ปล้นบัตร 4.0 รูดปรื้ด ๆ ไฮเทคจุงเบย

ตบกะโหลก

ปล้นบัตร 4.0

รูดปรื้ด ๆ ไฮเทคจุงเบย

            เรื่องบัตรเครดิต หรือเอทีเอ็ม มีปัญหาให้หวาดเสียวรำคาญใจอยู่บ่อยครั้ง ปัญหาของคนรวยอย่างพวกเรา พวกคนจนไร้บัตรไม่เข้าใจหรอก …5555

            มาเข้าเรื่องกันดีว่า  ก็อย่างที่เห็นเป็นเรื่องเป็นราว สร้างความสั่นสะเทือนวงการรูดปรื้ด ๆ  กับข่าว เด็กปั้มแอบรูดบัตร เดบิต วีซ่า ลูกค้าเติมน้ำมัน ก่อนเอาไปเล่นเกมส์ออนไลน์ ROV  รายนี้เล่นไม่ใหญ่ เอาแค่หลักพัน  แต่ก็สร้างความอกสั่นขวัญหายให้กับพี่น้องคนมีเครดิตทั้งหลายอยู่เหมือนกัน

            เรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างนี้ครับ จะเล่าให้ฟัง คือ เมื่อประมาณปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา  มีประชาชนนายหนึ่ง เข้าไปเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งแถวพุทธมณฑล สาย 5 โดยใช้บัตรเดบิตวีซ่าของธนาคารกรุง... จ่ายค่าเติมน้ำมันยอดเงิน 680 บาท แล้วก็ขับรถออกไปทำธุระที่อื่น

เวลาผ่านไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็ให้ปรากฏข้อความ sms ในโทรศัพท์ได้เด้งยอดเงินหักออกรัวๆ เริ่มจากเวลา 13.01-13.21 น. เป็นการกดยอดออก 8 ครั้งติดกันและสักพักธนาคารแผนกเช็คความเสี่ยงก็โทรมารายงานว่า คุณพี่ค่ะ บัญชีบัตรเดบิตของคุณพี่ได้มีการเคลื่อนไหว โดยมีการกดเงินซื้อไอเท็มในเกมส์ออนไลน์ ROV  จริงเท็จประการใดค่ะ

เมื่อคุณพี่ได้รับเรื่องจากแบงค์ ก็นั่งไม่ติดแล้ว เพราะรู้อยู่ว่าตัวเองไม่ได้กดดันอะไรหลังออกจากปั้มน้ำมัน    ธนาคารก็ถามอีกว่าได้ให้บัตรกับใครและใครใช้บัตรใบนี้บ้าง พวกก็ตอบว่าไม่เคยนะ วันนี้เพิ่งใช้บัตรนี้เติมน้ำมันเอง  ทางธนาคารเลยชี้ทางสว่างว่าอาจจะเป็นเด็กปั๊มหรือเปล่า  โดยให้เหตุผลว่า รูดบัตรคุณพี่ง่าย ๆ ทำได้แค่จดหมายเลขบัตรด้านหน้าและด้านหลัง ก็สามารถเข้าซื้อไอเท็มได้แล้ว 

เฮ้ยมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ต้องเข้าเครื่องรูด ก็ขูดเงินออกจากบัตรได้แล้วหรือนี้ เทคโนโลยี 4.0 ก้าวล้ำจุงเบย

เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จะรออะไร พวกก็สั่งระงับการใช้บัตร และเข้าแจ้งความ  ต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่ลงพื้นที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว  เบ็ดเสร็จตรวจเช็คจากกล้องก็ทำให้รู้ว่า ผู้ต้องหาก็คือ เด็กปั้มที่รับบัตรนั้นเอง  พร้อมยอมรับสารภาพแล้ว ว่าทำจริง  ได้วิธีนี้มาจากเพื่อนที่ต่างจังหวัดสอนมาโดยกดเลขบัตรพ่อแม่เค้า แต่ไอ้น้องนี้มาทำกับลูกค้า  ตำรวจเลยถามว่าจะเอายังไงทำยังไงจะรับผิดชอบค่าเสียหายยังไง ติดต่อญาติพี่น้องได้ไหม เค้าบอกพ่อแม่เค้าก็ไม่มีเงินเลย มีแต่พี่สาวเลยโทรให้พี่สาวเค้ามาเจรจาและขอให้จบวันนี้ สุดท้ายก็ได้เงินคืน และไม่ถือเอาเรื่องราว แต่อย่าไปทำที่ไหนอีกเด็ดขาด ไม่งั้นเอาเรื่อง  ทางคุณตำรวจก็ได้เขียนหลักฐานการคืนเงินและลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ เพื่อรับทราบและเป็นพยาน ไม่อยากตัดอนาคตของเด็กและไม่อยากให้เดือนร้อนถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้อง เหตุการณ์นี้ถือเป็นกรณีศึกษาให้กับทุกคนที่ใช้บัตรเครดิต-เดบิต ในการจ่ายใช้บริการซื้อสินค้าให้มีความระมัดระวัง!รอบครอบ มิฉะนั้นอาจจะเสียเงินโดยไม่รู้ตัว

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  อย่าเชื่อใจใคร แม้แต่แบงค์ที่คิดว่าจะดูแลเงินเราอย่างดี แต่กลับให้คนอื่นเอาเงินไปฟรี ๆ ได้ง่าย ๆ …555 ต่อไปนี้ก็ระวังเอาเองก็แล้วกัน อย่าปล่อยบัตรเครดิตไว้โดยลำพัง  ยื่นแล้วต้องตามไปดูด้วย

ว่าถึงเรื่องบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินอะไรก็ตาม ปราชญ์ด้านการเงินการทองท่านสอนเรื่องการใช้บัตรเหล่านี้ให้ปลอดภัย ในยุค 4.0 ไว้ 3 ข้อหลัก คือ

1.            ตรวจสอบสถานการณ์การทำธุรกรรมผ่านบัตรอย่างสม่ำเสมอ ถ้ามีข้อสงสัยตรงไหน ให้รีบติดต่อธนาคาร

2.            อย่าให้ข้อมูลของบัตรของคุณผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล์ หรือ ผ่านการพิมพ์ในช่องทางใดก็ตาม

ประเภท การโจรกรรมผ่านการซื้อสินค้า

3.            หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้า จาก อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ คอมพิวเตอร์สาธารณะ หรือ Wifiที่ให้ใช้ฟรีตามสถานที่ต่างๆ

Posted in: