pearleus

วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

สคร. 5 ราชบุรี แนะบุตรหลานควรดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด

บทความพิเศษ
สคร. 5 ราชบุรี แนะบุตรหลานควรดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากพลัดตกหกล้ม
          สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กรมควบคุมโรค เผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากถึง 10 ล้านคน ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นกว่า 500,000 คน และคาดการณ์ว่าปี 2567-2568 จะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือมีผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 20 ปัญหาผู้สูงอายุที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มจึงมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ  ทั้งนี้มีการกำหนดให้วันที่ 13 เมษายนของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์ ประชาชนส่วนมากจะร่วมกันทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า รวมถึงกิจกรรมรดน้ำดำหัว มอบของขวัญ และขอพรจากผู้สูงอายุในครอบครัวและในหมู่บ้าน เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว   
          นายแพทย์สุเมธ องค์วรรณดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า การพลัดตกหกล้มเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บและเสียชีวิตที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น  โดยทุกๆ 100 คน ของผู้สูงอายุ จะพลัดตกหกล้ม 30 คนในแต่ละปี ที่สำคัญพบว่าการเสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุถึงร้อยละ 50 ทั้งนี้ เฉลี่ยมีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มวันละ 3 คน  ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ 3 ด้าน คือ 1.ปัจจัยเสี่ยงด้านร่างกายและความสามารถที่ลดลง เช่น การมองเห็น การเดิน การทรงตัว การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ไขข้ออักเสบ กระดูกพรุน ภาวะซึมเศร้า สมองเสื่อม หลอดเลือดสมอง และพาร์กินสัน เป็นต้น  2.ปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรม เช่น การใช้ยาบางชนิด การดื่มแอลกอฮอล์ การสวมใส่รองเท้าและเสื้อผ้าที่ไม่พอดี เป็นต้น  3.ปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม เช่น พื้นและบันไดลื่น พื้นต่างระดับ จัดวางสิ่งของเครื่องใช้ไม่เป็นระเบียบ แสงสว่างไม่เพียงพอ ไม่มีราวจับบริเวณบ้าน บันได และห้องน้ำ เป็นต้น
          การบาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้มประมาณครึ่งหนึ่งมีอาการฟกช้ำ รองลงมาคือ อาการปวดหลัง และอาจรุนแรงจนกระดูกหัก ได้แก่ กระดูกข้อมือ แขน และสะโพกหัก หรืออาจเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุของความพิการ ที่ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยจำนวนวันของการนอนโรงพยาบาลนานกว่า 8 วัน อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น แผลกดทับ แผลติดเชื้อ ข้อติด รวมถึงผลกระทบต่อจิตใจ เช่น กลัวการหกล้มซ้ำ ไม่ยอมเดิน มีภาวะซึมเศร้า ต้องพึ่งพาผู้อื่นในการดูแล ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง
          สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้น เมื่อพบผู้พลัดตกหกล้ม ควรทำการประเมินการบาดเจ็บ หากไม่สามารถขยับและลุกเองได้ หรือเมื่อขยับแล้วรู้สึกปวดสะโพกหรือโคนขา ไม่ควรเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันกระดูกที่หักไปทำลายเนื้อเยื่อ หลอดเลือด และเส้นประสาทข้างเคียง ต้องเข้าเฝือกชั่วคราว แล้วนำส่งสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือ โทร 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน

          นายแพทย์สุเมธ กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือผู้นำชุมชนและคนในชุมชน ควรร่วมกันสำรวจสิ่งแวดล้อมหรือจุดเสี่ยงในชุมชน เช่น พื้นทางเดิน ถนน ที่สาธารณะ กำหนดและร่วมปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงต่างๆ ในชุมชน  และสนับสนุนกิจกรรมหรือโครงการป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุในชุมชน  เช่น การออกกำลังกายแบบไทเก็ก โยคะ การรำมวยจีน การเดิน ว่ายน้ำ เป็นต้น  หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี เบอร์ติดต่อ 032310804 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 นายแพทย์สุเมธ กล่าวปิดท้าย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น