เมื่อ
22ก.ค.59
ที่กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา
บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า
ด้วยกระทรวงมหาดไทยได้รับหนังสือจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ขอความร่วมมือให้กระทรวงมหาดไทยรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติในวันที่
7 สิงหาคมนี้ให้มากที่สุด
ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด
ให้เพิ่มความเข้มข้นในการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียง
โดยให้ดำเนินการ ดังนี้
1. แจ้งให้อำเภอแจ้งไปยังวิทยากรระดับพื้นที่หมู่บ้าน (ครู ค.)
ออกไปประชุมประชาคมในหมู่บ้านทั้ง 74,588 หมู่บ้าน โดยให้ครู
ค.
ของแต่ละหมู่บ้านอ่านและชี้แจงทำความเข้าใจกับร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนรับฟังอีกครั้งหนึ่ง
เริ่มดำเนินการในระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคมถึง 5 สิงหาคม 2559 ซึ่งจะเป็นการปูพรมชี้แจงทำความเข้าใจให้กับทุกหมู่บ้าน/ชุมชน
อีกรอบหนึ่ง
โดยกระทรวงมหาดไทยหวังว่าการดำเนินการในครั้งนี้จะทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตัว
และออกมาใช้สิทธิออกเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 60
2. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ในการจัดกิจกรรมเชิญชวนรณรงค์ ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4
สิงหาคมนี้อย่างพร้อมเพรียงกันทุกจังหวัด
เพื่อเป็นกระแสในการสร้างความตื่นตัวให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ โดยความเพรียงกัน
โดยในบางจังหวัดอาจมีการแสดงดนตรี การเดินพาเหรด
หรือการจัดกิจกรรมเชิญชวนทุกรูปแบบเพื่อให้ประชาชนมีความสนใจ และตื่นตัวต่อการออกไปใช้สิทธิในครั้งนี้
3. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้เครื่องมือสื่อสารทางเทคโนโลยีในพื้นที่ทุกช่องทาง
รวมทั้งสื่อโซเซียลมีเดีย วิทยุท้องถิ่น สถานีโทรทัศน์ประจำภูมิภาค
และให้ขอความร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีการให้บริการเคเบิ้ลทีวีในชุมชน/หมู่บ้าน
ได้เพิ่มข้อความอักษรวิ่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ
โดยประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่มีการออกอากาศของทีวีเคเบิลด้วย
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า
กรณีที่มีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์การฉีกทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติที่ติดไว้บริเวณหน่วยออกเสียงในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร
ซึ่งภายหลังตรวจพบว่าเป็นการกระทำของเยาวชน
ขอยืนยันว่าผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรไม่ได้สั่งการให้ดำเนินคดีกับเยาวชน
ที่กระทำผิดแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องมีการประสานพนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพื่อสรุปสำนวนสั่งไม่ฟ้อง กับเยาวชนคนดังกล่าว
เนื่องจากเป็นเด็กและไม่ได้มีเจตนาในการกระทำผิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่กระทำการใดๆ
ที่อาจจะทำให้เด็กมีเหตุมัวหมองหรือมีมลทิน
รวมไปถึงเจ้าหน้าที่อาจถูกกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
จึงขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีการสั่งการที่จะเอาผิดกับเด็กคนดังกล่าวแต่อย่างใดและเราเคารพสิทธิของเด็กและเยาวชนด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม
กระทรวงมหาดไทยยังได้รับรายงานจากอีก 5 จังหวัด ประกอบด้วย
จังหวัดกาฬสินธุ์ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี สตูล และจังหวัดขอนแก่น ว่ามีผู้ที่เข้าไปทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนน
ดังนั้น จึงได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอความร่วมมือไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)
เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลและแก้ปัญหาไม่ให้มีผู้ทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ
รวมทั้งให้มีการตรวจสอบบุคคลแปลกหน้าที่จะเข้าไปก่อเหตุความวุ่นวาย
หรือขัดขวางการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด
หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่จัดให้มีการลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น