เมื่อ 6 เม.ย. 59 พลเอก
อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ในฐานะประธานกรรมการและผู้ อำนวยการศูนย์ อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า
การสร้างความปลอดภัยทางถนนถื อเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการป้องกั นและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ ทางถนน
ตลอดจนเสริมสร้างวั ฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้เป็ นรากฐานของสังคมไทย
เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรั พย์สินของพี่น้องประชาชนทั่วทั้ งประเทศ
โดยเฉพาะในช่วงใกล้ เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน
และเป็นช่วงที่มี ประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ ถนนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา
และท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุ บัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงปกติ
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) จึงได้กำหนดแผนบูรณาการป้องกั นและลดอุบัติเหตุทางถนนช่ วงเทศกาลสงกรานต์
พ.ศ.2559 เพื่อเป็นกรอบแนวทางให้ทุกหน่ วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ ในการดำเนินงาน
พร้อมทั้งจัดให้มีการรณรงค์ป้ องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่ วงเทศกาลสงกรานต์ ปี
2559 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2559
ภายใต้ชื่อ “สงกรานต์ปลอดภัย
ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร” เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการสร้ างความปลอดภัยทางถนนช่ วงเทศกาลดังกล่าว
โดย ศปถ.ได้กำหนดช่วงเวลาดำเนิ นการเป็น 2 ช่วง ได้แก่ 1.ช่วงการรณรงค์และเสริมสร้างวิ นัย ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์
-17เมษายน 2559 และดำเนินการต่อเนื่องจนถึงวั นที่ 31 ธันวาคม 2559 โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้ องเตรียมความพร้อมทั้งด้านเครื่ องมือ อุปกรณ์
และเร่งสำรวจแก้ไขจุดเสี่ยงจุ ดอันตราย อาทิ จุดตัดทางรถไฟ ทางลักผ่าน ทางโค้ง
ทางร่วม และทางแยก รวมทั้งให้บังคับใช้กฎหมายอย่ างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อป้องปรามการกระทำผิ ดและเสริมสร้างวินัยจราจร
ตลอดจนรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่ อให้พี่น้องประชาชนได้เข้ าใจและป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติ เหตุ
เกิดการขับขี่ที่ปลอดภัย และ 2.ช่วงควบคุมเข้มข้น
ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2559 โดยกำชับทุกหน่วยงานดำเนิ นการตามมาตรการฯ
ที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้นภายใต้ กลไกการทำงานของศูนย์อำนวยการป้ องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
(ส่วนกลาง) และศูนย์ปฏิบัติการป้องกั นและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดั บพื้นที่
โดยมีเป้าหมายส่งเสริมวั ฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในช่ วงเทศกาลสงกรานต์
และลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ทางถนน ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้ เหลือน้อยที่สุด
โดยให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้กำหนดเป้าหมายการดำเนิ นงานด้วยตนเอง
สำหรับมาตรการและแนวทางที่ใช้ ในการดำเนินงานเพื่อเตรี ยมความพร้อมในการป้องกันและลดอุ บัติเหตุทางถนนในครั้งนี้
ประกอบด้วย 5 มาตรการหลัก ได้แก่ 1.มาตรการด้านการบริหารจัดการ
โดยมีการบูรณาการร่วมกันทุ กภาคส่วน โดยยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง (Area
Approach) และใช้แนวทาง “ประชารัฐ” เป็นกลไกในการควบคุมปัจจัยเสี่ ยง และเฝ้าระวัง กำกับ ป้องปรามผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ ยงในพื้นที่
โดยให้ชุมชนและประชาชนในพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกั นและลดอุบัติเหตุทางถนน
รวมทั้งมีการกำหนดพื้นที่เล่นน้ ำสงกรานต์ที่มีความปลอดภั ยและปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุ กชนิด (Zoning)
2.มาตรการด้านถนนและการสัญจรอย่ างปลอดภัย มีการปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ ยงบนถนนและสภาพแวดล้อมริมทางให้ ปลอดภัย
และวางแผนอำนวยความสะดวกในการเด ินทางแก่ประชาชน 3.มาตรการด้านยานพาหนะที่ปลอดภั ย
มีการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภั ยของยานพาหนะทุกประเภท โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ
และรถโดยสารไม่ประจำทาง เพื่อให้เกิดการขับขี่ที่ปลอดภั ย 4.มาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่ างปลอดภัย มีการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่ างเข้มงวด
จริงจังและต่อเนื่อง และรณรงค์ปลูกฝังสร้างจิตสำนึ กด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ ถนน และ 5.มาตรการด้านการตอบสนองหลังเกิ ดเหตุ มีการจัดเตรียมความพร้อมทีมกู้ ชีพกู้ภัยสำหรับให้การช่วยเหลื อผู้ประสบภัย ณ
จุดเกิดเหตุ อย่างรวดเร็ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการสร้ างความปลอดภัยทางถนน
โดยกำหนดเป็นนโยบายที่ทุกภาคส่ วนต้องร่วมมือกันในการป้องกั นและแก้ไขปัญหา
เนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้ องถนนเป็นปัญหาที่สร้างความสู ญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิ นของพี่น้องประชาชนและประเทศเป็ นอย่างมาก
โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง อย่างเช่นเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีประชาชนเดินทางเป็ นจำนวนมาก
กระทรวงมหาดไทยจึงได้กำชับให้ทุ กจังหวัดเตรียมพร้อมดู แลความปลอดภัยให้กับพี่น้ องประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่ างชาติที่เดินทางท่องเที่ยวในช่ วงเทศกาลอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะสถานที่จั ดงานเทศกาลสงกรานต์ได้เน้นย้ ำให้ดูแลเป็นพิเศษ
โดยให้ตั้งด่านตรวจและจุดบริ การตามเส้นทางต่างๆ รวมทั้งประสานชุมชนให้ช่วยกั นใช้มาตรการทางสังคมในรูปแบบ
“การตั้งด่าน 1 ชุมชน 1 หมู่บ้าน 1 ด่านตรวจ” เพื่อเพิ่มความระมัดระวังและดู แลความปลอดภัยในระดับพื้นที่
โดยกระทรวงมหาดไทยและทุกหน่ วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกั นทำงานอย่างเต็มที่
มีการประสานการทำงานร่วมกับภาคี เครือข่าย ทั้งด้านการสนับสนุ นการทำงานตามมาตรการและแนวทางที ่กำหนด
ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์เพื่ อให้ประชาชนเกิดความตระหนั กและมีจิตสำนึกในการสร้างวั ฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนร่วมกัน
ทั้งนี้ สำหรับการเล่นน้ำในช่ วงเทศกาลสงกรานต์ ต้องขอความร่วมมือพี่น้ องประชาชนให้มีส่วนร่ วมในการประหยัดการใช้น้ำ
โดยร่วมกันรณรงค์เล่นน้ ำสงกรานต์ในปีนี้ ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” ด้วยการเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่ างประหยัดด้วยวิธี ประพรมแทนการสาดน้ำใส่กัน
และถือปฏิบัติตามประเพณีอันดี งามที่ควรอนุรักษ์เชิงสร้ างสรรค์เพื่อร่วมสืบสานประเพณี ไทยให้คงอยู่ตลอดไป
และขอให้พี่น้องประชาชนได้เดิ นทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย และมีความสุขในช่ วงเทศกาลสงกรานต์นี้
โดย ศปถ.ได้กำหนดช่วงเวลาดำเนิ
สำหรับมาตรการและแนวทางที่ใช้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการสร้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น