน พืชสวนไร่นาน ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ไปรษณีย์สุพรรณบุรี ได้มีจดหมายและพัสดุตกค้างจำนวนมาก เนื่องจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำจ่ายได้  นายภัคดี ถาวรศิริ หัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าว่าพื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี มีน้ำท่วมหลายตำบล จึงต้องให้เจ้าหน้าที่พายเรือออกไปส่งจดหมายและพัสดุ ตามบ้านเรือนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เพื่อไม่ให้การติดต่อสื่อสารได้ตกค้างเป็นเวลานาน  ขณะที่ประตูระบายน้ำพลเทพ จ.ชัยนาท ระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีนเพิ่ม ทำให้แม่น้ำท่าจีนมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายอำเภอที่อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน ของ จ.สุพรรณบุรี ได้รับผลกระทบ น้ำเริ่มเอ่อล้นท่วมบ้านเรือน รอบ 2 และไหลทะลักข้ามถนนเขตพื้นที อ.บางปลาม้าหลายจุด นอกจากนี้ยังมีวัดและโรงเรียนก็ถูกน้ำท่วมรอบ 2 หลายแห่ง ขณะที่พระภิกษุสงฆ์ วัดชายทุ่ง ต.ท่าระหัด องเมืองสุพรรณบุรี ต้องช่วยกันกรอกกระสอบทรายเพื่อไปเสริมทำคันกั้นน้ำ ไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมโบราณสถานในวัด...ด้านนายเอกพันธ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี ได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนประชาชน ร้านค้าเขตเทศบาลเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์การน้ำท่วม เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำท่าจีนสูงมากขึ้น เกรงว่าน้ำจะล้นแนวเขื่อน เข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ ซึ่งของให้ประชาชน เตรียมขนย้ายข้าวของขึ้นอยู่ที่สูง และให้ติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง  ด้านนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าได้สั่งการให้หน่วยราชการทุกหน่ายร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเต็มที่ 


 ข่าวน้ำท่วม ( 5 ต.ค. 54 )
ประภัตร โพธสุธน อดีต ส.ส.จังหวัดสุพรรณบุรี และ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดาพาทัพนักข่าวกว่า 20 ชีวิต เดินทางออกจาก อ.ศรีประจันต์ ล่องไปตามแม่น้ำท่าจีน จนไปสิ้นสุดที่สะพานโพธิ์พระยา ต.โพธิ์พระยา อ.เมือง จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบระดับน้ำที่ ต.ท่าระหัด เพื่อให้นักข่าวได้เห็นข้อเท็จจริงว่าสุพรรณฯน้ำท่วมหนักขนาดไหน จากนั้นยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า สื่อมวลชนส่วนใหญ่จะมุ่งไปทำข่าวอยู่ที่ จ.ลพบุรี เมื่อไม่มีข่าวน้ำท่วมใน จ.สุพรรณบุรี ก็ว่าสุพรรณฯไม่มีน้ำ น้ำไม่ท่วม กันดาร แต่เนื่องจากเราอ่อนประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะรูปของ นสพ.ไทยรัฐที่ออกข่าวมาว่าการทำนารอบ 2 นั้น แท้จริงแล้วทุกจังหวัดก็มีเหมือนกันหมด มีทั้งน้ำท่วมและไม่ท่วม กรณีไปลงข่าวว่าชาวสุพรรณฯทำปรังนั้นจริง ตอนนี้ชาวนาในสุพรรณฯทำนา 3 ครั้ง แต่ต่อไปนี้จะทำนา 2 ครั้งต่อปี 1.เพื่อลดจำนวนเพลี้ยกระโดด 2.ลดพื้นที่เพื่อพักดิน 3.ทำให้ข้าวน้อยลงเพื่อให้ราคาดีขึ้นและหากทุกคนเห็นด้วยก็จะร่วมกันในข้อตกลงนี้ เริ่มจากเดือน ก.ค. – ต.ค. ไปเว้นในช่วงเดือน พ.ย. – ก.พ. แล้วเราก็จะปิดน้ำ ส่วนในเดือน มี.ค.ที่มีข่าวออกไปว่าทำนานั้นมันเป็นตารางการทำนาของชาวสุพรรณฯและที่มีนักข่าวไปถ่ายกันมานั้นมันเป็นนาดอนไม่ใช่น้ำท่วม ที่พูดไม่ได้ทำไปเพื่อเย้ยจังหวัดใกล้เคียงเลย สื่อก็ไปตี เราทำนา 2 ครั้งก็พอในเดือน มี.ค. – มิ.ย. เพื่อหยุดพักดิน จริงๆเขาจะทำต่อแต่ว่าผมไม่ยอมเพราะเราเสียหายจากเพลี้ยะกระโดดสีน้ำตาลมาก แล้วพอปีที่แล้ว จ.สุพรรณฯน้ำท่วมก็ไม่มีใครเห็นใจ ตอนเราท่วมจากน้ำเขื่อนกระเสียว พื้นที่หลายแสนไร่เราก็ไม่ได้โวยวายในเมื่อเป็นภัยธรรมชาติเราก็ต่อสู้กันผนังกั้นน้ำ การระบายน้ำ ทุกอย่างเราทำเป็นระบบ ทั้งการเตือนภัย ทางวิทยุ การประชุมผู้นำ การบอกที่วัดเพราะวัดเป็นที่ที่ดีที่สุดที่จะกระจายข่าวเพราะวัดมีการทำบุญทุกวัน แล้วก็มีหอกระจายข่าว เพื่อบอกชาวบ้านใกล้เคียงให้รู้ แล้วเราก็รู้ว่าปริมาณน้ำที่ไหนที่หนักบ้างส่วนการระบายน้ำนั้นเราได้ระบายลงไปทาง อ.บางปลาม้า สองพี่น้อง ออกนครชัยศรีและไปลงทะเลที่ จ.สมุทรสาคร โดยที่ จ.นครสวรรค์ตื่นตระหนกกันว่าจะป้องกันอยู่หรือไม่ พอปล่อยน้ำลงมาก็แบ่ง 2 ข้าง ทางซ้ายมาสุพรรณฯ ทางขวาไป อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ก็ต้องเห็นใจเขาที่ต้องมาอยู่บนถนน บนหลังคา วิกฤติแบบนี้ จ.สุพรรณฯก็มี มีทั้งแล้งทั้งน้ำท่วม โดยเฉพาะที่ อ.ดอนเจดีย์ อู่ทอง หนองหญ้าไซ และด่านช้าง แล้งมาก พื้นที่นามีประมาณ 1 ล้านไร่ ก็เก็บเกี่ยวไปบ้าง แต่บางส่วนก็โดนน้ำท่วม 2 แสนไร่ หนีไม่พ้นก็ต้องทำใจ โดยส่วนตัวไม่อยากให้พูดกันไปแบบคนละอย่าง คนละที แล้วก็เป็นประเด็นทางการเมือง แล้วก็พูดหาเสียง แน่นอนคนก็ต้องเห็นใจคนของตนเอง จ.สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี ก็ต้องเห็นใจคนของเขาเอง สุพรรณก็เหมือนกัน หัวอกผู้แทนก็ต้องดูแลเมื่อท่วมอย่างนี้ก็ต้องทำใจ เราก็รับทุกข์เหมือนกัน แต่การที่น้ำไม่ท่วมตลาดก็ต้องชมเชยนายกเทศมนตรีแต่ละที่จะหาว่าน้ำน้อยก็ไม่ใช่เพราะทุกอำเภอเขาสร้างแนวกั้นน้ำมาเป็นเดือนแล้ว วันนี้เราไม่ได้มาขอความเป็นธรรม เพราะวันนี้เราจะมาบอกให้ทุกคนได้ทราบว่า 1.จะไปโทษบรรหาร ว่าท่านเป็นคนกักน้ำเก็บกุญแจก็ไม่จริง 2.ชาวสุพรรณฯก็น้ำท่วมเหมือนกับทุกจังหวัด เราไม่ได้โวยวาย ไม่ได้เชิญสื่อมาดู วันนี้เราก็เชิญมาดูทุกคนก็เห็นแล้วว่าสุพรรณฯก็ท่วมเหมือนกัน เราก็เดือดร้อนเหมือนกัน







0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น