องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ
(นาซา) ของสหรัฐอเมริกา
ที่ใช้ดาวเทียมเป็นจำนวนมากตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลทั่วโลกมานับตั้งแต่ปี
1992 ได้ข้อสรุปสำคัญประการหนึ่งว่า
ระดับน้ำทะเลกำลังเพิ่มระดับขึ้นสูงเร็วมาก เร็วกว่าข้อมูลที่เคยมีการประมาณการกันไว้ก่อนหน้านี้มากมาย และระดับความเร็วไม่เพียงจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ยังเพิ่มขึ้นจากสาเหตุที่มนุษย์มีความรู้น้อยที่สุด
จนจำเป็นต้องเร่งรีบค้นคว้าวิจัยให้แน่ชัดโดยเร็วที่สุดเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้ภาวะน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต
เมื่อเทียบระดับน้ำทะเลจากตอนเริ่มต้นสำรวจในปี1992กับข้อมูลล่าสุดเมื่อปี2014 นักวิทยาศาสตร์ของนาซาพบว่า มหาสมุทรทั่วโลกมีระดับน้ำสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 20 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับระดับเมื่อศตวรรษที่แล้ว และเมื่อหาค่าเฉลี่ยดูพบว่า ระดับน้ำทะเลดังกล่าวสูงขึ้นราว 7.62 เซนติเมตรต่อปี
ตัวเลขระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งมีการประเมินกันไว้อย่างเป็นทางการ เป็นตัวเลขของคณะทำงานระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก (ไอพีซีซี) หน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ของสหประชาชาติ ซึ่งระบุไว้ในรายงานเมื่อปี 2010 ว่า ภายในปี 2100 ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นระหว่าง 28-98 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับว่าปริมาณของก๊าซเรือนกระจกที่เราปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศเป็นเท่าใด
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ของนาซาเชื่อว่า การประเมินระดับน้ำทะเลดังกล่าวน้อยเกินไป เนื่องจากไม่ได้นำเอาสัดส่วนการละลายของน้ำแข็งมาพิจารณาประกอบด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น แม้ว่าระดับอุณหภูมิของโลกอันเนื่องจากปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะจำกัดอยู่ที่ไม่เกิน 2 องศาเซลเชียส ระดับน้ำทะเลก็สามารถเพิ่มสูงขึ้นมากได้ หากภาวะโลกร้อนเพียงแค่นั้นสามารถละลายน้ำแข็งขั้วโลกได้มากพอ
เอริค ไรกอท นักธารน้ำแข็งวิทยา ในสังกัดห้องปฏิบัติการเจ็ท โพรพัลชั่น ของนาซา ในพาซาเดนา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เชื่อว่าด้วยอุณหภูมิที่อบอุ่นขึ้นในอนาคต มนุษย์อาจเผชิญกับภาวะน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น "หลายเมตร" ในศตวรรษที่จะมาถึง
สตีฟ เนเรม วิศวกรการบินจากมหาวิทยาลัยแห่งโคโลราโด เมืองบุลเดอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา บอกว่า ภาพที่ได้เห็นกันนับตั้งแต่ปี 2012 เรื่อยมา เป็นภาพที่แตกต่างจากเมื่อตอนที่ไอพีซีซีประเมินสำหรับรายงานที่เผยแพร่เมื่อปี 2010 ตอนนี้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าที่เคยเพิ่มขึ้นเมื่อ 50 ปีก่อน และจะยิ่งเร็วมากขึ้นในอนาคตอีกมาก ในเวลาเดียวกัน เราก็ไม่รู้ว่าระดับการละลายของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกนั้นมีปริมาณมากน้อยแค่ไหนเมื่อตอบสนองกับภาวะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นแต่ละองศา
ตัวอย่างเป็นรูปธรรมที่เห็นได้ชัดก็คือเมื่อเร็วๆนี้มีภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าแผ่นน้ำแข็งขนาด 5 ตารางไมล์ หักหลุดออกมาจากธารน้ำแข็งยาค็อบชาเฟนทางตะวันตกของกรีนแลนด์
ว่ากันว่า เฉพาะธารน้ำแข็งยาค็อบชาเฟนแห่งนี้เพียงแห่งเดียว หากละลายไหลลงสู่มหาสมุทร ก็สามารถทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นสูงกว่า 30 เซนติเมตรแล้ว ศาสตราจารย์ไรกอทย้ำว่า ที่น่ากลัวก็คือการละลายนั้นเกิดขึ้นเร็วและกว้างขวางมากชนิดที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน ยังไม่มีใครคาดคิดกันมาก่อนว่าการละลายอย่างรวดเร็วของน้ำแข็งอาจหมายถึงหายนะสำหรับค่อนโลกได้เลยหากไม่มีการเตรียมการรับมือ
เมื่อเทียบระดับน้ำทะเลจากตอนเริ่มต้นสำรวจในปี1992กับข้อมูลล่าสุดเมื่อปี2014 นักวิทยาศาสตร์ของนาซาพบว่า มหาสมุทรทั่วโลกมีระดับน้ำสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 20 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับระดับเมื่อศตวรรษที่แล้ว และเมื่อหาค่าเฉลี่ยดูพบว่า ระดับน้ำทะเลดังกล่าวสูงขึ้นราว 7.62 เซนติเมตรต่อปี
ตัวเลขระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งมีการประเมินกันไว้อย่างเป็นทางการ เป็นตัวเลขของคณะทำงานระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก (ไอพีซีซี) หน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ของสหประชาชาติ ซึ่งระบุไว้ในรายงานเมื่อปี 2010 ว่า ภายในปี 2100 ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นระหว่าง 28-98 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับว่าปริมาณของก๊าซเรือนกระจกที่เราปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศเป็นเท่าใด
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ของนาซาเชื่อว่า การประเมินระดับน้ำทะเลดังกล่าวน้อยเกินไป เนื่องจากไม่ได้นำเอาสัดส่วนการละลายของน้ำแข็งมาพิจารณาประกอบด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น แม้ว่าระดับอุณหภูมิของโลกอันเนื่องจากปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะจำกัดอยู่ที่ไม่เกิน 2 องศาเซลเชียส ระดับน้ำทะเลก็สามารถเพิ่มสูงขึ้นมากได้ หากภาวะโลกร้อนเพียงแค่นั้นสามารถละลายน้ำแข็งขั้วโลกได้มากพอ
เอริค ไรกอท นักธารน้ำแข็งวิทยา ในสังกัดห้องปฏิบัติการเจ็ท โพรพัลชั่น ของนาซา ในพาซาเดนา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เชื่อว่าด้วยอุณหภูมิที่อบอุ่นขึ้นในอนาคต มนุษย์อาจเผชิญกับภาวะน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น "หลายเมตร" ในศตวรรษที่จะมาถึง
สตีฟ เนเรม วิศวกรการบินจากมหาวิทยาลัยแห่งโคโลราโด เมืองบุลเดอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา บอกว่า ภาพที่ได้เห็นกันนับตั้งแต่ปี 2012 เรื่อยมา เป็นภาพที่แตกต่างจากเมื่อตอนที่ไอพีซีซีประเมินสำหรับรายงานที่เผยแพร่เมื่อปี 2010 ตอนนี้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าที่เคยเพิ่มขึ้นเมื่อ 50 ปีก่อน และจะยิ่งเร็วมากขึ้นในอนาคตอีกมาก ในเวลาเดียวกัน เราก็ไม่รู้ว่าระดับการละลายของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกนั้นมีปริมาณมากน้อยแค่ไหนเมื่อตอบสนองกับภาวะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นแต่ละองศา
ตัวอย่างเป็นรูปธรรมที่เห็นได้ชัดก็คือเมื่อเร็วๆนี้มีภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าแผ่นน้ำแข็งขนาด 5 ตารางไมล์ หักหลุดออกมาจากธารน้ำแข็งยาค็อบชาเฟนทางตะวันตกของกรีนแลนด์
ว่ากันว่า เฉพาะธารน้ำแข็งยาค็อบชาเฟนแห่งนี้เพียงแห่งเดียว หากละลายไหลลงสู่มหาสมุทร ก็สามารถทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นสูงกว่า 30 เซนติเมตรแล้ว ศาสตราจารย์ไรกอทย้ำว่า ที่น่ากลัวก็คือการละลายนั้นเกิดขึ้นเร็วและกว้างขวางมากชนิดที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน ยังไม่มีใครคาดคิดกันมาก่อนว่าการละลายอย่างรวดเร็วของน้ำแข็งอาจหมายถึงหายนะสำหรับค่อนโลกได้เลยหากไม่มีการเตรียมการรับมือ
รู้อย่างนี้แล้ว
ต้องช่วยกันลดโลกร้อนซะแล้ว เริ่มจากอะไรดีล่ะ ก็ตัวเองนั้นแหละง่ายที่สุด ช่วยได้มากน้อยแค่ไหนก็เอาเถิดท่าน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น