นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ |
มุมมองจาก นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการด้านความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการเปิดตัวโครงการ “ซีพี สานฝันปันโอกาส สู่ผู้นำรุ่นใหม่” ที่สนับสนุนให้ผู้นำรุ่นใหม่จากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์จำนวน 20 คน เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมใน “เวทีการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนระดับโลก One Young World 2016” ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในเวทีโลก ปลูกพลังความคิดและจิตสาธารณะแก่ผู้นำรุ่นใหม่ ให้มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงโลกอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
โดยการประชุม One Young world ในปีนี้มี 6 หัวข้อการประชุมซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของโลกที่รอให้ผู้นำรุ่นใหม่จากทุกมุมโลก 196 ประเทศเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองสะท้อนไปสู่ความคิดสร้างสรรค์เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดียิ่งขึ้นคือ การศึกษา, สันติภาพและความปลอดภัย, ธุรกิจระดับโลก, สิ่งแวดล้อม, สิทธิมนุษยชน และ สุขภาพจิต ซึ่งล้วนมีความเกี่ยวข้องกับปรัชญาและค่านิยมในการดำเนินธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มุ่งหมายให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง และธุรกิจยั่งยืน
ด้วยเหตุนี้ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” โดย สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CPLI (CP Leadership Institute) จึงได้จัดให้มีการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำรุ่นใหม่ระดับโลกให้กับผู้นำรุ่นใหม่ทั้ง 20 คน เพื่อเปิดมุมมองสร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่มีคุณค่าแล้วนำกลับมาพัฒนาประเทศและองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองจากวิทยากรชั้นนำ แชร์ประสบการณ์ในเวทีโลกกับรุ่นพี่ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม One Young world ในปีที่ผ่านมา
และการลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงาน “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันของเด็กนักเรียน” ที่ โรงเรียนบ้านมาบนาดี จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อฉายภาพปัญหาด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงไปถึงปัญหาด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเรียนรู้การเข้าไปจัดการและแก้ปัญหาต่างๆ แก่นักเรียนและชุมชนที่ได้ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ที่ได้รับการสนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์อย่างต่อเนื่องครบวงจร
นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านประสานกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่าโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันฯ ดำเนินงานโดยมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท มาตั้งแต่ปี 2532 ปัจจุบันมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการกว่า 600 โรงเรียน ช่วยให้เด็กนักเรียนนับแสนคน พ้นจากภาวะทุพโภชนาการจากการได้รับโปรตีนและสารอาหารจำเป็นจากไข่ไก่
“โครงการนี้เป็นที่ยอมรับแล้วว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาภาวะโภชนาการต่ำของเด็กไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็ก เนื่องจากพบว่ามีนักเรียนระดับประถมศึกษาเป็นจำนวนมากขาดแคลนอาหารกลางวัน หรือมีอาหารกลางวันในปริมาณไม่เพียงพอหรือมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ทำให้ภาวการณ์เจริญเติบโตของเยาวชนไทยไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข และยังส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กอีกด้วย” นายอภัยชนม์ระบุ
“ลองจินตนาการภาพที่เด็กๆ ทุกคนบนโลกได้ไปโรงเรียน และเรียนในสิ่งที่พวกเขาสนใจ สิ่งแวดล้อมสีเขียว ทุกธุรกิจหันมาใส่ใจผู้บริโภค ทุกคนหันมาใส่ใจซึ่งกันและกัน ความไม่เท่าเทียมของสังคมถูกลดช่องว่าง ทุกแห่งในโลกสงบสุขและปลอดภัย เพียงสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น โลกจะน่าอยู่เพียงใด ซึ่งก็อยู่ที่พวกเราจะช่วยกัน” “จ็อบ” นายพีรพงศ์ คิ้วดาวเรือง บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งทำงานอยู่ที่ประเทศบังคลาเทศ หนึ่งในตัวแทนผู้นำรุ่นใหม่กล่าวถึงเป้าหมายของโลกในอนาคตหลังจากที่ได้พูดคุยสัมผัสและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ ที่โรงเรียนมาบนาดีอย่างใกล้ชิด
หลังกลับจากเรียนรู้ปัญหาต่างๆ ในระดับพื้นที่ ก็มีการเปิดเวทีพูดคุยในเรื่อง Social Enterprise หรือ วิสาหกิจเพื่อสังคม และ มุมมองในมิติใหม่ด้านการศึกษา โดยได้รับเกียรติจาก 2 วิทยากรชั้นนำแห่ง School of Global studies หรือ GSSE (Global studies & Social Entrepreneurships) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “นางสาวแพรวา สาธุธรรม” และ “ดร.อภิวัฒน์ หาญวงศ์”
“Social Enterprise คือการดำเนินธุรกิจการค้าที่เน้นความโปร่งใสและคุณธรรม มีความรักต่อกันโดยมีเป้าหมายร่วมกันที่จะดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นไปที่ประโยชน์ของผู้บริโภค ซึ่งเป็นแนวคิดธุรกิจในสังคมใหม่ที่จะไม่ใช้ทุนเข้าห้ำหั่นกันเหมือนเช่นในอดีต แต่จะแข่งขันกันด้านคุณภาพหรือจับมือร่วมกันในธุรกิจมากขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด” อ.แพรวา กล่าว
“สังคมใหม่นับจากนี้จะถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการของคน เทคโนโลยี และระบบธุรกิจ ดังนั้นระบบการศึกษาใหม่จะต้องสร้างระบบขึ้นมารองรับความต้องการดังกล่าว ด้วยการลดขนาดห้องเรียนและกลุ่มผู้เรียนให้เล็กลง มีความสะดวกสบายและรวดเร็วในการเรียนการสอนและการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี มีกระบวนการจัดการการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลที่รวดเร็วแม่นยำ ถ้ามองภาพสังคมอนาคตจะเห็นการจับมือร่วมกันเดินไปด้วยความรัก การใช้ฐานข้อมูลร่วมกัน ไปสู่ความเป็นสากลมากขึ้น โดยมีความใส่ใจในมนุษย์และสิ่งแวดล้อม” ดร.อภิวัฒน์ ระบุ
ด้าน นายอชิตศักดิ์ พชรวรรณวิชญ์ เจ้าของไอเดียธุรกิจ Happy Farmers ความคิดที่สวนทางกับการผลิตเชิงธุรกิจขนาดใหญ่ ด้วยการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายข้าวออร์แกนิกส์ในบรรจุภัณฑ์ทำมือในราคาขายตรงจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภค มาร่วมให้มุมมองธุรกิจการค้าใหม่ๆ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากผู้บริโภคจากข้าว "อิ่ม" น้ำหนัก 1 กิโลกรัมขายพร้อมถุงผ้าทอมือในราคา 130 บาท ที่กำหนดราคาของข้าวที่สูงกว่าข้าวทั่วไปถึง 5 เท่า ในขณะที่ผู้ซื้อกลับยินดีที่จะจ่ายคือโจทย์ที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ต้องขบคิด
“Chemical free และ Organic เป็นทิศทางอนาคตเกษตรกรรมไทยต่อไปจากนี้ สินค้าเกษตรไทยจะต้องเป็นสินค้าออร์แกนิกส์ระดับพรีเมี่ยม ที่ผู้ผลิตและผู้บริโภคเชื่อมต่อถึงกันได้โดยตรง ซึ่งสอดคล้องกับสังคมใหม่ที่เน้นความรักเอื้ออาทรต่อกัน มองไปที่สุขภาพที่ดี และการใส่ใจสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งนี่คือโจทย์ใหม่ของผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรที่ต้องนำกลับไปคิดทบทวน” นายอชิตศักดิ์ กล่าว
หลังจากการอบรมครั้งนี้จบลง ในฐานะผู้อาวุโสสุดในกลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ “เกี้ยว” นางสาวณหทัย ภูพิชญ์พงษ์ Assistant Director แห่ง Ascend Group มีมุมมองต่อสถานการณ์และปัญหาของโลกนับจากนี้ว่า โดยเชื่อว่าในอนาคตเทคโนโลยีจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ มากขึ้น แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่คนรุ่นใหม่จะผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ากับองค์ความรู้ของคนในยุคก่อนเพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
“การเดินทางไปเข้าร่วมเวที One Young World 2016 ในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ดีมากที่จะได้จุดไฟให้ตนเอง การได้ไปฟังความคิดจากคนชั้นนำของโลก ได้พบเพื่อนใหม่ๆ จะต้องได้ไอเดียใหม่ๆ มาสร้างประโยชน์แก่สังคมไทยและหน่วยงานของตนเองอย่างแน่นอน” น.ส.ณหทัย กล่าวย้ำอย่างมั่นใจ
“เครือเจริญโภคภัณฑ์” เชื่อมั่นพลังของคนรุ่นใหม่ในการเปลี่ยนแปลงโลกสู่การพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน (Change the World) จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมไทยและสังคมโลกให้หลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ ที่เผชิญอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย ปรัชญา และค่านิยมของขององค์กรในการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศให้ก้าวไกลสู่ความสำเร็จในระดับโลกในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
ทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น