รมว.มท.ประธานเปิดการรณรงค์อุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์
ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" สั่งคุมเข้มตามมาตรการ 4 ห้าม 2 ต้อง
ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" สั่งคุมเข้มตามมาตรการ 4 ห้าม 2 ต้อง
เมื่อ 10 เม.ย. 60 เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม1 อาคาร 3
ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เป็นประธานเปิดการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์
โดยความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานภาคีเครือข่าย
และมีการถ่ายทอดสดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด
เพื่อร่วมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ภายใต้แนวคิด
"ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" เน้นบูรณาการแบบ "ประชารัฐ"
และการบริหารจัดการในมิติเชิงพื้นที่
พร้อมกำชับทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนน ตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์
เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นตามคำสั่ง คสช. โดยยึดหลัก "4
ห้าม 2 ต้อง" สร้างความปลอดภัยในการเดินทาง ควบคู่การจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ
ด่านชุมชน และจุดบริการบนเส้นทางสายต่างๆ รวมถึงการดำเนินมาตรการทางสังคม การกำหนดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดภัยและปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(zoning) และการคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ใช้รถใช้ถนน
เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน
เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ให้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
โอกาสนี้
พลเอก อนุพงษ ์เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.)
เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นวันเปิดการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน
และได้ให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชนในช่วงดังกล่าว
โดยได้มีมาตรการต่างๆ มาบังคับใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
โดยเน้นการสร้างจิตสำนึกและความรับผิดชอบของทุกคนในการใช้รถใช้ถนน
รวมทั้งขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ กฎหมาย
เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน
และขอเน้นย้ำให้ทุกหน่วยได้บูรณาการทำงานร่วมกันในรูปแบบ "ประชารัฐ"
และการบริหารจัดการในมิติเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะมาตรการบังคับใช้กฎหมาย
ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์ "การสร้างวินัยจราจร" และ
"ความปลอดภัยทางถนน" และสิ่งสำคัญที่จะต้องเน้นย้ำ คือ การไม่ขับรถเร็ว
การดื่มแล้วขับ เป็นต้น โดยขอให้เข้มงวดกวดขัน
รวมถึงการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
และให้ปฏิบัติตามหลัก “4
ห้าม 2 ต้อง”ได้แก่
4 ห้าม...ห้ามขับรถเร็ว ห้ามดื่มแล้วขับ ห้ามโทรแล้วขับ ง่วงห้ามขับ 2
ต้อง...ต้องสวมหมวกกันน็อก และต้องคาดเข็มนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง
สำหรับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ได้เน้นย้ำตามมาตรการหลัก 6 ด้าน
ครอบคลุมทั้งด้านถนน ด้านยานพาหนะ ด้านการสัญจร ด้านการบังคับใช้กฎหมาย
ด้านความปลอดภัยทางน้ำ และด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ
ควบคู่การควบคุมปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ
รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่พี่น้องประชาชนด้วย นอกจากนี้ ให้ใช้มาตรการทางสังคมในการเข้มงวดการสร้างความปลอดภัยในระดับพื้นที่
โดยจัดตั้งด่านชุมชน และจัดชุดอาสาสมัครสอดส่องดูแลความปลอดภัยในการเดินทางบนเส้นทางสายรอง
รวมถึงจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำ พร้อมรณรงค์การเล่นน้ำตามประเพณีวิถีไทยในขอบเขตที่เหมาะสมกับห้วงเวลาในการถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
พร้อมทั้งได้กำชับให้ทุกจังหวัดติดตามและประเมินสถานการณ์อุบัติเหตุในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
เพื่อปรับแผนและรูปแบบการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา
ช่วงเวลาในการเดินทางและการเล่นน้ำสงกรานต์ในแต่ละพื้นที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้ร่วมกันบูรณาการในการทำงานอย่างเต็มที่ มีการประสานร่วมกับภาคีเครือข่าย
ในการสนับสนุนการทำงานตามมาตรการและแนวทางที่ได้กำหนด ทั้งนี้
ขอความร่วมมือทุกฝ่าย รวมถึงสื่อต่างๆ
ช่วยกันรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักและมีจิตสำนึกในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนร่วมกัน
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
ความร่วมมือในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของทุกหน่วยงานจะเป็นพลังสำคัญในการรักษาชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ท้ายนี้
ขอให้เทศกาลสงกรานต์นี้ เป็นเทศกาลแห่งความสุขและปลอดภัย
และฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการปฏิบัติงานทุกท่าน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น