สมุทรสาคร
fc ทีมฟุตบอลของคนสมุทรสาคร
กำลังไปได้สวยด้วยอันดับ 1 ของตารางคะแนนโซนภาคกลางตะวันตก
ล้มทีมน้อยใหญ่จนสื่อระดับชาติยังต้องจับตา สำเภาภูธรลำนี้
กำลังใกล้ถึงฝังฝันที่จะได้เข้าไปเล่นในรอบแชมป์เปี้ยนลีก
และเป้าหมายสูงสุดคือ การไต่ชั้นขึ้นไปเล่นในระดับดิวิชั่น 1
อย่างไรก็ตามการจะได้ขึ้นไปเล่นในรอบลึก
ๆ ก็ใช่ว่าจะสะดวกโยธิน มิใช่แค่มีฝีมือ หรือดวงเท่านั้น
แต่ก็รวมถึงสภาพสนามที่ถือเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ในการแข่งขันระดับดิวิชั่น 2
หรือดิวิชั่น 1 นั้น จะมีการพิจารณาสภาพสนามทีมเหย้าเป็นองค์ประกอบด้วย
ถ้าไม่ได้มาตรฐาน ทางสโมสรเองก็ต้องไปหาสนามมาตรฐานเป็นที่มั่น
ซึ่งจะขอเช่าหรือสร้างเองนั้นก็อีกเรื่อง
สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการที่สนามกีฬา
จ.สมุทรสาครไม่ได้มาตรฐาน ก็คือ ต้องหาสนามที่ได้มาตรฐานมาแทน
ซึ่งแน่นอนว่าจะมีมูลค่าที่สูงกว่า รวมถึงบรรดาแฟนบอลที่จะตามไปเชียร์ก็จะไม่สะดวก ยิ่งถ้าสนามไกล ๆ แล้ว
ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการตามไปเชียร์ และสุดท้ายถ้าหาสนามไม่ได้
ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ที่ผ่านมาอย่างที่ทราบกันดีกว่าทีมฟุตบอลสมุทรสาคร
fc
ได้เช่าสนามกีฬาจ.สมุทรสาครเป็นสนามเหย้า ต้อนรับการมาเยือนของทีมต่าง ๆ
ซึ่งแน่นอนว่าสมุทรสาคร fc ไม่ใช่เจ้าของสนาม
และสนามกีฬาจังหวัดก็ไม่ได้ให้บริการเฉพาะทีมฟุตบอลสมุทรสาคร fc
หากแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ
สภาพสนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร ที่ดูแลโดย อบจ.สมุทรสาคร นั้นทรุดโทรม
อันเนื่องมาจากขาดการบูรณะที่รู้จริงและต่อเนื่อง ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องในทีมฟุตบอลสมุทรสาคร fc ทั้งผู้บริหารและแฟนบอล ต่างก็ช่วยกันเข้ามาดูแลทั้งค่าใช้จ่ายและกำลังคน
เพื่อให้สนามเหล่านี้ไม่บอบช้ำมากไปกว่าเดิม
โดยการกันไม่ให้มีใครมาใช้สนาม
เหนือจากการแข่งขันดิวิชั่น 2 ที่ต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมต่าง
ๆ
การดำเนินการปกป้องสนามของฝ่ายสมุทรสาคร
fc
สร้างความไม่พอใจให้กับหลายฝ่ายที่มองว่าไม่มีความยุติธรรม
สนามกีฬาจังหวัดก็ต้องเป็นของคนทั้งจังหวัด ไม่ใช่ฝ่ายใด หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
เรื่องราวยังไม่จบสิ้นแต่เพียงเท่านี้ ทีมงานสมุทรสาคร fc ยังต้องเหนื่อยกันต่อ
เมื่อมีข่าวว่าทั้งสมาคมกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร
จะใช้สนามแห่งนี้เป็นที่จัดการแข่งขันฟุตบอล 2 รายการ คือ การแข่งขันฟุตบอลดาวรุ่งมุ่งอาชีพ และรายการโค้กคัพชิงแชมป์ประเทศไทย
งานนี้ชาวสมุทรสาคร fc เริ่มขำไม่ออก
เพราะทีมกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มจะไต่ฟ้าคว้าดาว
ถ้าต้องมาถูกสกัดจุดอ่อนด้วยสภาพสนามที่ไม่ได้มาตรฐาน
ก็ไม่รู้จะมีโอกาสอย่างนี้อีกหรือไม่
ซึ่งในที่สุดก็ได้รวมตัวกันขอความชัดเจนจากสมาคม เมื่อช่วงเย็นของวันที่
2 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเข้าปรึกษาหารือ
หาทางออกกัน สุดท้าย ได้ข้อสรุปว่า การแข่งขันฟุตบอลดาวรุ่งมุ่งอาชีพ ก็จะขอใช้สนามกีฬาจังหวัดไปก่อน
ส่วนนัดหลังจากนี้และนัดชิงจะไปทำการแข่งขันที่สนามอื่น
และสำหรับเรื่องการแข่งขันรายการโค้กคัพชิงแชมป์ประเทศไทย เพื่อไม่ให้
ทางจังหวัดเสียหน้า เพราะรับการเป็นเจ้าภาพมาแล้ว
ก็จะหาสนามอื่นแทน และคาดว่าจะใช้ที่สนามฝั่งกระทุ่มแบนที่โรงเรียนวัดหงอนไก่
และฝั่งบ้านแพ้วที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา
การแก้ปัญหาครั้งนี้ถือเป็นการแก้เฉพาะหน้า
ซึ่งถ้ายังเดินอยู่ในทรงนี้ แน่นอนว่าคงต้องเกิดปัญหาอีกแน่นอน ยังไม่ต้องเอ่ยถึงคนรักฟุตบอล
(แต่ไม่รักสมุทรสาคร fc)
ที่ต้องบอกกันตรง ๆ ว่า พวกเขาก็มีสิทธิเหมือนกันที่จะใช้สนามแห่งนี้
ว่าไปแล้วทางออกที่เหมาะสมที่สุดคงหนีไม่พ้นที่ทีมสมุทรสาคร
fc ต้องมีสนามเป็นของตัวเอง จะทำอะไรก็สะดวกไม่ต้องเกรงใจใคร ให้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เขียนอย่างนี้
คิดว่าเสี่ยแบงค์ก็คงต้องคิดอะไรเพื่อทำการใหญ่อยู่เหมือนกัน ใช่มั้ยครับเสี่ย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น