ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ,พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร
สืบสวนจับกุมคดียาเสพติดที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่องภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ต.เจริญ
ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ,พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รอง ผบก.น.2 , พ.ต.อ.เติมเผ่า
สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร , พ.ต.ท.ธีรศักดิ์
ศรีประเสริฐ รอง ผกก.สส.ฯ , พ.ต.ต.สัมพันธ์ แสวง สว.สส.ฯ จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสารสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มาดำเนินคดี
เมื่อ
5 กรกฎาคม 2559
เวลาประมาณ 10.00 น.
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสารได้จับแจ้งจากสายลับว่าสามารถล่อซื้อกัญชาจากนายชัยได้
จึงได้วางแผนจับกุม และได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา
คือ
นายชนะชัย
สำเริงรัมย์ ชื่อเล่น
ชัย อายุ 47 ปี ประกอบอาชีพ
รับจ้างก่อสร้างภูมิลำเนา อยู่บ้านเลขที่ 13/1 ม.3 ต.ตลาดโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์
พร้อมด้วยของกลางที่ตรวจยึดได้
กัญชาอัดแท่งจำนวน
10 แท่งๆละ
1 กิโลกรัม รวมของกลาง 10 กิโลกรัม (
มูลค่า กิโลกรัมละ 7,000 บาท รวม 10 กิโลกรัม เป็นเงิน 70,000 บาท)
พฤติการณ์ จากการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
ประกอบกับได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม)
ทราบว่าสามารถติดต่อเพื่อขอซื้อกัญชาแห้งอัดแท่ง จากชาย ชื่อ “ชัย” ( ทราบชื่อภายหลังจับกุม ชื่อนาย ชนะชัย
สำเริงรัมย์ ) จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นจึงได้ร่วมประชุมวางแผนพร้อมกับสายลับ
และได้ให้สายลับทำการติดต่อเพื่อขอซื้อกัญชาแห้งจำนวน 10 กก.
โดยนัดหมายกันที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขามีนบุรี แขวงมีนบุรี
เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ (เขตพื้นที่
สน.มีนบุรี) จากนั้นชุดจับกุมจึงได้นำกำลังเดินทางไปยังจุดนัดหมายพร้อมซุ่มดูอยู่ตามจุดต่างๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมตัวเป็นเพื่อนของสายลับ ติดตามสายลับอยู่ไม่ห่าง มองเห็นการกระทำทุกอย่างได้ชัดเจน เมื่อถึงเวลานัดหมาย ปรากฏพบชายลักษณะตรงตามกับที่สายลับได้แจ้งไว้
พร้อมกับหิ้วถุงไนล่อนสีเขียว-น้ำเงิน-แดงเดินทางมาพบสายลับตามจุดนัดหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้วว่าเป็นกัญชาจริง จึงได้ส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมทั้งหมดออกจากที่ซุ่ม
พร้อมทั้งแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม
จากการตรวจสอบแล้วเป็นกัญชาแห้งจำนวน 10 แท่ง แท่งละประมาณ 1
กก.รวมทั้งสิ้นประมาณ 10 กก. จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง เจ้าพนักงานตำรวจจึงสอบถามแล้วนายชนะชัยฯ
ยอมรับว่ากัญชาของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นพบดังกล่าวเป็นของตนที่มีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายจริง
เจ้าพนักงานตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิ ให้แก่ นายชนะชัยฯทราบ
แล้วจึงจับกุมตัว พร้อมตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการซักถามขยายผล นายชัยอ้างว่าเมื่อวาน
ของวันที่ ( 4 ก.ค.59 ) ตนได้อยู่ที่บ้าน
จังหวัดบุรีรัมย์ จนถึงเวลาตอนเย็น ได้รับโทรศัพท์จากนายอั้มชายไม่เคยเห็นหน้า เบอร์โทร 093-5896386 บอกว่าจะวางของอยู่ใต้สะพานลอยเลย สน.นิมิตรใหม่ ให้นายชัยมารับของ
นายชัยจึงได้เดินทางจากจังหวัดบุรีรัมย์เข้ามา กทม.
และเมื่อมาถึงนายชัยอ้างว่า ตนได้นั่งวิน จยย. รับจ้าง มาดูของที่อยู่ใต้สะพาน เวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ ( 5 ก.ค.59) ตามที่นายอั้มโทรฯบอก จากการตกลงราคากับนายอั้ม ราคาแท่งละ 4,500
บาท จำนวน 10 แท่ง รวมเป็นเงิน 45,000 บาท เมื่อนำไปขายได้แล้ว ให้โอนเงิน 45,000บาท เข้าบัญชีนาย จิราวัฒน์ วะชุม เลขที่บัญชี 3872426514 ธนาคารกสิกรไทย
สาขาศรีสงคราม ส่วนของนายชัยที่ตกลงกับสายลับว่าจะขายให้กับสายลับราคา
แท่งละ 7,000 บาท นายชัยฯ จะได้กำไรจากขนกัญชาครั้งนี้ แท่งละ 2,500 บาท จำนวน
10 แท่ง นายชัยฯจะได้กำไรรวมทั้งสิ้น 25,000 บาท
** หมายเหตุ ผู้ต้องหาในคดีนี้ไม่ยอมให้ข้อมูลการซักถามและยังปิดบังข้อมูลในการเชื่อมโยงถึงผู้ร่วมขบวนการ
วีระวุฒิ วิไชยภูมิ//รายงาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น