จากกรณีสังคมออนไลน์
เผยภาพจากกล้องติดหน้ารถยนต์คันหนึ่ง ปรากฏภาพ เด็กวัยรุ่น
ขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนน รัชดา-ท่าพระ แต่เมื่อเข้าด่านตรวจ บริเวณปากซอยรัชดา
ท่าพระ ๑๒ รถจักรยานยนต์คันนี้ถูกตำรวจจราจรเรียกตรวจ
ก่อนที่ตำรวจจะใช้มือตบศีรษะผู้ขับขี่จนรถล้มลง
ทันทีที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลน์
ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ
ที่ปรากฏในคลิปว่าทำถูกต้องแล้ว หรือไม่
จากการตรวจดูคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว
พบว่า ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.บุคคโล ซึ่งมีพ.ต.ท.กำพล
เลี้ยงเจริญทรัพย์ สว.จร.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จร. จำนวน ๑๔ นาย ได้ตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจรฯ อยู่ที่ ถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ
ระหว่างซอย ๑๐ และซอย ๑๒ โดยมีการตั้งป้าย และมีการตั้งกรวยยาง
มองเห็นได้อย่างชัดเจน และในขณะเกิดเหตุได้มี นายธิติพงศ์ กุลพิพัฒน์ธนา ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาในช่องทางเดินรถด้านขวาด้วยความเร็ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณเพื่อให้หยุดรถ แต่นายธิติพงศ์ ไม่ยอมหยุด
ได้พยายามขับขี่หลบหนีผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านอยู่ไปแล้ว ๓ นาย
จนกระทั่งไปถึง ร.ต.ท.บรรหาร จันทรขจร รอง สว.จร. ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่
จึงเข้าไปสกัดและส่งสัญญาณมือ เพื่อให้นายธิติพงศ์
หยุดรถ แต่ปรากฏว่า นายธิติพงศ์ ไม่ยอมหยุด จึงเป็นเหตุให้มือข้างซ้ายของ ร.ต.ท.บรรหาร ที่ให้สัญญาณหยุดรถอยู่นั้น ชนเข้าที่บริเวณคางของ
นายธิติพงศ์ ที่สวมหมวกนิรภัยอยู่ทำให้รถจักรยานยนต์ของนายธิติพงศ์ เสียหลักล้มลง
แล้ว ร.ต.ท.บรรหาร ได้รีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และ
สอบถาม นายธิติพงศ์ ว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่
ต้องการไปพบแพทย์หรือไม่ ซึ่งนายธิติพงศ์ แจ้งว่า
ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าข้างซ้ายถลอกเล็กน้อย และไม่ต้องการไปพบแพทย์ แต่อย่างใด และไม่ติดใจเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร
สน.บุคคโล แต่อย่างใด
จากพฤติการณ์และพยานหลักฐานข้างต้น
ผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้พิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของร.ต.ท.บรรหาร กับพวก
ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการตั้งจุดตรวจโดยถูกต้องตามระเบียบ
และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม เป็นไปตามกฎระเบียบของทางราชการ
และปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยชอบด้วยกฎหมาย
เหตุที่เกิดนั้นเนื่องจาก นายธิติพงศ์
พยายามขับขี่รถหลบหนีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรฯ
โดยได้ขับหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งจุดตรวจผ่านมาแล้วถึง ๓ นาย
จนกระทั่งมาถึงจุดที่ ร.ต.ท.บรรหาร
ยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่จึงได้ยกแขนข้างซ้ายเพื่อส่งสัญญาณให้ นายธิติพงศ์ หยุดรถ
แต่นายธิติพงศ์ ไม่หยุด จึงเป็นเหตุให้แขนข้างซ้ายของ ร.ต.ท.บรรหาร
ชนที่บริเวณคาง ของนายธิติพงศ์ ที่สวมหมวกนิรภัยอยู่ จนเสียหลักล้มลง
โดยที่ ร.ต.ท.บรรหาร ไม่ได้ทำร้าย
หรือกระทำการเกินกว่าเหตุแต่อย่างใด
วีระวุฒิ วิไชยภูมิ //รายงาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น