pearleus

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความคืบหน้ากรณีแม่ค้าถูกมาเฟียเงินกู้นอกระบบ ยกพวกมาพังร้าน

               สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 58 เวลา 01.00 น. นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ ประธานชุมชน ก.ส.บ.เขตสายไหม/กต.ตร.สน.สายไหม ได้รับแจ้งจาก นายอรวรรณ  ยุติธรรม อายุ 53ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/207 ชุมชน ก.ส.บ. ถ.พหลโยธิน 54/1 แขวงคลองถม เขตสายไหม กทม. ว่าร้านอาหารของตนถูกมาเฟียเงินกู้นอกระบบ ยกพวกมาพังร้านได้รับความเสียหาย  จึงได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ธงชัย  สว่างจิตร พนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีและเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
หลังเกิดเหตุ นายเอกภพ  เหลืองประเสริม ประธานชุมชน ก.ส.บ. เขตสายไหม/กต.ตร.สน.สายไหม ได้เรียกนายอรวรรณฯ เข้ามาพูดคุยเพื่อให้การช่วยเหลือปัญหาหนี้สินนอกระบบ ทำให้ทราบว่า นางอรวรรณฯ ยังมีหนี้กับนายทุนเงินกู้นอกระบบอีก  4 ราย รวมยอดเงินกว่า 25,000 บาท ตนจึงได้ประสานงานไปยัง นาวาอากาศเอก(พิเศษ)ชูศักดิ์  แก้วนิมิตร ประธานกองทุนหมู่บ้านชุมชน ก.ส.บ.ให้รับโอนหนี้ ของนางอรวรรณฯ จากนายทุนเงินกู้นอกระบบ ซึ่งคิดอัตรา ดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือนมาเป็นของกองทุนหมู่บ้านแทน  
โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน จากนั้นยังได้ประสานไปยัง นายจักรรัตน์  กนะกาศัย ประธาน กต.ตร.สน.สายไหม เพื่อขอให้ช่วยเหลือติดตามเร่งรัดคดีความ และขอให้ช่วยเหลือเรื่องเงินทุนในการซื้อเงินทุนในการซื้ออุปกรณ์ประกอบอาชีพที่ถูกทำลายไปด้วย
                และวันนี้ วันจันทร์ ที่10 ส.ค. 58 เวลา 11.00น. นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐประธานชุมชน ก.ส.บ. เขตสายไหม/กต.ตร.สน.สายไหม ได้ให้ นางอรววรณฯนัดหมายนายทุนเงินกู้นอกระบบทั้ง 4 ราย มาเครียร์ยอดหนี้ทั้งหมด พร้อมจ่ายเงินเพื่อปิดบัญชีที่ห้องประชุมชุมชน ก.ส.บ.เขตสายไหม  ทั้งนี้นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ยังกล่าวว่า เดิมที่ในพื้นที่เขตสายไหมมีหน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและมั่นคงของมนุษย์ ตั้งอยู่ คือ  ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชน ซึ่งศูนย์ฯจะเป็นที่พึ่งของประชาชนในพื้นที่เวลามีปัญหาหนี้นอกระบบต่างๆ แต่ปัจจุบันทางกระทรวงได้ยุบศูนย์ไปแล้วทำให้ประชาชนไม่มีที่พึ่งหรือทีให้คำปรึกษา อีกทั้งอยากให้หน่วยงานราชการโดยเฉพาะ การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เข้ามาช่วยเหลือเรื่องเยียวยาให้กับผู้เสียหายซึ่งตกเป็นเหยื่อต่อไป/ปิยะรัตน์ รายงานข่าว /วีระวุฒิ ถ่ายภาพ



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น