pearleus

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รองปลัดกระทรวงตรวจดูความพร้อมการผันน้ำแก้มลิง



รองปลัดกระทรวงตรวจดูความพร้อมการผันน้ำแก้มลิง
 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา นายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการชลประทานสมุทรสาคร กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริเวณประตูระบายน้ำ ประตูเรือสัญจร และสถานีสูบน้ำคลองมหาชัย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร หรือโครงการแก้มลิงมหาชัย โดยมีนายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและหัวหน้าส่วนราชการของจังหวัดสมุทรสาครที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดสมุทรสาครให้การต้อนรับ ซึ่งในการนี้รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รับฟังการบรรยายสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการรองรับน้ำของเขื่อนแก้มลิงมหาชัย ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพในการรองรับน้ำได้ถึงวันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปริมาณน้ำในช่วงนี้มีเพียงวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ยังคงสามารถรองรับมวลน้ำขนาดใหญ่ได้อีก และหลังจากที่รับฟังบรรยายสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็ได้ลงพื้นที่ดูการผันน้ำในแม่น้ำท่าจีน โดยใช้เรือประมงเดินเครื่องช่วยผลักดันน้ำให้ลงสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น
ด้านรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ก็เพื่อจะมาดูการเตรียมความพร้อมในการรองรับน้ำ เพราะเนื่องจากปีนี้มีมวลน้ำมหาศาลที่จะถูกปล่อยลงมาจากภาคเหนือและทางตอนบนกว่าหนึ่งหมื่นล้านลูกบาศก์เมตร เรามีลุ่มน้ำที่จะระบายลงสู่ทะเลอยู่ 3 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำบางปะกง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำท่าจีน แต่ในวันนี้ที่เกิดปัญหาอย่างหนักหนาสาหัสนั้น ก็เนื่องมาจากลุ่มน้ำบางปะกง และลุ่มน้ำท่าจีนที่ใช้รองรับมวลน้ำนั้น ประสิทธิภาพในการส่งออกมายังไม่มากพอ และไม่ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการทำแนวป้องกันน้ำท่วม ซึ่งวันนี้ก็อยากจะบอกทุกคนว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องแบกรับความทุกข์ร่วมกัน คือ ยอมให้พื้นที่ของตนเองเป็นพื้นที่ผ่านของมวลน้ำขนาดใหญ่ให้ไหลลงสู่ทะเลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งในส่วนของพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น นับเป็นความโชคดีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้สนธิความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ทำการขุดลอกคูคลองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อรองรับน้ำที่จะถูกปล่อยลงมา และยังมีโครงการแก้มลิงมหาชัย ที่สามารถรองรับน้ำได้วันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ ณ ขณะนี้เพิ่งจะมีน้ำมาถึงเพียงแค่วันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ซึ่งก็ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก และขีดความสามารถสูงสุดของการระบายน้ำในแม่น้ำท่าจีนออกต่อวันนั้นมีถึง 50 ล้านลูกบาศก์เมตร  ซึ่งหากมีการผันน้ำลงมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ จังหวัดสมุทรสาครอาจจะมีการท่วมบ้างแต่ก็คาดว่าระดับน้ำไม่น่าจะสูงเกิน 50 60 เซนติเมตร และน้ำจะท่วมสูงไม่นานเกิน 3  4 สัปดาห์ เนื่องจากสมุทรสาครเป็นพื้นที่ใกล้ทะเล เมื่อน้ำท่วมจะสามารถผลักดันน้ำให้ออกสู่ทะเลได้เร็วและระดับน้ำก็จะลดลงอย่างรวดเร็วไปด้วย
                ส่วนนายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครได้ออกประกาศ  เตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยขั้นที่ 2 คือการขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง เพื่อลดความสูญเสียจากอุทกภัย โดยแบ่งเป็นระดับความเสี่ยงของ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระทุ่มแบน สถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณมากขึ้น ประกอบกับมวลน้ำที่เอ่อล้นมาตามพื้นที่ลุ่มจากอำเภอพุทธมณฑล อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งคาดว่ามวลน้ำจะเอ่อล้นมาถึงเขตอำเภอกระทุ่มแบน จะมีความสูงประมาณ 50 – 60 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชน สถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม ในเขตอำเภอกระทุ่มแบน เก็บของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่อาจเสียหายจากน้ำ รวมทั้งย้ายปลั๊กไฟฟ้า สวิทซ์ไฟฟ้า ให้อยู่ในระดับสูงไม่น้อยกว่า 1 – 1.5 เมตร จากพื้น ให้แล้วเสร็จในช่วง 2 – 3 วันนี้ , อำเภอบ้านแพ้ว สถานการณ์ในพื้นที่รองรับน้ำจากคลองจินดา ผ่านคลองตาปลั่ง คลองเขื่อนขันธ์ และคลองเจ็ดริ้ว ลงสู่คลองดำเนินสะดวก มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น และอาจจะล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มได้ ระดับน้ำจะสูง 30 – 50 เซนติเมตร ขอให้ประชาชนเตรียมตัวให้พร้อมภายใน 2 – 3 วันนี้ และสุดท้ายอำเภอเมืองสมุทรสาคร สถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับน้ำที่เอ่อล้นมาตามพื้นที่ลุ่มจากอำเภอกระทุ่มแบน จะทำให้ระดับน้ำมีความสูง 30 – 50 เซนติเมตร ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมภายใน 3 – 5 วันนี้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น