pearleus

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

มท.1 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ศปถ.

มท.1 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ศปถ. ครั้งที่ 4/2559 เพื่อกำหนดแนวทางดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ย้ำทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน รณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
          เมื่อ11 ก.ค. 59  เวลา10.00 น. ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พลเอก อนุพงษ์  เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 4/2559 เพื่อติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน ใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ เมาแล้วขับ การขับรถความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด การได้มาซึ่งใบอนุญาตขับขี่ การป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ และ การคาดเข็มขัดนิรภัย รวมทั้งกำหนดแนวทางดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ปี2559 ซึ่งมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 16-20ก.ค.2559 เพื่อเพิ่มความเข้มข้นดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนนับเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยรัฐบาลได้ตระหนักและมีความห่วงใยความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ไม่เฉพาะแต่ในช่วงเทศกาลสำคัญ หากยังรวมถึงในช่วงปกติ และต่อเนื่องตลอดทั้งปีด้วย ศปถ. จึงได้สรุปผลการดำเนินงานในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา และสรุปเป็นบทเรียนพร้อมจัดทำข้อเสนอมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงจากการเมาแล้วขับ การขับรถเร็ว และการไม่ใช่อุปกรณ์นิรภัยต่างๆ ดังนั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ศปถ.จึงได้ผลักดันการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางถนนให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้ง 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.เมาแล้วขับ มีการกำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดในกลุ่มผู้ขับขี่ที่ไม่บรรลุนิติภาวะ และผู้มีใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว เพิ่มบทลงโทษ และเชื่อมโยงฐานข้อมูลผู้กระทำความผิดซ้ำ2.การขับรถเร็ว เสนอปรับลดความเร็วในเขตเมืองให้เหมาะสม และเพิ่มโทษผู้กระทำผิด 3.การออกใบอนุญาตขับขี่ เพิ่มความเข้มงวดในการออกใบอนุญาตขับขี่ ตามาตรการ "ออกยาก ยึดง่าย" และเพิ่มโทษเป็นโทษทางอาญาสำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาต 4.การป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ ต้องมีรายงานการตรวจสภาพรถในการเสนอขอใบอนุญาตประกอบการขนส่ง พร้อมปรับปรุงระบบเยียวยาเพื่อคุ้มครองผู้ที่ได้รับผลกระทบ และ 5. การคาดเข็มขัดนิรภัย ให้ผู้โดยสารด้านหลังของรถโดยสารส่วนบุคคลต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อนำเสนอต่อ คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ เพื่อให้ความเห็นชอบในหลักการและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง และนายกรัฐมนตรีได้มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชนในการสัญจรในช่วงเทศกาลดังกล่าว  ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนใช้รถใช้ถนนเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก 
และอาจจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ ดังนั้น เพื่อให้ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเป็นวันหยุดยาวที่มีความปลอดภัยตลอดการเดินทางของประชาชน จึงได้กำหนดแนวทางดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้ ที่มุ่งเน้นมาตรการเชิงป้องกัน เฝ้าระวัง ลดปัจจัยเสี่ยง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับผู้กระทำผิด โดยเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน ได้ตรวจตราและดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเส้นทางจราจรในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น แสงสว่าง เส้นทางการสัญจร โดยเฉพาะจุดเสี่ยง จุดตัดทางรถไฟ เป็นต้น พร้อมทั้งให้ดำเนินการจัดตั้ง "ด่านตรวจ" รวมถึง "ด่านชุมชน" ในพื้นที่ เพื่อเป็นจุดเฝ้าระวัง และป้องปรามผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน รณรงค์และประชาสัมพันธ์การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น