pearleus

วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สตช.ร่วมกับ กสทช.วางมาตรการควบคุมธุรกิจ โทรคมนาคมที่ผิดกฏหมาย


เมื่อเวลา11.30น.วันที่28ก.พ.61 ณ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการประชุมหารือวางมาตรการป้องกันและควบคุมผู้ประกอบกิจการและให้บริการโทรคมนาคมที่ได้กระทำผิดกฏหมาย โดยมี พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์(ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล(รอง ผบช.ทท.) พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง(ผบก.ทท.1) พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์(รอง ผบก.สปพ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก กสทช.หารือร่วมกันเนื่องจาก ได้พบผู้กระทำความผิดโดยได้ใช้บริการโทรศัพท์ผ่านระบบ อินเตอร์เน็ต หรือที่เรียกว่า Volp (Voice over Internet Protocol) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ สำหรับการสื่อสารทางโทรศัพท์ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ผ่านชุมสายโทรศัพท์ก็สามารถโทรทั่วโลกได้ โดยกลุ่มมิจฉาชีพได้นำมาใช้กระทำความผิดโดยโทรหลอกเหยื่อผู้เสียหายและสร้างความเสียหายราว 195,394,775บาท จากจำนวน373คดี ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้หารือร่วมกับทาง กสทช.เพื่อที่หาแนวทางป้องกันและปราบปรามกลุ่มแก๊งค์มิจฉาชีพหรือแก๊งค์ Call Center ให้หมดสิ้นไป













งานพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต.ทินกร ปถมสาคร


เมื่อ 28 ก.พ.2561 เวลา 16.00 น.พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผบก.จว.สุพรรณบุรี นายเพยาว์ เนียะแก้วอดีตนายก อบจ.จังหวัดนครปฐม นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา อดีตรองนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร พร้อมแขกผู้มีเกียรติร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต.ทินกร ปถมสาครพี่ชาย ร.ต.ท.พอพล ปถมสาคร (หมวดอาท) ผู้ก่อตั้งกลุ่มแก๊งแมงโม้ ณ วัดป้อมวิเชียรโชติการาม (พระอารามหลวง) อ.เมืองสมุทรสาคร













พม. ประกาศจัดงานวันสตรีสากลปี 61 ชูบทบาทสตรีชนบท-หนุนพลังหญิงไทย มอบเกียรติคุณ19สาขา47รางวัล

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.00 น. ณ ห้องโถง ชั้น 1  อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว แถลงข่าวเตรียมจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2561 ภายใต้กรอบแนวคิด “พลังสตรีชนบท พลังขับเคลื่อนสังคมไทย” ชูบทบาทสตรีชนบท ขานรับนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ เสริมแกร่งและสนับสนุนสตรีให้มีศักยภาพสร้างความยั่งยืนให้ประเทศ

นายเลิศปัญญา กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 8  มีนาคมของทุกปี เป็นวันสตรีสากล และเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกจัดกิจกรรมเพื่อร่วมเฉลิมฉลองและรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรี เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม ความเสมอภาค สันติภาพ และการพัฒนา รวมทั้งนำไปสู่การทบทวนความก้าวหน้าในการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ ทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ตลอดจนสิทธิมนุษยชนของสตรี และประชาชนทุกคน ทั้งนี้ รัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศไปสู่ “ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ด้วยการสร้างพลังทางสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายโอกาสแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เป็นธรรม นำไปสู่ประเทศไทย
4.0 ที่เน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ภายใต้แนวคิดประชารัฐ ซึ่งให้
ความสำคัญกับการเกษตรและชนบท

ทั้งนี้เนื่องจากเป็นจุดที่มีปัญหาความเหลื่อมล้ำที่สำคัญ จึงมุ่งสร้างการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการพัฒนาบทบาทสตรีของประเทศไทย ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็น และร่วมกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจด้านสตรีในทุกระดับ รวมทั้งยกย่องเชิดชูเกียรติแก่สตรี บุคคล หน่วยงานหรือองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการพัฒนาศักยภาพสตรี ตลอดจนผสานพลังกับทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของสตรีในการพัฒนาประเทศอันนำไปสู่สังคมแห่งความเสมอภาคและสันติสุขอย่างยั่งยืน 

อธิบดีกรมสค.ระบุว่า ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกสหประชาชาติได้แสดงเจตนารมณ์ในการ
ปฏิบัติตามพันธสัญญาต่อเวทีโลก ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาบทบาทสตรี และการสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันทางเพศ ซึ่ง พม. โดย กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.)ได้ กำหนดจัดประชุมสมัชชาสตรีแห่งชาติ และจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2561 ขึ้น ภายใต้แนวคิด “
พลังสตรีชนบท พลังขับเคลื่อนสังคมไทย” ซึ่งกำหนดจัดประชุมสมัชชาสตรีแห่งชาติ ในวันพุธที่ 7 มีนาคม 2561 ณ ห้องจูปิเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็คเมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย การนำเสนอผลการขับเคลื่อนข้อเสนอสมัชชาสตรีแห่งชาติที่ผ่านมา การรับรองข้อเสนอสมัชชาสตรีระดับจังหวัด การระดมความคิดเห็นจากแกนนำเครือข่ายเพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา/พัฒนาศักยภาพสตรีที่สอดคล้องกับสภาพสังคมไทยปัจจุบัน

รวมทั้งสรุปเป็นข้อเสนอสมัชชาสตรีแห่งชาติ ประจำปี 2561 เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในงานวันสตรีสากล ประจำปี 2561 ในวันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2561 ณ ห้องจูบิลี่ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยมี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดและรับมอบข้อเสนอสมัชชาสตรีแห่งชาติ ประจำปี 2561 พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับสตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรที่มีผลงานดีเด่น ที่ดำเนินงานด้านการส่งเสริมความเสมอระหว่างหญิงชาย การพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของสตรี จำนวน 19 สาขา รวม 47 รางวัล

พร้อมกล่าวว่า ในปีนี้ จะแตกต่างจากทุกปี โดยมุ่งเน้นไปที่พลังสตรีชนบท ดังนั้น ทั้งสตรี บุคคล และ
หน่วยงานองค์กรที่มีผลงานดีเด่นจนได้รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ส่วนใหญ่จะเป็นสตรีชนบท เช่น
นางราตรีศรีวิไล บงสิทธิพร (สตรีดีเด่นด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม) รายการ PERSPECTIVE
(สื่อสารมวลชนดีเด่น ด้านการคุ้มครองสิทธิและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ ประเภท
รายการโทรทัศน์/ละครโทรทัศน์)

นอกจากนี้ ยังมีสตรีที่โดดเด่นทางภาคธุรกิจที่ได้รับโล่นักธุกิจสตรีดีเด่นที่น่าสนใจอีก 1 คน คือ นางอุไร
คุณานันทกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง บุกเบิกและพัฒนากิจการกลุ่มสยามสตีล กรุ๊ป จนเป็นอุตสาหกรรม
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมยอมรับทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า
“LUCKY-KINGDOM” เป็นต้น

#####################

“กรังด์ปรีซ์” สร้างมิติใหม่ในการประกวด Miss Motor Show 2018



นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหาร / ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดีแก่สาวมั่นผู้ผ่านเข้ารอบ 25 คนสุดท้าย ในการประกวด Miss Motor Show 2018 เวทีของผู้หญิงยุคใหม่ สวยด้วยความสามารถและปฏิภาณไหวพริบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Miss Motor Show Beauty Reflect ซึ่งปีนี้ได้สร้างมิติใหม่ให้กับเวทีการประกวดโดยสาว ๆ จะได้เรียนรู้ด้านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงยังเป็นเส้นทางก้าวสู่วงการบันเทิงต่อไป ณ ลานน้ำพุ ศูนย์การค้า เดอะพรอมมานาด ถนนรามอินทรา เมื่อเร็วๆนี้

วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

อบรมวิทยากรแกนนำ กศน.(ครู ข.และครู ค.)


ดร.ปรเมศวร์ ศิริรัตน์ ผอ.กศน.จังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดการอบรมวิทยากรแกนนำ กศน.(ครู ข.และครู ค.) หลักสูตร Digital Literacy และ E-Commerce ภายใต้โครงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตัล "กิจกรรมการพัฒนาเครือข่ายเศรษฐกิจดิจิตัลสู่ชุมชนในระดับตำบล
เพื่อให้บุคลากรของกศน.จังหวัดนครปฐมนำความรู้ไปขยายผลกับนักศึกษาและประชาชนในพื้นที่ ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยมีครูกศน.เข้ารับการอบรม ทั้ง 106 ตำบล  กล่าวรายงานโดย พ.จ.ท.ปกาสิต ตราชื่นต้อง     รองผอ.กศน.จังหวัดนครปฐม  ณ หอประชุมสำนักงาน กศน.จังหวัดนครปฐม








เทสโก้ โลตัส ทุ่มงบนับล้าน สนับสนุนพัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวง จ.มหาสารคาม


เมื่อวันที่ 27ก.พ.61 เทสโก้ โลตัส ได้สนับสนุนเงิน1,000,000บาท ให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวง ในจังหวัดมหาสารคาม เพื่อนำไปพัฒนาคุณภาพในขั้นตอนของกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้ไก่งวง ที่มีคุณภาพที่ดีและพัฒนากระบวนการผลิต เพื่อให้ได้มาตรฐานระดับ GMP และสามารถเพิ่มผลผลิตไก่งวงที่ชำแหละแล้วอีกด้วย ทั้งนี้ได้ช่วยให้เกษตรกรชาวจังหวัดมหาสารคามผู้ที่เลี้ยงไก่งวง ได้มั่นใจและช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรอีกด้วย ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มแปลงใหญ่ไก่งวง จังหวัดมหาสารคาม และเทสโก้ โลตัส ได้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU การพัฒนาการผลิตและการตลาดไก่งวงประชารัฐ เพื่อส่งเสริมและพัฒนากระบวนการผลิต การแปรรูป และการตลาด ผลิตภัณฑ์ไก่งวง ให้ได้คุณภาพและมาตรฐานครบวงจร และที่ผ่านมาทาง เทสโก้ โลตัส ได้รับซื้อไก่งวงประชารัฐ จากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวงในจังหวัดมหาสารคาม เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศตามสาขาต่างทั่วประเทศ นับว่าเป็นโครงการที่ดีๆที่ทางเทสโก้ โลตัส ได้สนับสนุนให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีสู่ประชาชน ขอขอบคุณ ดร.ปัณฑิพาณ์ ธาราภิบาล สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร











กาชาดมอบชุดคอมพิวเตอร์ช่วยเหลือ รร. "โครงการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.61  นายสุวัฒน์ รัตนพันธุ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครศรีธรรมราช เขต 2 เป็นผู้แทนรับมอบคอมพิวเตอร์ พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง เครื่องพิมพ์ และเครื่องสำรองไฟ ให้แก่โรงเรียนที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัด
นครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งสิ้น จำนวน 181 เครื่อง มูลค่า
9,102,490 บาท (เก้าล้านหนึ่งแสนสองพันสี่ร้อยเก้าสิบบาทถ้วน) เพื่อฟื้นฟูจากเหตุการณ์น้ำท่วม ตามโครงการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยมีพลโทนายแพทย์ อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์สภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธี และได้รับเกียรติจาก นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าฯนครศรีฯ
ณ สถานีกาชาดสิรินธร (สถานีกาชาดที่ 12 ทุ่งสง) จังหวัดนครศรีธรรมราช(กาชาดที่ 12 ทุ่งสง) จังหวัดนครศรีธรรมราช


นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ตามที่สภากาชาดไทย ได้มอบคอมพิวเตอร์ พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง เครื่องพิมพ์ และเครื่องสำรองไฟ ให้แก่จังหวัดพัทลุง จำนวน 78 โรงเรียน 78 เครื่อง จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 25
โรงเรียน 25 เครื่อง และจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับมอบทั้งสิ้น จำนวน 78 โรงเรียน รวม 78 เครื่อง
ซึ่งแบ่งเป็นโรงเรียนสังกัด สพป. นครศรีธรรมราช เขต 2 จำนวน 13 โรงเรียนรวม 13 ชุด ได้แก่ รร.วัด
ธรรมเผด็จ รร.บ้านวังเต่า รร.บ้านถ้ำตลอด รร.บ้านนาโพธิ์ รร.บ้านไทรงาม รร.บ้านนาพรุ รร.วัดนางเอื้อย รร.องค์การสวนยาง 1 รร.วัดทุ่งควายพัฒนศึกษา รร.บ้านไสโคกเกาะ รร.บ้านโคกมะขาม รร.วัด
มะเฟือง และ รร.วัดใหม่ เพื่อให้โรงเรียนที่ประสบอุทกภัยดังกล่าวได้มีอุปกรณ์การเรียนการสอนให้แก่นักเรียนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและแหล่งความรู้จากทั่วโลก เป็นการส่งเสริมให้นักเรียนมีโอกาสได้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยและมีการพัฒนาคุณภาพด้านการศึกษาที่เท่าเทียมกันต่อไป





*****************

“บิ๊กอู๋”เผย ผลเจรจา สปป.ลาว สองฝ่ายร่วมปรับสถานภาพแรงงานให้ทัน 30 มิ.ย.

 “รัฐมนตรีแรงงาน” เผย ไทย - สปป.ลาว บรรลุผลเจรจากระชับความร่วมมือแน่นแฟ้น เห็นพ้องร่วมกันเร่งรัดดำเนินการปรับสถานภาพแรงงานให้แล้วเสร็จก่อน 30 มิ.ย.61 เพิ่มศูนย์แรกรับและสิ้นสุดการจ้าง จ.มุกดาหาร เป็นสถานที่ปรับสถานภาพแรงงานลาว พร้อมเปิดดำเนินการเดือนพฤษภาคมนี้

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงผลการหารือข้อราชการกับนายคำแพง ไซสมแพง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการแห่ง สปป.ลาว โดยมี นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน เข้าร่วมการเจาจาในครั้งนี้ด้วย ณ โรงแรมลาว พลาซ่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า สาระสำคัญจากการหารือในครั้งนี้ ทางการลาวขอให้ไทยส่งข้อมูลแรงงานลาวที่ยังดำเนินการปรับสถานภาพไม่แล้วเสร็จ เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการวางแผนการดำเนินการให้ทันกำหนดเวลา และขอเชื่อมโยงข้อมูลของแรงงานลาวที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งไทยยินดีส่งข้อมูลแรงงานให้ สปป.ลาว และจะพยายามให้แรงงานลาวได้เข้าไปปรับสถานภาพโดยเร็ว ซึ่งแต่ละศูนย์จะสามารถดำเนินการได้ 500 คนต่อวัน นอกจากนี้ ได้ขอให้แรงงานลาวที่อยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดินทางกลับไปดำเนินการฝั่งลาว ตลอดจนได้จัดรถโมบายเคลื่อนที่ไปยังจังหวัดที่มีศูนย์กลางของแรงงานจำนวนมากด้วย เช่น ขอนแก่น เป็นต้น 

 พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวต่อว่า ฝ่ายไทยยินดีประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางเพื่อให้นายจ้างและแรงงานได้มาลงทะเบียนและปรับสถานภาพภายในเวลากำหนด และขอให้ทางการลาวได้ประชาสัมพันธ์ให้แรงงานและครอบครัวของแรงงานที่ทำงานในประเทศไทยเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จทันกำหนด นอกจากนี้ ยังสนับสนุนสถานที่ให้จัดตั้งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้าง จ.มุกดาหาร เพื่อให้เกิดกลไกความร่วมมือนำแรงงานเข้าสู่กระบวนการปรับสถานภาพโดยเร็ว ขณะนี้มีความพร้อมและสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ สำหรับการขอวีซ่า Non – Immigrant L-A ณ สถานกงสุลใหญ่ แขวงสะหวันนะเขตของแรงงานลาว สามารถดำเนินการโดยแรงงานลาวมอบหมายผู้แทนไปดำเนินการแทนได้เช่นเดียวกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครเวียงจันทร์ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นชอบที่จะจัดการประชุมทางวิชาการร่วมกัน โดยทางการลาวจะเป็นเจ้าภาพในเดือนมีนาคมนี้

เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ และเป็นโอกาสที่ดีในการขยายความร่วมมือด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการจ้างแรงงานให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นต่อไป

 “ขอฝากถึงนายจ้างและผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างต่างด้าวทั้ง 3 สัญชาติ ให้เร่งไปจัดทำทะเบียนประวัติให้แล้วเสร็จภายใน 31 มีนาคม 2561 นี้ ซึ่งจะไม่มีการขยายเวลาอีกต่อไป” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวในท้ายสุด

********************

MOREGANIC RESTAURANT ปักธงนำเทรนด์มังสวิรัติในเชียงใหม่

วิถีชีวิตเน้นทานอาหารมังสวิรัติ ไม่ใช่เพียงแต่เป็นเทรนด์ระยะสั้น หากได้ปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตประจำ
วันเป็นเวลากว่าสิบปี อย่างไรก็ตาม กระแสสังคมปัจจุบันเองให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม และจิตสำนึกต่อเรื่องสัตว์อย่างทวีคูณ  เทรนด์ดังกล่าวเห็นได้ชัดจากกลุ่มนิตยสารและเว็บไซต์ต่างประเทศ
ชั้นนำนำมาพูดถึงอย่างมากในปี 2561  สำหรับ มอร์แกนิค Moreganic Restaurant (มอร์แกนิค เรสเตอร์รอง)  นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าไปลิ้มลอง

Moreganic Restaurant ตั้งอยู่ใน Away Chiang Mai Thapae Resort – A Vegetarian Retreat (อเวย์ เชียงใหม่ ท่าแพ รีสอร์ต อะ เวทเจทเทเรียน รีทรีท) อีกหนึ่งทางเลือกที่แตกต่างไปจากในกลุ่มโรงแรมแบบเดิมในจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย รีสอร์ตหรูในสไตล์โคโลเนียล – ล้านนา พร้อมห้องพัก 39 ห้องที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เตียงนอนลินินคุณภาพดี ผสานศิลปะล้านนา พื้นไม้สีเข้ม ระเบียงสีขาวสะอาดตา และอาหารทานเล่นที่ผลิตจากพืชและผลไม้เป็นหลักสอดคล้องกับหลักปฏิบัติที่ไม่สนับ
สนุนการทารุณกรรมสัตว์และไม่หวังผลกำไรจากการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ทั้งนี้ Away Chiang Mai Thapae Resort – A Vegetarian Retreat  ได้รับการรับรองจาก Veggie Hotels  ซึ่งนับเป็นรีสอร์ตแรกในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำและมีความนิยมในอาหารมังสวิรัติอย่างเชียงใหม่ ยิ่งตอกย้ำว่า Moreganic Restaurant ได้นำเสนออาหารที่เน้นความสร้างสรรค์ ปรับมาตรฐานการปรุงให้สูงกว่าทุกมาตรฐานที่เคยมีมา 

 “เชฟและทีมมอร์แกนิคทุกคนเชื่อในการปรุงอาหารมังสวิรัติเป็นเรื่องที่ยั่งยืน เราตรวจสอบจนแน่ใจว่า
ผักที่นำมาปรุงยังคงความสดอยู่เสมอ เพราะเราสนับสนุนฟาร์มท้องถิ่น เช่น ผลิตภัณฑ์จากโครงการ
หลวงที่สั่งเป็นประจำ เท่ากับว่าเป็นการสร้างรายได้และอาชีพให้กับชุมชน เราปรุงรสอย่างเต็มที่ โดย
ไม่หวงวัตถุดิบเลย ไม่ว่าจะเป็นผักหรือเครื่องเทศ เรายังเน้นการบริหารขยะมูลฝอยในครัวและการ
บำรุงรักษาอุปกรณ์ ซึ่งเป็นแนวคิดในการอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างแท้จริง และดูแลระบบนิเวศชุมชนให้
ยั่งยืน กล่าวโดย คุณวิพนธ์ กวาตรา

Moreganic Restaurant เสิร์ฟเมนูอร่อยในสไตล์ตะวันตกผสมเอเชียน ซึ่งมีเมนูไฮไลท์ เช่น ‘ข้าวซอยมอร์แกนิค’ ราคา 210 บาท++ ได้กลิ่นเครื่องเทศเต็มรสและเป็นเมนูยอดฮิต ประกอบด้วยธัญพืชและถั่วหลากหลายชนิด   เมนู ‘เต้าหู้ทรงพลัง’ ราคา 150 บาท++เมนูสะเต๊ะที่ทำมาจากเต้าหู้หมักเสิร์ฟพร้อมซอสถั่ว แตงกวา และแครอท สลัดผักมอร์แกนิค’ ราคา 160 บาท++ ประกอบด้วยควินอร์ บีทรูท และผักนานาชนิด ตกแต่งด้วยน้ำสลัดโฮมเมดที่มีส่วนผสมจากส้มและงาดำ ‘ข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่าง ราคา 180 บาท++ นำเสนอในสไตล์ท้องถิ่น ข้าวเหนียวใหม่หอมนุ่มห่อด้วยใบตอง พร้อมด้วยส้มตำรสจัดจ้าน เสิร์ฟด้วยไก่เจที่ทำมาจากแป้งสาลีผสมด้วยถั่วเหลืองและเห็ด และ ‘ผัดไทดีท๊อกซ์’ ราคา 190 บาท++ เส้นผัดไทเหนียวนุ่มผัดกับผักเขียวใบอ่อนคลุกเคล้าด้วยน้ำมะขาม มะนาว และถั่วคั่วใหม่ และพลาดไม่ได้กับเมนูเครื่องดื่ม  ปรุงแต่งภายใต้คอนเซปต์ วอเทอร์ ออฟ ไลฟ์ (Water of Life)  “อเวย์ดีไลท์ (Away Delight)” ผสมด้วยน้ำฝรั่ง น้ำส้ม และน้ำมะนาว “ไทยเบซิลอัพ (Thai Basil Up Life)” ผสมด้วยแครอท แตงกวา มะเขือเทศ และใบโหระพา และ “มะม่วงปั่นเสาวรส” มีส่วนผสมจากเสาวรส มะม่วง โยเกิร์ต และนม ในราคาแก้วละ 120 บาท++


ร้านอาหารมอร์แกนิค นับเป็นร้านอาหารมังสวิรัติ ที่เน้นการนำเสนอเมนูเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ผ่านการรังสรรค์เน้นใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง ภายใต้หลักปรัชญาการดำรงชีวิตตามวิถีแห่งมังสวิรัติ ปราศจาก
เนื้อสัตว์ และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Away Chiang Mai Thapae Resort – A Vegetarian Retreat รีสอร์ตสไตล์ โมเดิร์น คลาสสิค ประกอบด้วย 39 ห้องพักหรู ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่  แต่ยังมอบบรรยากาศอันสงบเงียบ ท่านจะได้รับการบริการที่ยอดเยี่ยม และสัมผัสได้ถึงการพักผ่อนอย่างแท้จริง  ในคอนเซ็ปต์ Escape from everyday life Away Chiang Mai Thapae Resort ตั้งอยู่บนอาคารเลขที่ 9 ซอย  1 ถนน คชสาร ช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์ 50100 ประเทศไทย ทางรีสอร์ต ยังมีบริการรถโดยสารและแท็กซี่เพื่อบริการผู้เข้าพักสู่สถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองเชียงใหม่ ทั้งนี้

สามารถจองที่พักและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 053-904-974เว็บไซต์https://awayresorts.com/resorts/chiang-mai-thapae  เครือข่ายสังคมออนไลน์ 
https://www.facebook.com/awaychiangmai/ ติดต่อจองห้องพัก book.acmt@AwayResorts.com


********************