รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิการสังคมและกิจการพหุวัฒนธรรม
เครือรัฐออสเตรเลีย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
พร้อมหารือร่วมกันด้านความช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบจากเมียนมา
26 เม.ย.60 เวลา 14.00 น.
ที่ห้องรับรองกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้การต้อนรับ นายเซด เซเซลจา (Senator the Hon
Zed Seselja) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิการสังคมและกิจการพหุวัฒนธรรม
เครือรัฐออสเตรเลีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อกระชับความสัมพันธ์
และหารือในประเด็นความร่วมมือด้านการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบจากเมียนมา
ระหว่างรัฐบาลเครือรัฐออสเตรเลียและรัฐบาลไทย
โอกาสนี้ นายเซด เซเซลจา
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิการสังคมและกิจการพหุวัฒนธรรม เครือรัฐออสเตรเลีย
ได้ชื่นชมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบจากเมียนมา
จะเห็นได้จากการที่ประเทศไทยร่วมมือกับข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) รวมทั้ง 15 องค์การกุศลเอกชน (NGOs) และหน่วยงานไทย ในการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบฯ
ด้วยการจัดระเบียบ ควบคุมดูแลผู้หนีภัยจากการสู้รบ และควบคุมดูแล NGOs ในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือทั้งด้านการแจกจ่ายเครื่องอุปโภค-บริโภค
การศึกษาและฝึกอบรมวิชาชีพ การแพทย์/การสาธารณสุข และการรักษาความปลอดภัย
ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการเตรียมความพร้อม
และเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้หนีภัยจากการสู้รบฯด้วยการเสริมสร้างทักษะความชำนาญในด้านต่างๆ
ตามความถนัด เสริมสร้างความรู้ทางวิชาชีพให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้หนีภัยจากการสู้รบ
มีความรู้ ความสามารถพิเศษติดตัวเมื่อเดินทางกลับมาตุภูมิ
หรือไปตั้งถิ่นฐานในประเทศที่สาม ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยร่วมกับ UNHCR
และ IOM จัดส่งผู้หนีภัยจากการสู้รบฯ
เดินทางไปตั้งถิ่นฐานในเครือรัฐออสเตรเลียแล้วส่วนหนึ่ง
พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณกระทรวงมหาดไทยที่ได้ให้การสนับสนุนผู้แทนรัฐบาลเครือรัฐออสเตรเลียในการลงตรวจเยี่ยมพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่หละ
อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
ด้านพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ นายเซด เซเซลจา
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิการสังคมและกิจการพหุวัฒนธรรม
เครือรัฐออสเตรเลียที่ได้มาเยือนกระทรวงมหาดไทย และกล่าวว่า
ประเทศไทยมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศิลปวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียม ประเพณี
เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม
ที่มีคนอยู่รวมกันในหลายเชื้อชาติที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยความรักและสามัคคี
ดังจะเห็นได้จากเนื้อร้องเพลงชาติไทยที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและการอยู่ร่วมกันในสังคม
โดยที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องบุคคลไร้สัญชาติ
ซึ่งได้มีการปรับปรุงกฎหมายสัญชาติ และให้สัญชาติแก่บุคคลที่มีสิทธิในสัญชาติไทย
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ถือว่าเป็นการดำเนินการตามหลักมนุษยธรรม และสามารถเป็นแบบอย่างให้กับนานาประเทศได้
สุดท้าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีของทั้งสองประเทศที่มีต่อกัน
และพร้อมสนับสนุนให้มีการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยจากการสู้รบในอนาคตต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น