pearleus

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568

ข่าวประชาสัมพันธ์กรมทางหลวง วันที่ 17 มีนาคม 2568

กรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวงธนบุรี สำนักงานทางหลวงที่ 13 (กรุงเทพ) ขอประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยงสำหรับประชาชนผู้ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) เนื่องจากเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนอง โดยมีรายละเอียดดังนี้

(check mark) ทิศทางขาเข้ากรุงเทพมหานคร

(car) แนวทางที่ 1: ใช้ถนนพระรามที่ 2 ตรงไปถึงบริเวณต่างระดับบางขุนเทียน เลี้ยวขวาที่แยกบางปะแก้ว เข้าถนนสุขสวัสดิ์ ขึ้นทางด่วนด่านฯ สุขสวัสดิ์ ไปยังจุดหมายปลายทาง 

(car) แนวทางที่ 2: ใช้ถนนพระรามที่ 2 ถึงบริเวณต่างระดับบางขุนเทียน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกาญจนาภิเษก สามารถเลือกใช้เส้นทางถนนราชพฤกษ์ ถนนเพชรเกษม หรือถนนบรมราชชนนี ไปยังจุดหมายปลายทาง

(car) แนวทางที่ 3: ใช้ถนนพระรามที่ 2 ถึงบริเวณต่างระดับบางขุนเทียน เลี้ยวเบี่ยงขวาเพื่อเข้าด่านเก็บเงินบางขุนเทียน 1 ใช้ถนนกาญจนาภิเษก (ทางด่วนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ บางขุนเทียน-สุขสวัสดิ์) ข้ามสะพานกาญจนาภิเษก เลี้ยวซ้ายใช้ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ผ่านสะพานภูมิพล 1 และ 2 ใช้ถนนพระรามที่ 3 ไปยังจุดหมายปลายทาง


(check mark) ทิศทางขาออกกรุงเทพมหานคร
(car) แนวทางที่ 1: สำหรับผู้ที่ต้องการไปสมุทรสาครโดยใช้สะพานพระราม 9 และสะพานทศมราชัน ให้ลงทางออกถนนสุขสวัสดิ์ ใช้ถนนสุขสวัสดิ์ เลี้ยวซ้ายที่แยกบางปะแก้ว เข้าถนนพระรามที่ 2 มุ่งหน้าสมุทรสาคร

(car) แนวทางที่ 2: สำหรับผู้ที่ต้องการไปสมุทรสาครโดยใช้สะพานภูมิพล 1 และ 2 ให้ลงทางออกถนนพระรามที่ 3 ใช้ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม เลี้ยวขวาถนนกาญจนาภิเษก (ทางด่วนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ บางขุนเทียน-สุขสวัสดิ์) เข้าถนนพระรามที่ 2 ไปยังจุดหมายปลายทาง



ทั้งนี้ ผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวและประชาชนทั่วไปสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุต่างๆ ระหว่างดำเนินการได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)






ผู้ว่าสมุทรสาครเรียกคณะทำงานบูรณาการเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน ในห้วงการก่อสร้างบนถนนทางหลวงหมายเลข 35 (พระราม 2) ประชุมเร่งด่วน ย้ำเพิ่มความเข้มข้นบนความปลอดภัยในทุกๆ ด้าน

 

             เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ (401) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เรียกประชุม(เร่งด่วน) คณะทำงานบูรณาการเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน ในห้วงการก่อสร้างบนถนนทางหลวงหมายเลข 35 (พระราม 2) สืบเนื่องจากเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนอง เมื่อเวลาประมาณ 01.48 น.ของวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา


โดยในที่ประชุมทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ให้ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร พร้อมกับ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่รับผิดชอบการก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 รายงานความก้าวหน้าในการก่อสร้างทาง และ มาตรการหรือแนวทางปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยในการก่อสร้างของทุกโครงการที่มีต่อผู้ปฏิบัติงานและประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งในส่วนพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสาคร จะประกอบไปด้วย งานก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี – ปากท่อ (ถนนพระราม 2 ) ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย มีจำนวน 3 ตอน อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 2 ตอน คือ ตอน 2 กับ ตอน 3 และ การก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82  สายทางยกระดับ สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย – บ้านแพ้ว มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ตอน คือ ตั้งแต่ตอน 1 – 10 พร้อมกันนี้ยังได้มีการหารือแนวทางการอำนวยความสะดวกประชาชนในห้วงการสร้างบนถนนทางหลวงหมายเลข 35 อีกด้วย


สำหรับความก้าวหน้าของงานก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี – ปากท่อ (ถนนพระราม 2 ) ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร คือ ตอน 2 – 3 นั้น ขณะนี้มีความก้าวหน้าในการก่อสร้างไปแล้วประมาณ 97.15 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเปิดทดลองใช้บริการได้ภายในปี 2568 นี้ ส่วนการก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82  สายทางยกระดับ สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย – บ้านแพ้ว ตอน 1 – 10 นั้น พบว่า มีความก้าวหน้าโดยรวมอยู่ที่ 73.26 เปอร์เซ็นต์ โดยตอน 1,2,3,5,8,9 และ 10 รุดหน้าไปแล้วมากกว่า 70 - 80 เปอร์เซ็นต์ ยังคงมีโครงการตอน 4,6 และ 7 ที่รุดหน้ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ แต่โดยภาพรวมทาง ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ก็คาดการณ์ได้ว่า ทุกโครงการ ทุกตอนนั้น โครงสร้างพื้นฐาน(เส้นทางหลักด้านบน) จะแล้วเสร็จภายในปี 2568 นี้ คงเหลือในเรื่องของการวางระบบทางและรายละเอียดส่วนอื่นๆ ที่ทำให้การเปิดใช้งานโดยสมบูรณ์ ไม่สามารถทำได้ภายในสิ้นปีนี้  แต่ทั้งนี้หากการก่อสร้างช่วงตอนไหนที่แล้วเสร็จและสามารถใช้ทางเพื่อช่วยระบายรถในช่วงที่มีจราจรหนาแน่นมากเป็นพิเศษ เช่น ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวนั้น กรมทางหลวงอาจจะมีการพิจารณาเปิดให้ใช้ได้บางช่วงบางตอนเพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วต่อการเดินทางของพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น


 ขณะที่ในเรื่องแนวทางการสร้างความปลอดภัยในการก่อสร้างของทุกโครงการฯ นั้น ทางตัวแทนของแขวงทางหลวงสมุทรสาคร และบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง ก็ชี้แจงด้วยว่า ได้มีการวางมาตรการความปลอดภัยไว้ 4 มาตรการ 33 ข้อ ในการทำงานบนถนนพระราม 2 ซึ่งครอบคลุมเกี่ยวกับ มาตรการด้านพื้นที่ก่อสร้าง,มาตรการด้านความพร้อมของบุคลากรและเครื่องจักร,มาตรการด้านการทำงานบนพื้นที่สูง และมาตรการด้านการทำงานกับ Launching Gantry ส่วนในเรื่องของแนวทางการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในห้วงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2  ก็มีแนวทางคือ การตรวจสอบการจราจรบนถนนพระราม 2 ผ่าน CCTV แบบ Real Time ผ่าน Application Thailand Highway Traffic,การประชาสัมพันธ์การทำงานหรือเหตุการณ์ที่มีผลกระทบกับผู้ใช้ทางผ่านทาง Facebook โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ช่วงบางขุนเทียน - เอกชัย – บ้านแพ้ว,จัดให้มีช่องทางเพื่อแจ้งเหตุหรือข้อร้องเรียนผ่าน สายด่วน 1586 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 063 - 1921586 ของศูนย์อำนวยการจราจรโครงการ M82 ของกรมทางหลวง เพื่อความรวดเร็วในการประสานงานช่วยเหลือและแก้ปัญหาในพื้นที่ก่อสร้าง ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ทางเลี่ยงงานก่อสร้าง โดยแนะนำให้ใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 338 และ ทางหลวงหมายเลข 4 เพื่อเป็นทางเลี่ยงไปสู่ภาคใต้


        นอกจากนี้ยังมีการรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับในส่วนทางแยกต่างระดับจากถนนพระราม 2 เข้าเส้นถนนบ้านแพ้ว - พระประโทน หรือ จากถนนบ้านแพ้ว – พระประโทน ออกสู่ถนนพระราม 2 (ขาล่องใต้) นั้น ตอนนี้มีความคืบหน้ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยคาดว่าจะเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการได้ในเดือนมิถุนายน 2568 นี้ แต่เบื้องต้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์อาจจะมีการเปิดให้ใช้ทางเป็นกรณีพิเศษก่อน เพื่อช่วยระบายรถในช่วงวันหยุดยาว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีการตรวจสภาพความพร้อมให้เป็นที่แน่ชัดอีกครั้ง จึงจะประกาศให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป
            ด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร ก็เปิดเผยว่า การประชุมในครั้งนี้ ก็สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์เครนก่อสร้างยุบตัวที่เกิดขึ้นล่าสุดฯ ซึ่งเป็นเหตุที่เกิดขึ้นกับโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนอง แม้จะไม่ใช่บนถนนพระราม 2 โดยตรง แต่ก็ส่งผลกระทบมาถึงผู้ใช้รถใช้ถนนพระราม 2 ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในขณะนี้การก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ยังไม่แล้วเสร็จ มีความรุดหน้าโดยภาพรวมไปราวๆ 60 – 70 เปอร์เซ็นต์ และตามสัญญาก็จะต้องแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ทางจังหวัดสมุทรสาครได้ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้าง ดังนั้นจึงได้มีการเรียกประชุมด่วนกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพูดคุย กำชับ เน้นย้ำในมาตรการความปลอดภัยทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องของเครน การตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเครน


การควบคุมดูแลสุขภาพและความพร้อมของผู้ปฏิบัติงานที่ต้องมีการควบคุมอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัดด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และต้องเพิ่มความเข้มข้นเป็นพิเศษเพราะเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในพื้นที่อีก ส่วนจุดที่ยังคงต้องมีการเฝ้าติดตามเนื่องจากความล่าช้ากว่าตอนอื่นๆ นั้น มีอยู่ด้วยกันประมาณ 3 ตอน ก็ได้สั่งกำชับให้ผู้รับเหมาไปเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญา พยายามอย่าให้มีการขยายเวลาออกไปอีก เพราะเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนโดยรวม พร้อมกันนี้ยังได้ขอให้ทางผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร ไปช่วยดูในเรื่องของเวลาเปิดปิดถนนเพื่อการก่อสร้างทางยกระดับในช่วงเวลากลางคืนระหว่างเวลา 19.00 – 05.30 น. โดยในส่วนตรงนี้ทางจังหวัดได้ทำหนังสือหารือไปถึงกรมทางหลวงแล้วเพื่อขอขยายเวลาไปเป็นช่วง 20.30 น.แทน แต่กรมทางหลวงยังคงยืนยันเวลาเดิม ดังนั้นจึงต้องขอให้แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ช่วยบริหารเวลาให้เข้ากับสถานการณ์ตามสภาพความเป็นจริงในแต่ละวัน เช่น ช่วงวันหยุด หรือช่วงเวลาเร่งด่วน ก็ขอให้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนการเปิดปิดช่องทางเข้าออก หรือปรับเวลาให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร ณ ขณะนั้น เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนพระราม 2


สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสมุทรสาคร จัดงานมหกรรมการออม 51 ปี ทุนชุมชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เนื่องในโอกาสครบรอบ 51 ปี วันก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต

 

                        เมื่อเวลา 09.30น.ของวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ลานสาครบุรี ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมการออม 51 ปี ทุนชุมชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เนื่องในโอกาสครบรอบ 51 ปี วันก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดยมีนายคมสิทธิ์ สุริยวรรณ พัฒนาการจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนส่วนราชการ คณะกรรมการและสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ในจังหวัดสมุทรสาครเข้าร่วม




 โดยทางด้านนายคมสิทธิ์ สุริยวรรณ พัฒนาการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เป็นกองทุนชุมชนที่สำคัญที่กรมการพัฒนาชุมชน ส่งเสริมให้ประชาชนมารวมตัวกันออมเงินตามศักยภาพของตนเอง เพื่อเป็นการสร้างหลักประกัน สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่สมาชิก สามารถต่อยอดธุรกิจชุมชน เพื่อนำผลกำไรไปพัฒนา และจัดสวัสดิการให้ชุมชน ซึ่งเรียกได้ว่ากลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เป็นแกนหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินของครัวเรือน และยังสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง



  ปัจจุบันจังหวัดสมุทรสาคร มีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต จำนวน 44 กลุ่ม สมาชิก 4,996 คน เงินสัจจะสะสม 93,777,794 บาท สมาชิกมีเงินออมเพื่อใช้เป็นเงินทุนประกอบอาชีพ ลดการพึ่งพาแหล่งทุนภายนอก และสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินในครัวเรือน กิจกรรมมหกรรมการออม ในวันนี้ประกอบไปด้วยการเสวนาหัวข้อ "ก้าวต่อไปกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต" การอ่านสารอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เนื่องในวาระครบรอบ 51 ปี วันคล้ายวันก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต 6 มีนาคม 2568


การมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตและสมาชิกดีเด่นของจังหวัดสมทรสาคร รวมถึงการจัดนิทรรศการและจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตดีเด่นอีกด้วย



นนทบุรี สพฐ.เข้าตรวจสอบ เพลิงไหม้โรงกระดาษขนาดใหญ่ เนื้อที่ 8.5 เพลิงลุกไหม้เสียหาย3.5ไร่ มูลค่าความเสียหาย 500 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568  จากกรณี  เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 มี.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ไทรน้อย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานกระดาษไทรน้อย เลขที่ 59/3 ม.2 ต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รถน้ำจากอบต.ขุนศรี และหน่วยงานใกล้เคียง จำนวนกว่า 20 คัน ระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดแสงเพลิงไม่ให้ลุกลาม






ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานกระดาษขนาด8.5ไร่ มีลานกว้างบริเวณรอบๆ ที่มีไว้เก็บกระดาษม้วน กระดาษลังซึ่งเพลิงลุกไหม้ในเนื่อที่ 3.5ไร่ พบว่าตัวโกดังถูกเพลิงไหม้เสียหายลุกลามไปเป็นวงกว้าง โครงหลังคาเริ่มทรุดตัว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลาม ซึ่งมีพนักงานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเปลวเพลิง 2 ราย เป็นคนไทย 1 ราย ชาวพม่า 1 รายนำส่ง รพ.ไทรน้อย






ล่าสุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพร้อมเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ไทรน้อย ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงลุกไหม้ในครั้งนี้พร้อมทั้งทางโรงงานจะนำรถแบ็คโฮเข้ามาเก็บเศษซากม้วนกระดาษออกจากพื้นที่




จากการสอบถามนายชูเกียรติ  วัฒนสุรกาญจน์ อายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเปลวเพลิง ซึ่งเป็นคนงานในโรงงานกระดาษเล่าว่าในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.ที่เกิดเพลืงลุกไหม้ตนไปกินข้าวและกับเข้ามาที่พักและได้ยิงเสียงคนงานด้วยกันร้องตะโกนว่าไฟไหม้ตนปั่นรถจักยานไปดูแขนขาใบหน้าข้างซ้ายโดนความร้อนของเปลวไฟที่กำลังลุกโหมไหม้และมีชายชาวพม่าอีก1 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย



ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร มอบเกียรติบัตรและเงินทำบุญให้แก่ครอบครัวผู้บริจาคดวงตาและอวัยวะให้โรงพยาบาลสมุทรสาคร

 

วันนี้ 17 มีนาคม 2568 เวลา 09.15 น. ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร  พร้อมด้วยสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร มอบเกียรติบัตรและเงินร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศล จำนวน 3,000 บาทให้แก่ครอบครัวนายบรรเจิด ถาวรเจริญทรัพย์ อายุ 61 ปี เสียชีวิตวันที่ 16 มีนาคม  2568 ด้วยโรคมะเร็ง ที่ได้มอบบริจาคดวงตาให้กับทางโรงพยาบาลสมุทรสาคร



อย่างไรก็ตามสำหรับ การบริจาคดวงตาในครั้งนี้ จะเป็นการส่งต่อความช่วยเหลือสู่เพื่อนมนุษย์ เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่อวัยวะนั้นๆ เสื่อมสภาพต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจที่จะบริจาค จะต้องมีคุณสมบัติซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

     1. อายุไม่เกิน 65 ปี

     2. เสียชีวิตจากภาวะสมองตาย

     3. ปราศจากโรคติดเชื้อ และโรคมะเร็ง

     4. ไม่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน, หัวใจ, โรคไต, ความดันโลหิตสูง, โรคตับ และไม่ติดสุรา

     5. อวัยวะที่จะบริจาคต้องทำงานได้ดี

     6. ปราศจากเชื้อที่ถ่ายทอดทางการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบี, ไวรัสเอดส์ ฯลฯ

     และ7. ควรแจ้งเรื่องการบริจาคอวัยวะให้บุคคลในครอบครัวหรือญาติรับทราบ




โดยอวัยวะที่สามารถนำไปปลูกถ่ายแก่ผู้ป่วย ได้แก่ ไต 2 ข้าง, ปอด 2 ข้าง, หัวใจ, ตับ, ตับอ่อน นอกจากนี้ยังมีเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ ลิ้นหัวใจ, หลอดเลือด, ผิวหนัง, กระดูก, เส้นเอ็น, กระจกตา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย หรือโทรปรึกษาสายด่วน 1666



ศาลเจ้าพระหยกขาว โรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จัดพิธีเปิดศาลเจ้า

 


ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย  ประธานคณะกรรมการจัดพิธีเปิดศาลเจ้าพระหยกขาว  เชิญคณะกีบู๋ มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร พ้งไล้เกาะ ๒๑ อัญเชิญองค์ฮุกโจ้ว ( องค์​ฮ้อ​เอี้ย​ฮุ้​ง​เซี้ย​โจ้ว )​ ทรงประกอบพิธีเจ็งโท่ว ณ ศาลเจ้าพระหยกขาว วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๘




ศาลเจ้าพระหยกขาวเป็นที่ประดิษฐานพระหยกขาว  หรือองค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย  ทำจากหยกขาวของประเทศพม่า  ฝีมือแกะสลักโดยช่างในกรุงปักกิ่ง  สาธารณประชาชนจีน     องค์พระหยกขาวเป็นหยกขาวทั้งองค์  มีหยกเขียวฝังไว้ที่พระนลาฏ (หน้าผาก)  มีความสูง ๖๙ เซนติเมตร  หน้าตักกว้าง ๓๓ เซ็นติเมตร   น้ำหนักโดยรวม ๗๐  กิโลกรัม





องค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย (พระหยกขาว)   ประชาชนเคารพนับถือ  สักการะกราบไหว้บูชาขอโชคลาภ  ขอพรเสริมความเป็นมงคลให้แก่ชีวิตเป็นอันมาก