ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ในฐานะประธานพิพิธภัณฑ์และหอสมุดสมเด็จฯ
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
เปิดเผยภายหลังการพบปะสนทนาในรูปแบบการสัมมนาเชิงหวังผลสัมฤทธิ์ ณ วังวรดิศว่า
ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม ครูอาจารย์ ลูกหลานเยาวชน
ในยามนี้พยายามร่วมมือร่วมใจกันเต็มที่
ด้วยความห่วงใยปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาประมาณกว่า 10 ปีที่ผ่านมา พยายามร่วมกันคิดค้นระบบวิธีและรณรงค์กันอย่างกว้างขวาง
ในเรื่อง 'การใช้ Social network อย่างสร้างสรรค์'
ด้วยการไม่โพสต์หรือแชร์ข้อความ-รูปภาพ-เอกสาร อันเป็นเท็จ
ใส่ร้ายป้ายสีบุคคล องค์กร ประเทศชาติ หรือมิตรประเทศใดๆ
รวมถึงรูปภาพที่สร้างความน่าสะพึงกลัวแก่ลูกหลานเยาวชน
การใช้ถ้อยคำที่เป็นการหลอกลวงผู้คนที่ใครต่อใครบริโภค
อันเป็นข้อมูลข่าวสารที่ปราศจากข้อเท็จจริง สร้างความเสียหายแก่บุคคลในแวดวง Social
network องค์กร สังคม และประเทศชาติ ต่อการให้ User บริโภคข้อมูลข่าวสารอันปราศจากคุณภาพ ขัดต่อหลักนิติธรรมและจริยธรรม
ครู-อาจารย์ นักวิชาการทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศผู้รักเมืองไทย นักการทูต
ข้าราชการ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลูกหลานเยาวชน
ตลอดจนพี่น้องประชาชน จึงร่วมใจกันถกแถลงอย่างกว้างขวางในยามนี้
พยายามทุกวิถีทางในการศึกษาและขบคิดหากระบวนวิธีเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ
ความร่วมมือร่วมใจตามแนวทางประชารัฐ
และในหลักคิดและความเชื่อมั่นศรัทธาทางพระพุทธศาสนาและทุกๆ ศาสนา คือ
เรื่องบาปบุญคุณโทษ ในการกล่าวคำเท็จและหลอกลวงบุคคลให้เชื่อหรือบริโภคในสิ่งซึ่งไม่ใช่ความจริง
หลายฝ่ายถามว่า สังคมไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน
ทั้งที่คนไทยในอดีตถือมั่น-ยึดมั่นเรื่องความสัตย์ซื่อสุจริต เสียชีพอย่าเสียสัตย์
เป็นหัวใจของการดำรงชีวิตในทุกผู้ทุกฝ่ายทุกครอบครัวทุกองค์กรอย่างเคร่งครัด ซึ่งประธานพิพิธภัณฑ์และหอสมุดสมเด็จฯ
กรมพระยาดำรงราชานุภาพกล่าวว่า ทุกๆ ฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าเราทุกคนต้องไม่ย่อท้อ
ไม่หมดความเพียรพยายามใดๆ แม้แต่วันเดียว เพราะความย่อท้อ คือ ความแพ้
กลายเป็นแนวร่วมของผู้ไม่ประสงค์ดีต่อชาติบ้านเมือง ประเทศไทยเป็นแผ่นดินแห่งความร่มเย็น
พี่น้องชาวไทยล้วนมีอัธยาศัยไมตรีจิต ถือเป็นแบบอย่างในความเป็นชนชาติแห่งอารยะ
มีความรู้รักสามัคคีมาช้านาน
*คัดจากเอกสารทางวิชาการพิพิธภัณฑ์และหอสมุดสมเด็จฯ
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
(15 ก.ค. 59)
(15 ก.ค. 59)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น