pearleus

วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

หนุ่มแรงงานเมียนมาตกจากที่สูงเสียชีวิต หลังฉลองจนมึนเมาในโครงการที่พักย่านโคกขาม

วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 09.30 น. ชาวบ้านในพื้นที่โครงการมั่งมีศรีสุข ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร แจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตบริเวณด้านหลังอาคารพักอาศัยในโครงการดังกล่าว

ที่เกิดเหตุพบศพชายชาวเมียนมา 1 ราย อายุประมาณ 30-35 ปี เป็นแรงงานรับจ้างทั่วไป ทำงานในโรงงานฉีดพลาสติกแห่งหนึ่งในพื้นที่ โดยมีลักษณะคล้ายพลัดตกจากที่สูงเสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำอยู่ข้างอาคาร

ผู้ใหญ่วิสุทธิ์ กุลนิล พร้อมด้วย

นายทรงพล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

และนายธนกฤติ สารวัตรกำนัน

จากฝ่ายปกครองตำบลพันท้ายนรสิงห์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทันทีหลังรับแจ้ง พร้อมประสานตำรวจ สภ.โคกขาม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาครเข้าตรวจสอบพื้นที่

จากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ทราบว่าผู้ตายมีอาการมึนเมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ก่อนจะหายตัวไปโดยไม่มีใครพบเห็น จนกระทั่งเวลา 08.30 น. มีชาวบ้านมาเจอร่างของเขานอนแน่นิ่งอยู่ด้านหลังอาคารจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ ทางญาติของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจในสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการส่งศพไปยังโรงพยาบาลสมุทรสาครเพื่อชันสูตรอย่างละเอียด ก่อนมอบให้ครอบครัวนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ตำรวจยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบและสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุหรือมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ยังไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือการต่อสู้แต่อย่างใด

ทรงพล นิลโนรี ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ/รายงาน/ภาพ/ข่าว

ชาวบางกรวย ร้องทุกข์! สุดทน “นอนดมกลิ่นน้ำมัน” นานนับเดือน – วอนรัฐเร่งแก้ไข

นนทบุรี – สะเทือนใจชาวบ้านย่านถนนเลียบทางรถไฟ หมู่ 9 ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย กว่า 20 ชีวิตต้อง “นอนดมกลิ่นน้ำมัน” ท่ามกลางเสียงเครื่องจักรคำรามตลอดทั้งคืน บางรายถึงขั้นต้องพาเด็กเล็กย้ายหนี คนชราป่วยซ้ำซ้อน วอนหน่วยงานภาครัฐเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในชุมชนว่า ได้รับผลกระทบจากกลิ่นน้ำมันที่ถูกปล่อยลงร่องน้ำจนส่งกลิ่นเหม็นแสบจมูกต่อเนื่องมานานกว่า 1 เดือน โดยกลิ่นดังกล่าวเกิดจากการระบายน้ำมันไฮดรอลิกจากโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ ส่งผลให้ประชาชนในบริเวณใกล้เคียงเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หายใจไม่สะดวก โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็ก

นายอนุศักดิ์ เรืองชู สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียน ได้ลงพื้นที่พร้อมทีมงานเพื่อตรวจสอบ พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ของบริษัทเอกชนที่มีการขุดร่องน้ำยาวประมาณ 30 เมตรเชื่อมต่อไปยังท่อระบายน้ำสาธารณะโดยไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย พบคราบน้ำมันไฮดรอลิกลอยเต็มผิวน้ำ มีกลิ่นเหม็นรุนแรงชัดเจน และมีการไหลลงสู่คลองบางบำหรุ ก่อนกระจายสู่คลองบางกรวยและคลองบางกอกน้อยต่อไป ซึ่งเข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข

เบื้องต้นทางบริษัทรับปากจะเร่งดำเนินการสูบน้ำมันออกจากร่องน้ำดังกล่าว และหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

เสียงจากชาวบ้าน...

นางอุทัยวรรณ หรือ “ยายนิด” วัย 84 ปี เล่าว่าตนและครอบครัวต้องทนกับเสียงเครื่องจักรดังทั้งคืนมานานเป็นปี ล่าสุดต้องเผชิญกับกลิ่นน้ำมันเหม็นแสบจมูกจนอยู่ไม่ได้ “บางคืนเหม็นจนหลับไม่ลง เด็กๆ ต้องพาไปอยู่บ้านญาติ ส่วนตัวเองมีโรคประจำตัว กลิ่นน้ำมันทำให้เวียนหัวจนต้องไปหาหมอ หมอก็บอกให้เลี่ยง แต่จะให้ไปอยู่ไหน ชีวิตคนแก่ต้องทนแบบนี้เหรอ?”

เธอวอนผ่านสื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง “อย่าให้พวกเราต้องอยู่กับความทุกข์ไปวัน ๆ เหมือนไม่มีใครเห็นหัวคนเล็กคนน้อยเลย”

เสียงสะท้อนจากชาวบ้านครั้งนี้ ไม่ใช่แค่กลิ่นเหม็น แต่คือสัญญาณของความทุกข์และการถูกมองข้าม … จะมีใคร “ได้กลิ่น” ความเดือดร้อนนี้บ้างหรือไม่? หรือจะปล่อยให้เงียบเหมือนเสียงในร่องน้ำยามค่ำคืน?

ติดตามความคืบหน้าได้ที่นี่ เราจะไม่ปล่อยให้เสียงของชาวบ้านหายไปในสายลม.

ซึ้งใจ-อิ่มบุญ! พลังศรัทธาหลั่งไหลร่วมแห่เทียนพรรษาวัดใหม่หนองพะอง กระทุ่มแบนสืบสานประเพณีดีงาม สร้างความสามัคคีในชุมชน

เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ณ วัดใหม่หนองพะอง ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร บรรยากาศเต็มไปด้วยความอิ่มเอิบใจ เมื่อประชาชนหลั่งไหลมาร่วมกิจกรรมแห่เทียนพรรษาอย่างคึกคัก ภายใต้โครงการสืบสานประเพณีวันเข้าพรรษา ประจำปี 2568

โดยมี นายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี นายอำเภอกระทุ่มแบน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติจากหลายภาคส่วน อาทิ พลอากาศเอกประสิทธิ์ ยิ้มเจริญ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสวนหลวง, นางสกุลรัตน์ นุ้ยเปรม รองนายกเทศมนตรี, นายพิเชษฐ์ ผ่องท่าไม้ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี, นายธรรมกิตติ์ แสงทองศรี เลขานุการนายกเทศมนตรี รวมถึงสมาชิกสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วม

งานนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแห่เทียนพรรษาตามประเพณีไทยที่งดงามเท่านั้น หากยังเป็นภาพแห่งความสามัคคีของคนในชุมชน ที่มาร่วมกันถวายเทียน แสดงความเคารพต่อพระพุทธศาสนาอย่างพร้อมเพรียง

เสียงสาธุจากชาวบ้านดังกึกก้องไปทั่วลานวัด พร้อมรอยยิ้มแห่งความปลื้มปีติที่ได้ร่วมสืบสานคุณค่าวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของบรรพบุรุษ

"สาธุ สาธุ สาธุ" — คำกล่าวจากใจที่สะท้อนถึงพลังศรัทธาและจิตใจที่งดงามของคนไทยทุกผู้ทุกนามในวันเข้าพรรษาปีนี้อย่างแท้จริง

“การแข่งขันเรือยาวประเพณี” ครั้งที่ 19 ชิงถ้วยพระราชทาน 2 พระองค์ เสียงปี่พาทย์กึกก้อง เปิดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่

เปิดแล้วพิธี สุดอลังการ!


องค์การบริหารส่วนตำบลชัยมงคล

เนรมิตความยิ่งใหญ่กลางลำน้ำ กับงาน “การแข่งขันเรือยาวประเพณีจังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 19 ประจำปี 2568”

ชิงถ้วยพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนทั้งในจังหวัดและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ

เมื่อ 12 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. พิธีเริ่มต้นอย่างขลังด้วย ขบวนแห่ถ้วยพระราชทาน เคลื่อนเข้าสู่บริเวณประรำพิธีท่ามกลางเสียงปี่พาทย์บรรเลง “กราวกีฬา” อย่างกึกก้อง ปลุกเร้าอารมณ์แห่งศรัทธาและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย

เวลา 09.09 น. พิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานเริ่มขึ้นอย่างสง่างาม

• นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสมุทรสาคร อัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ ประเภทเรือยาว 55 ฝีพาย

• นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร อัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ ประเภทเรือขึ้นโขนชิงธง 32 ฝีพาย

• นายกำพล ทองชิว สมาชิกวุฒิสภา อัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ ประเภทเรือยาว 30 ฝีพาย

ทั้งหมดอัญเชิญขึ้นสู่โต๊ะหมู่บูชาหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อย่างน่าเลื่อมใส

ต่อด้วยพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานจาก สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ โดย

• นายชวพล วัฒนพรมงคล สมาชิกวุฒิสภา อัญเชิญถ้วยฯ ประเภทเรือยาว 7 ฝีพาย ขึ้นสู่โต๊ะหมู่บูชาหน้าพระบรมฉายาลักษณ์

ภายในพิธี เต็มไปด้วยบรรยากาศสุดขลัง สมเกียรติ และศักดิ์สิทธิ์ โดยได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรง

คุณชลัฐ รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ มีหัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้มีเกียรติ ประชาชน และนักกีฬาเข้าร่วมอย่างคับคั่ง สมกับเป็นงานใหญ่แห่งปีที่รวมพลังศรัทธา วัฒนธรรม และกีฬาเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน

การแข่งขันในปีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการประชันฝีพายสุดมันส์ แต่ยังสะท้อนถึงความรักในประเพณี และความสามัคคีของคนไทยที่ร่วมกันสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นอย่างน่าชื่นชม

ติดตามการแข่งขันสุดเร้าใจนี้ได้ตั้งเเต่ 12-13 นี้ ที่คลองตาขำ สมุทรสาคร…

นอกจากความมันส์บนผืนน้ำแล้ว ยังมี ตลาดน้ำย้อนยุค อาหารพื้นบ้าน สินค้าท้องถิ่น และการแสดงศิลปวัฒนธรรมให้

ชิม-ชมตลอดวัน

มาส่งเสียงเชียร์ให้ดังกระหึ่มกลางสายน้ำ และหัวใจไทยจะเต้นพร้อมกัน!

เรือนจำสมุทรสาครเปิดเวทีสร้างโอกาส! 20 สถานประกอบการร่วมมือ รับผู้พ้นโทษกลับสู่สังคมด้วยงานที่มั่นคง

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร จัดกิจกรรม "พบปะพูดคุย เสวนากับสถานประกอบการ" ณ เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีผู้แทนจากสถานประกอบการในพื้นที่จำนวน 20 แห่งเข้าร่วมอย่างอบอุ่น

กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย "รวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติ ยกกำลังสอง" ซึ่งมุ่งเน้นการส่งคืนคนดีสู่สังคม ผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะชีวิตและอาชีพให้แก่ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า และยืนหยัดได้ด้วยตนเองในสังคม

เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ได้เน้นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ผ่าน Soft Power โดยเชื่อมโยงกับภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อผลักดันแนวคิด “คืนคนคุณภาพกลับสู่สังคม” และเดินหน้าสู่องค์กรยุคใหม่ที่มีความยั่งยืน

ผู้แทนจากหลายบริษัทที่เข้าร่วม ต่างแสดงความสนใจ และพร้อมเปิดรับผู้พ้นโทษเข้าทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ อาทิ งานโรงงาน อุตสาหกรรมอาหาร บรรจุภัณฑ์ และโลจิสติกส์ ซึ่งถือเป็นโอกาสทองในการลดอคติและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่เคยก้าวพลาด

บรรยากาศของกิจกรรมเป็นไปด้วยความอบอุ่น และเปิดกว้างในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างสะพานเชื่อมผู้พ้นโทษกลับสู่ชีวิตใหม่ในสังคม ด้วยศักดิ์ศรีและความหวังอีกครั้ง.

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

“ชอบทำบุญ ไม่ชอบทำทรง!” ท่าทรายแห่เทียนพรรษาคึกคัก ถวายวัดศรีเมือง ประชาชนหลั่งไหลร่วมงานแน่น”

สมุทรสาคร – วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 11.00 – 14.00 น. ตำบลท่าทรายเต็มไปด้วยสีสันของขบวนแห่เทียนพรรษาครั้งที่ 13 จัดใหญ่จัดเต็ม โดยนายวรชาติ (อ้วน) สายน้ำผึ้ง กำนันตำบลท่าทราย พร้อมทีมงานผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยกำนัน สารวัตรกำนัน แพทย์ตำบล

เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านศรีเมือง

นายเรืองฤทธิ์ อุบลไทรนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย-สมาชิกสภา อบต.ท่าทราย ร่วมแรงร่วมใจนำพุทธศาสนิกชนจัดงานแบบถึงใจ ไม่เน้นโชว์แต่ขอเน้นศรัทธา

งานนี้มีประชาชนตำบลท่าทรายและพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมงานกันล้นหลาม ภายใต้แนวคิด "ชอบทำบุญ ไม่ชอบทำทรง” ทุกอย่างเน้นความเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยจิตศรัทธา โดยได้รับเกียรติจาก

ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และ

นายคำนึง ทองเที่ยงปลัดอาวุโส

อำเภอเมืองสมุทรสาคร

นายวัฒนา แตงมณี นายเทศบาล

เมืองพันท้ายนรสิงห์

นายประสิทธิ์ จุ่นขจร ส.อบจ.สค. เข้าร่วมขบวนแห่ร่วมสร้างบุญครั้งนี้ด้วย

ก่อนเริ่มขบวน มีการตั้งร้านอาหารพื้นบ้านให้ชิมกันฟรีที่ทำการกำนัน เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากชาวบ้านได้ตลอดสาย

เวลา 14.00 น. ขบวนแห่เคลื่อนตัวออกอย่างยิ่งใหญ่ เรียงลำดับอย่างสวยงาม ได้แก่

🚗 รถนำขบวน

👼 “แก๊งนางฟ้า” และกลองยาว

🪧 ป้ายประเพณี ธงชาติ ธรรมจักร รูปพระมหากษัตริย์

🚛 รถเทียนพรรษา รถพุ่มผ้าป่า รถชมวิว

🎶 รถแห่ S&P SOUND ของสารวัตรสุภาพ พ่วงเจริญ

🚑 รถมูลนิธิปิดท้ายขบวน

ขบวนแห่เทียนทั้งหมดมุ่งหน้าถวาย ณ วัดศรีเมือง ตำบลท่าทราย โดยมี พระครูสาครสิริวัฒน์ เจ้าคณะตำบลบ้านเกาะ เจ้าอาวาสวัดศรีเมือง พร้อมคณะสงฆ์เป็นผู้รับเทียนจำนำพรรษาและผ้าป่าสามัคคี

งานนี้ไม่ได้มีดีแค่แห่ แต่เต็มไปด้วยพลังศรัทธาจากใจจริงของคนท่าทราย สมกับคำว่า "ไม่ต้องทำทรง...แค่ตั้งใจทำบุญก็ยิ่งใหญ่ได้!"