

โดยสนพ.ได้มอบระบบโซลาร์เซลล์ เพื่อใช้เป็นไฟฟ้าสำรอง เมื่อเกิดไฟฟ้าตกหรือไฟฟ้าดับ เพื่อให้ปูม้าหลายแสนตัวที่อนุบาลไว้ไม่ให้ขาดออกซิเจน เพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้ท้องทะเล และเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนในแนววิถีอนุรักษ์ ธรรมชาติ และสร้างอาชีพให้กับประมงพื้นบ้าน ซึ่งกระทรวงพลังงาน ได้สนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานด้วยการติดตั้งระบบโซล่าเซล ช่วยเหลือชุมชนในการใช้พลังงานทดแทนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพลังงานไฟฟ้า แก้ปัญหากระแสไฟฟ้าดับ ลดค่าใช้จ่าย โดยชุดผลิตไฟฟ้าเซลแสงอาทิตย์ หรือโซล่าเซลจะเป็นพลังงานในการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและชุดปั้มเติมอากาศและปั้มสูบน้ำในการอนุบาลพันธุ์ปู ของธนาคารปู

แหล่งที่สอง เป็น “ธนาคารปูไข่”(ปูม้า)ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งทะเล มรดกทางอาชีพของชาวเลในพื้นที่อย่างยั่งยืน

โดยดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่าชุมชนจันทบุรีและตราดที่อาศัยอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลมักจะประกอบอาชีพการประมงเป็นหลักซึ่งเป็นพื้นที่ 3 น้ำ ทำให้มีกุ้ง หอย ปู ปลาที่สมบูรณ์ ทั้งนี้ปูไข่เป็นที่นิยมบริโภคมาก อาจเกิดภาวะขาดแคลนพันธุ์ปู ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงได้ดำเนินโครงการธนาคารปูไข่ (ปูม้า) เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะขาดแคลนพันธุ์ปูและเป็นการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ปูไปพร้อมๆกัน


นอกจากนี้จะช่วยบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้อย่างเหมาะสมจากการประเมินผลพบว่า ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าได้กว่า 29,500 บาทต่อปี และเพิ่มสัดส่วนการผลิตและใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนตามนโยบายกระทรวงพลังงาน ไม่น้อยกว่า 0.67 toe/ปี หรือคิดเป็นคิดเป็น 7,800 หน่วย/ปีจากบ่ออนุบาลจะช่วยเติมเต็มชีวิตสัตว์ท้องทะเลในปริมาณเพิ่มขึ้น
ชาวประมงชายฝั่งจึงได้รับประโยชน์จากการจับไปขายสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้รัฐบาลโดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีความพร้อมที่จะช่วยส่งเสริม “ธนาคารปูไข่” ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งในอีก 3ปีนี้กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานมีความตั้งใจช่วยสนับสนุนการจัดตั้งส่งเสริมธนาคารปูไข่ (ปูม้า) อีกกว่า 100 จุดต่อปี ซึ่งจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ประชาชนที่มาทำธนาคารปูไข่มักจะเป็นจิตอาสาที่ทำงานโดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆโดยรัฐบาลจะพร้อมช่วยเหลือในการลดค่าไฟฟ้าเพราะกิจกรรมนี้ใช้ไฟฟ้าในปริมาณมาก โดยสังเกตุจากเวลาที่ปูวางไข่แล้วเขี่ยไข่ออกจะต้องได้รับออกซิเจนตลอดระยะเวลา 7 วันที่แม่ปูพักฟื้น อีกทั้งธนาคารปูไข่หลายแห่งก็อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือตั้งอยู่ในพื้นที่ปลายสาย ที่มักมีไฟตกไฟดับบ่อย
หากใครสนใจสามารถติดต่อได้ที่พลังงานจังหวัดในทุกจังหวัด ในการยื่นข้อเสนอโครงการที่จะขอรับการสนับสนุนปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ได้ตั้งแต่วันนี้ - 10 สิงหาคม 2561 (เวลา 16.30 น.)
***********************************************
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น