มท.1 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ศปถ. ครั้งที่ 4/2559 เพื่อกำหนดแนวทางดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ย้ำทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน
รณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
เมื่อ11 ก.ค. 59 เวลา10.00 น. ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 4/2559 เพื่อติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน
ใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่
เมาแล้วขับ การขับรถความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด การได้มาซึ่งใบอนุญาตขับขี่
การป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ และ การคาดเข็มขัดนิรภัย
รวมทั้งกำหนดแนวทางดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ปี2559 ซึ่งมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง
ตั้งแต่วันที่ 16-20ก.ค.2559 เพื่อเพิ่มความเข้มข้นดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.)
เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนนับเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
โดยรัฐบาลได้ตระหนักและมีความห่วงใยความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ไม่เฉพาะแต่ในช่วงเทศกาลสำคัญ หากยังรวมถึงในช่วงปกติ และต่อเนื่องตลอดทั้งปีด้วย
ศปถ. จึงได้สรุปผลการดำเนินงานในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา
และสรุปเป็นบทเรียนพร้อมจัดทำข้อเสนอมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงจากการเมาแล้วขับ การขับรถเร็ว และการไม่ใช่อุปกรณ์นิรภัยต่างๆ
ดังนั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย
ศปถ.จึงได้ผลักดันการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางถนนให้ครอบคลุมทุกมิติ
ทั้ง 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.เมาแล้วขับ
มีการกำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดในกลุ่มผู้ขับขี่ที่ไม่บรรลุนิติภาวะ
และผู้มีใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว เพิ่มบทลงโทษ
และเชื่อมโยงฐานข้อมูลผู้กระทำความผิดซ้ำ2.การขับรถเร็ว เสนอปรับลดความเร็วในเขตเมืองให้เหมาะสม
และเพิ่มโทษผู้กระทำผิด 3.การออกใบอนุญาตขับขี่ เพิ่มความเข้มงวดในการออกใบอนุญาตขับขี่ ตามาตรการ "ออกยาก
ยึดง่าย" และเพิ่มโทษเป็นโทษทางอาญาสำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาต 4.การป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ
โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ
ต้องมีรายงานการตรวจสภาพรถในการเสนอขอใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
พร้อมปรับปรุงระบบเยียวยาเพื่อคุ้มครองผู้ที่ได้รับผลกระทบ และ 5. การคาดเข็มขัดนิรภัย
ให้ผู้โดยสารด้านหลังของรถโดยสารส่วนบุคคลต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อนำเสนอต่อ
คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ
เพื่อให้ความเห็นชอบในหลักการและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
ซึ่งมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง และนายกรัฐมนตรีได้มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชนในการสัญจรในช่วงเทศกาลดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนใช้รถใช้ถนนเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ
เป็นจำนวนมาก
และอาจจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ ดังนั้น เพื่อให้ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเป็นวันหยุดยาวที่มีความปลอดภัยตลอดการเดินทางของประชาชน จึงได้กำหนดแนวทางดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้ ที่มุ่งเน้นมาตรการเชิงป้องกัน เฝ้าระวัง ลดปัจจัยเสี่ยง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับผู้กระทำผิด โดยเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน ได้ตรวจตราและดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเส้นทางจราจรในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น แสงสว่าง เส้นทางการสัญจร โดยเฉพาะจุดเสี่ยง จุดตัดทางรถไฟ เป็นต้น พร้อมทั้งให้ดำเนินการจัดตั้ง "ด่านตรวจ" รวมถึง "ด่านชุมชน" ในพื้นที่ เพื่อเป็นจุดเฝ้าระวัง และป้องปรามผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน รณรงค์และประชาสัมพันธ์การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย
และอาจจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ ดังนั้น เพื่อให้ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเป็นวันหยุดยาวที่มีความปลอดภัยตลอดการเดินทางของประชาชน จึงได้กำหนดแนวทางดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้ ที่มุ่งเน้นมาตรการเชิงป้องกัน เฝ้าระวัง ลดปัจจัยเสี่ยง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับผู้กระทำผิด โดยเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน ได้ตรวจตราและดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเส้นทางจราจรในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น แสงสว่าง เส้นทางการสัญจร โดยเฉพาะจุดเสี่ยง จุดตัดทางรถไฟ เป็นต้น พร้อมทั้งให้ดำเนินการจัดตั้ง "ด่านตรวจ" รวมถึง "ด่านชุมชน" ในพื้นที่ เพื่อเป็นจุดเฝ้าระวัง และป้องปรามผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน รณรงค์และประชาสัมพันธ์การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น