pearleus

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สืบ ปส.จังหวัดจับ"ยาบ้า"กว่า1,000 เม็ด พร้อมระเบิดและปืน

 
เมื่อ 31 ส.ค. 59 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ชุด ปส.1และ ปส.2 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม  รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.ทีป  ราญสระน้อย รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.ธงชัย   เนตรสขาวัฒน์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร , พ.ต.ท.สุกฤษฏ์ วิศิษฐ์ชนะ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ท.ศุภชัย ศรสุคนธ์แก้ว รอง ผกก.ฯ,
ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดังมีรายชื่อดังนี้ พ.ต.ท.พีระ อัศวพิบูลย์ผล สว.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.ต.ไชยภูมิ  ฉลองภูมิ  สว.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร / เจ้าพนักงาน ปปส.,ร.ต.อ.รหัท  สมานจิต รอง สว.กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ,ร.ต.ท.ภาสกร  เกียรติไพบูลย์ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ,ร.ต.ต.ณรงค์ หอมเย็น รอง สว.กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร/เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.,ร.ต.ต.โชติ  แสนชัย, ร.ต.ต.วินัย   พวงทองคำ, ร.ต.ต.อรัณย์  ทาเกตุ, ด.ต.โดม  สระทองใจ, ด.ต.วิสูติ  สุขตะโก ,ด.ต.ณัฐนนท์  เติมยศ, ด.ต.สันติ  เรืองฤทธิ์, ด.ต.ธนเดช  โพธิ์งาม, ด.ต.นที บุญทาน, ด.ต.ชนาเมธ  เมืองแก้ว ,ด.ต.เกรียงไกร  โตตามวงษ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์แก้ว และเจ้าหน้าที่ทหาร มว.รส.ช.พัน 9
ได้ร่วมกันจับกุมตัว 1.นายศราวุท หรืออาท  ปุจฉาการ  อายุ 32  ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/3  หมู่ 4 ต.หนองนกไข่   อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร (ผู้ต้องหาที่ 1) และนายเดี่ยว  หรือแป้ง  ลิ้นปิ่น อายุ 38  ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 5 ต.หนองนกไข่  อ.กระทุ่มแบน  จ.สมุทรสาคร (ผู้ต้องหาที่ 2) พร้อมของกลาง 1.ยาบ้า จำนวน 8 เม็ด   2. ระเบิดแปลง แบบปิงปอง พันเทปกาวสีดำ  จำนวน 4 ลูก 3. อาวุธปืนยาว จำนวน 1 กระบอก                                                                                                                              ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( ยาบ้า ) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีลูกระเบิด  อันเป็นเครื่องกระสุนหรือวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สารมารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืน และระเบิด และพาอาวุธปืนและระเบิดปิงปอง ไปในเมืองฯ
สถานที่จับกุมผู้ต้องหาจับกุมได้ที่บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ริมถนนสวนส้ม - อำแพง หมู่ 5 ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหา  พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพ้ว                                                                                                                                                                                                                                                หลังจากนั้น วันที่ 1 ก.ย. 59 เวลาประมาณ  17.00  น. (ขยายผลใช้บัตร ปปส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดียวกัน ได้ใช้อำนาจของบัตรปปส. ควบคุมตัวผู้ต้องหารายแรก ได้ขยายผลจับกุมตัวนายอลงกรณ์ หรือเกิด แซ่คู  อายุ 20 ปี ที่อยู่ 134/1 หมู่ 1 ต.สวนหลวง
อ.กระทุ่มแบน  จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,000  เม็ด  ดำเนินคดีในความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( ยาบ้า ) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย  สถานที่จับกุมผู้ต้องหาจับกุมได้ ที่บริเวณริมถนนภายในซอยศรีบุญเรือง หมู่ 1 ต.สวนหลวง  อ.กระทุ่มแบน  จ.สมุทรสาคร  จากการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหารับยาบ้าดังกล่าวมาจากนายพี  ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง พักอาศัยอยู่ที่ กทม. ซึ่งชุดจับกุมได้ทำการขยายผลแต่เนื่องจาก นายพี ได้รู้ตัว และมักจะนำยาบ้าไปวางตามจุดต่างๆ และให้ผู้ต้องหาไปเก็บ จึงได้จัดทำข้อมูลเพื่อเป็นเครือข่ายต่อไป หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่ง พงส.กระทุ่มแบน  เพื่อดำเนินคดีต่อไป


เงาพญาราหู รายงาน

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาครและประชาชนร่วมจัดงานทิ้งกระจาด ณบริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ในปี 2559

 ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ได้ทำการแจกข้าวสาร 7800ถุง มีประชาชนเข้ารับแจกกว่าห้าพันคน
     ทั้งนี้ทางนายธีระวัฒน์ เจริญสุขโสภณ ประธานศาลพ่อหลักเมืองสมุทรสาครได้แจ้งแก่ผู้สื่อข่าวว่าประชาชนที่มาในวันนี้ถึงจะมากขนาดไหนก็ต้องได้รับทุกคน และหลังจากที่เราทิ้งกระจาดแล้วเสร็จยังได้นำข้าวสารมอบให้แก่โรงเรียน 19 โรงเรียนกว่าหมื่นกิโลทั้งนำให้โรงพยาบาลอีกสองแห่งได้แก่ ร.พ.กระทุ่มแบน2500ถุง ร.พ.สมุทรสาคร 2500 ถุง อีกด้วย













วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

มหาดไทย ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย จัดประชุม Video Conference ชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน โครงการสนับสนุนช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 59/60

          เมื่อ  30  ส.ค.  59  เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา  บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/2560 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล ( Video Conference) ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่จังหวัด และผู้แทนกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมชี้แจง อาทิเช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการข้าว และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
นายกฤษฎา  บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/2560 และเพื่อให้รับทราบถึงความสำคัญของโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือเรียกสั้นๆ ว่า โครงการไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ (1 ครัวเรือน 1 สิทธิ์) ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือชาวนา เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยผ่านกลไกของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีอยู่ในพื้นที่ที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงาน โดยมีคณะกรรมการบริหารโครงการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับหมู่บ้าน สำหรับพื้นที่เกษตรที่อยู่ในเขตเทศบาล (ที่ไม่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) ให้อยู่ในความรับผิดชอบของ อปท.ในพื้นที่ รวมถึงคณะกรรมการฯ ระดับกรุงเทพมหานคร และระดับแขวง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องเกษตรกร
สำหรับโครงการฯ ดังกล่าว รัฐบาลจะให้การสนับสนุนเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. – 31 ต.ค. 2559 ยกเว้นภาคใต้ไม่เกิน 31 ธ.ค. 2559 โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ เกษตรกรตามทะเบียนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่แสดงความประสงค์จะปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/2560 และจะต้องไม่เป็นเกษตรกรที่ซ้ำซ้อนกับการได้รับสิทธิ์ตามมาตรการการช่วยเหลือด้านการผลิตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเกษตรกรผู้ขอใช้สิทธิ์แสดงความประสงค์และรับรองตนเองตามแบบต่อคณะกรรมการฯ ระดับหมู่บ้าน และให้มีการประชุมประชาคมหมู่บ้านเพื่อยืนยันหรือรับรองการเป็นเกษตรกรและจำนวนแปลงที่ดินที่ครอบครองโดยคณะกรรมการฯ ระดับหมู่บ้าน แล้วให้คณะกรรมการฯ ระดับอำเภอ จัดส่งรายชื่อที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ให้ ธ.ก.ส.ในพื้นที่ เพื่อโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกร ซึ่งขณะนี้ ธ.ก.ส. ได้จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานโครงการฯ แจกจ่ายให้กับหน่วยงานพื้นที่แล้ว

          ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศไทย ให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล ถือเป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงมหาดไทย จะได้เร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและได้รับมอบหมาย พร้อมทั้งกำชับให้จังหวัด อำเภอ  กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส และให้อำเภอจัดชุดปฏิบัติการประจำตำบล ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีมีข้อถกเถียง สำหรับการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเอาใจใส่ในการดำเนินงาน และเร่งประชาสัมพันธ์ชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้รับทราบถึงข้อมูลและขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม





นครปฐม มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดงานทับแก้ววิชาการ ครั้งที่ 3

มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม จัดงานทับแก้ววิชาการ ครั้งที่ 3 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559
เมื่อ 29 สิงหาคม 2559 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงาน “ทับแก้ววิชาการ ครั้งที่ 3” Silpakorn Next Step โดยมหาวิทยาลัยศิลปากร กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 - 31 สิงหาคม 2559 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 อีกทั้งเพื่อแสดงศักยภาพและอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยกิจกรรมภายในงานมีการแสดงศักยภาพของแต่ละคณะวิชา กิจกรรมเวทีกลางอีกหลายรายการ อาทิ การเสวนาแนะนำการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา “สายวิทย์ฯพิชิตฝัน” “สายศิลป์อินไซต์” พร้อมทั้งบริการรถไฟฟ้า “SMO Silpakorn on the way” นำชมเส้นทางทับแก้ว รวมทั้งยังมีรถศูนย์ข้อมูลดนตรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี จากคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย การแสดงจากชมรมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค และศูนย์อาหารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมงานอีกด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยชาญ ถาวรเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นสถาบันอุดมศึกษา ที่รับใช้สังคมด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ศิลปะวิทยาการ และภูมิปัญญา เพื่อสังคม” โดยมีวิสัยทัศน์ว่ามหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งการสร้างสรรค์” ด้วยการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีความโดดเด่น ด้วยความเป็นรากเหง้าแห่งศิลปะ ที่รวบรวมองคาพยพทางด้านศิลปะ และการออกแบบที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งการพัฒนาองค์ความรู้โดยการประยุกต์ศาสตร์ และศิลป์เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ก่อเกิดคุณค่าวิชาการความรู้ใหม่อย่างมากมาย ด้วยความเป็นเอกภาพที่อยู่บนความหลากหลายของคณะวิชา ที่มีผลงานอย่างมากมาย จนเป็นที่ประจักษ์ ทั้งด้านการเรียนการสอน ตลอดจนด้านการวิจัย ซึ่งมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ มีคุณธรรม และทักษะที่ทันยุค ทันสมัย คงดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างบัณฑิต ที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถประยุกต์ให้เหมาะสม เข้ากับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสังคม และสิ่งแวดล้อม

นครปฐมกำหนดจัดงานวันส้มโอมณฑลนครชัยศรีและผลไม้ดีของจังหวัดนครปฐม ประจำปี 2559

นายแพทย์ทรงชัย ศรีโรจนกุล ประธานหอการค้าจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า จังหวัดนครปฐม ร่วมกับหอการค้าจังหวัดนครปฐม โดยการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครปฐม  สำนักงานการค้าภายในจังหวัด และเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา กำหนดจัดงาน วันส้มโอ มณฑลนครชัยศรีและผลไม้ของดีนครปฐม” ระหว่างวันที่ 13-19 กันยายน 2559 และกำหนดพิธีเปิดงาน ในวันที่ 13 กันยายน 2559 เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่า ศาลายา จังหวัดนครปฐม เพื่อเป็นการอนุรักษ์และพัฒนาคุณภาพ ส้มโอนครปฐม ซึ่งเป็นส้มโอที่มีรสหวานอร่อย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคและตลาดต่างประเทศ และเป็นการสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกรได้มีการพัฒนาคุณภาพและเพิ่มผลผลิต รวมทั้งส่งเสริมด้านสินค้าพื้นเมือง ผลผลิตของประชาชนในอำเภอ ทั้งอาหารคาว หวาน ของอุปโภคอื่นๆ ที่มีผลิตและจำหน่ายอยู่มากมาย ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ตลอดจนเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐม ทั้งนี้ส้มโอนครชัยศรี ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(Gi)เป็นเครื่องหมายการันตีว่าเป็นส้มโอจากนครชัยศรีแท้ๆ เป็นสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาว่ามาจากสวนใด
ประธานหอการค้าจังหวัดนครปฐม กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่นครชัยศรีแต่เดิมมีพื้นที่ใหญ่กว้างขวางมาก เรียกว่า มณฑลนครชัยศรีมีแม่น้ำสายหลักคือ แม่น้ำท่าจีน หรือแม่น้ำนครชัยศรี ในฤดูน้ำหลากจะพัดพาเอาตะกอนอินทรียวัตถุที่อุดมสมบูรณ์มาสะสม ชาวบ้านจะเรียกกันว่า น้ำไหล ทรายมูลแร่ธาตุในดินมีความพอเหมาะพอดี บางช่วงที่น้ำน้อยจะมีน้ำเค็มขึ้นมาถึงแถวนครชัยศรีด้วย  รวมไปถึงสภาพดินฟ้าอากาศที่มีความเหมาะสม ด้วยลักษณะเฉพาะเหล่านี้ทำให้ ส้มโอนครชัยศรีจะมีรสชาติหวานอร่อยเป็นที่ถูกใจและเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นกว่าที่ปลูกในพื้นที่อื่น ส้มโอนครชัยศรี นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรต่อเนื่องตลอดมา และที่พิเศษ คือส้มโอนครชัยศรี ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(Gi) เป็นเครื่องหมายการันตีว่าเป็นส้มโอจากนครชัยศรีแท้ๆ เป็นสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
สำหรับกิจกรรมภายในงาน นอกจากจะมีส้มโอนครชัยศรีซึ่งเป็นผลไม้เด่นของจังหวัดนครปฐมแล้ว ยังมีผลไม้ดีของจังหวัดนครปฐม ไม่ว่าจะเป็น มะพร้าวน้ำหอมอันลือชื่อของสามพราน ฝรั่ง ชมพู่ กล้วยหอม กล้วยไข่ แก้วมังกร มะละกอ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากผลไม้ เช่นกล้วยอบกรอบ ผลไม้แช่อิ่ม น้ำฟักข้าว ครีมฟักข้าว น้ำนมข้าวโพด กล้วยกวนโบราณ ฝรั่งแช่บ๊วย น้ำมะพร้าวนมสด มะเขือเทศราชินีอบแห้ง โดยมีให้เลือกชิมมากกว่า 70 บูธ
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น มหกรรมธงฟ้าราคาประหยัดและเกษตรอินทรีย์ โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ มีกิจกรรมบนเวที รวมไปถึงกิจกรรมนาทีทองวันละ 1 ชั่วโมงในการเลือกซื้อผลไม้ราคาถูกมากๆ อีกด้วย


ตร.นอกเครื่องแบบมหาชัย จับยาไอซ์ขยายได้ปืนยึดทรัพย์


เมื่อ  29 ส.ค. 59 เจ้าพนักงานตำรวจภายใต้การควบคุมของ พ.ต.ท.สถิตย์ คงเนียม รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร,พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ อ่อนละออ สวป.ฯ ,พ.ต.ต.อนุชา จิตนิยม สวป.ฯ ,ร.ต.อ.เอกราช มาละวรรณโณ สวป.ฯ,ร.ต.อ.ศุภฤกษ์ ตรีเจตน์ สวป.ฯ ร.ต.อ.กิตติ์ธีธัช คงกระพันธ์ รอง สว.สส.ฯ ,ร.ต.ท.วัชระ พัฒนกุลอนันต์ รอง สวป.ฯ ,ร.ต.ท.อดิสรณ์ เชยโต รอง สว.(ป.)ฯพร้อมกำลัง ป.นอกเครื่องแบบ ชุด ปส.ฯ 2 และสายตรวจหน่วยบริการคอกกระบือ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน มีรายละเอียดดังนี้
1.เวลา 17.20 น.จับกุมนายปรัชญา เลิศประเสริฐ อายุ 19 ปี พร้อมยาบ้า 30 เม็ด โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เหตุเกิด หมู่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
              จากนั้นได้สืบสวนขยายผลทราบว่านายปรัชญาฯ รับยาบ้ามาจากนายเมย์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 33 ปี จึงได้ขยายผลสามารถจับกุม
2.เวลา 17.30 น.จับกุมนายอุดมศักดิ์ หรือเมย์ ผลรุก อายุ 33 ปี พร้อมยาบ้า 69 เม็ด ,ยาไอซ์ 1.09 กรัม ,อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน 1 นัด โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและปราศจากเหตุอันสมควร เหตุเกิด หมู่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
              นอกจากนี้ได้ร่วมกันตรวจยึด สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 30.47 กรัม (2บาท),รถ จยย.จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ของนายอุดมศักดิ์ฯ ไว้เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 
              จากการขยายผลนายอุดมศักดิ์ฯ ทราบว่ารับยาบ้าและยาไอซ์ มาจากนายไอซ์ ไม่ทราบนามสกุล อยู่ที่ทุ่งครุ กทม.แต่ไม่สามารถขยายผลได้เนื่องจากนายไอซ์ได้ไหวตัวปิดโทรศัพท์หลบหนี ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

เงาพญาราหู รายงาน


วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สืบมหาชัย จับขยายยาไอซ์ ฟ้าใส ใช้รถข่าวตบตาตำรวจ

 
เมื่อ 29 ส.ค. 59 เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การควบคุมของ พ.ต.อ.สุระพรรณ นาทวรทัต  ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร , พ.ต.ท.พงษ์ศิริ  เก่งนอก  รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร สั่งการให้  พ.ต.ต. สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม สว.สส.ฯ ร.ต.อ.อภิวิทย์  แจ่มแจ้ง สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.วีรยุทธ  อ่วมประเสริฐ รอง สว.สส.ฯพร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาครได้จับกุมตัว ผู้ต้องหา พรบ.ยาเสพติด(ยาไอซ์)  2 ราย คือ                                                                                                                                  
                      1.นายพรชัย หรือโย่ง พงษ์ศรี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 2  ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
 พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) บรรจุอยู่ในซองพลาสติกใส แบบเปิด-ปิดได้จำนวน 1 ถุง น้ำหนักชั่งพร้อมถุงประมาณ  1.02 กรัม 
โดยกล่าวหาว่า  มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายสอบถามนายพรชัย หรือโย่ง พงษ์ศรี  รับว่ายาไอซ์ของกลางเป็นของตนจริงโดยซื้อมาจาก นายบัติ  ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซื้อมาถุงละ1,500 บาท พร้อมทั้งสมัครใจนำเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมไปยังบ้านนายบัติ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง บ้านเลขที่ 144/381ม.6 หมู่บ้านฟ้าใส ซอย 5 คลองมะเดื่อ  อ.กระทุ่มแบน จว.สมุทรสาคร และสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่                                                                                                                                                                                                                                              2.นายสวัสดิ์ หรือบัติ กวมทรัพย์  อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/381ม.6 หมู่บ้านฟ้าใส ซอย 5 คลองมะเดื่อ  อ.กระทุ่มแบน จว.สมุทรสาครพร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงฟอยด์ แบบเปิด-ปิดได้จำนวน 1 ถุง  น้ำหนักชั่งพร้อมถุงประมาณ  285 กรัม 
 โดยกล่าวหาว่า  มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและบันทึกการตรวจยึดตาม พรบ.มาตรการ                                                                                                                                                                                            1.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อwiko  จำนวน 1 เครื่อง สีทอง หมายเลขโทรศัพท์  0945762110 ราคาประมาณ 3.000 บาท  ซึ่งผู้ต้องหารับว่าโทรศัพท์มือถือดังกล่าว มีไว้เพื่อโทรติดต่อซื้อขายยาเสพติด
2.โลหะคล้ายทองจำนวน 1 เส้น น้ำหนัก  ประมาณ30 กรัม  3. สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์  1 เล่ม  เลขที่บัญชีสมุดเล่มที่ 1. 883-204037-1 ชื่อเจ้าของบัญชี น.ส. นางกฤษณา ผลบุญ  ผู้ต้องหารับว่าใช้ในการรับค่าจ้างโอนจ่ายค่ายาเสพติด (ยาบ้า) 4. บัตรกดเงินอิเล็กทรอนิคส์ ( ATM ) ธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัตร 5577-5552-0498-9524 และบัตร  ผู้ต้องหารับว่าใช้ในการกดเงินค่ายาเสพติด(ยาบ้า)(รหัสบัตร 0802) 5. รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน ฒต 1140 กรุงเทพมหานคร ใช้ในการขนส่งยาเสพติด บันทึกการตรวจยึดทรัพย์สิน
               พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางนำส่ง พงส. สภ.เมืองสมุทรสาครและ สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เงาพญาราหู รายงาน


วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หนวดชี้ชัดผ้าขม้า...คือชัดเจน

หนวดชี้ชัดผ้าขม้า...คือชัดเจน

การเป็นนักข่าวภารกิจหลักนอก เหนือจากการนำเสนอความจริงรวมถึงความเป็นไปต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมนั่นคือการเป็นตัวกลางในการส่งต่อข้อมูลระหว่างผู้เดือดร้อนกับผู้รับผิดชอบที่สามารถแก้ไขเรื่องราวเหล่านั้นได้ทำให้ปัญหาต่างๆถูกขจัดแก้ไขหรือไม่ก็เบาบางลงเมื่อปัญหาถูกแก้ไขพวกเราในฐานะนักข่าวก็พลอยยินดีปรีดาไปด้วยเช่นกันหากจะหลายครั้ง การทำหน้าที่ตรงนี้กลับถูกตีเจตนาว่ามีการแอบแฝงวาระซ่อนเร้นต่างๆทั้งข้อกล่าวหาว่าจ้องทำลายบ้างและแม้กระทั่งเรียกรับผลประโยชน์ต่างๆบ้างซึ่งเท็จจริงแค่ไหนคงไม่ใช่คำพูดที่ออกจากปากของจำเลยเท่านั้นแต่หากอยู่ที่หูของผู้ฟังด้วยนะครับว่าจะเลือกเชื่อหรือไม่ คนพูดพูดความจริงคนฟังไม่เชื่อก็จบข่าวและต่อไปคงคบหากันลำบาก โดยส่วนตัวของหนวดแล้วถูกกล่าวหาพาดพิงหลายครั้งหลายเรื่องจริงบ้างเท็จบ้างอยู่ที่คนฟังจะเอาเรื่องเอาราวแค่ไหน หูเบาเรื่องก็ไปไกลหูหนักมาไถ่ถามกันตรงตรงอันนี้สิครับที่เรียกว่าสุภาพชน บอกกันไว้ตรงนี้เลยดีกว่าสำหรับมิตรรักทั้งหลายว่าเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตัวหนวด*ยากรู้ความจริงให้ไถ่ถามกันตรงๆ อยากรู้แต่ไม่อยากโทรหาบอกได้ครับจะไปหาถึงที่อย่าไปฟังเสียงนกหนูที่ไหนให้เสียเวลาเรื่องจริงล้วนมาจากปากคนจริงครับมีแต่เรื่องลวงๆ เท่านั้นแหละครับที่ออกจากปากสุนัข...เขียนมาแค่นี้คงเข้าใจนะครับว่าผมหนวดชี้ชัดผ้าขะม้าชัดเจนอย่างไร

จังหวัดสมุทรสงครามจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559

ตามที่เถรสมาคม ได้มีมติเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2559  โครงการเจริญ    พระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559  มีมติเห็นชอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการร่วมกับเจ้าคณะจังหวัดทั้งสองฝ่าย ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด จัดทำแผนการเจริญพระพุทธมนต์ ในวันจันทร์และวันศุกร์ โดยคณะสงฆ์ทั้งอำเภอร่วมกันดำเนินการพร้อมข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนและสถานศึกษา หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไปจนครบทุกอำเภอ เริ่มตั้งแต่วันเข้าพรรษาจนถึงสิ้นปี 2559 ซึ่งจังหวัดสมุทรสงคราม ได้กำหนดแผนพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 10 ครั้ง 

บ่ายวันนี้(26 ส.ค.59)ที่วัดกลางเหนือ ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที  พระราชธรรมสุธี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม (ธ.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และนางสาวจิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  เปิดกรวยถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระเถระ ชุมนุมเทวดา ประธานสงฆ์ นำเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติฯ และนำเจริญจิตภาวนาถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนนักเรียน นักศึกษา พระสงฆ์ ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์




เกษตรสมุทรสาครร่วมรณรงค์การควบคุมหนอนหัวดำมะพร้าวด้วยวิธีที่เหมาะสม

    นายเศรณี อนิลบล เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่าในปัจจุบันยังมีพื้นที่ปลูกมะพร้าวที่ถูกหนอนหัวดำมะพร้าวทำลายอยู่ แม้ว่าในขณะนี้มีฝนตกในพื้นที่ทำให้เห็นสภาพทั่วไปว่าการระบาดไม่รุนแรง แต่ถ้าเกษตรกรวางใจ ไม่ร่วมมือกันสำรวจสถานการณ์การระบาดและเลี้ยงแตนเบียนบราคอนปล่อยสู่ธรรมชาติ เมื่อเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว มีสภาพอากาศแห้งแล้ง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว จะทำให้เกิดการระบาดอย่างรุนแรงและยากต่อการป้องกันกำจัด จึงขอให้เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวร่วมมือ ร่วมใจในการควบคุมการระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว ดังนี้
                1. ตัดทางใบมะพร้าวที่ถูกหนอนหัวดำมะพร้าวทำลายมาเผาไฟทันที เพื่อตัดวงจรการระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว เป็นการกำจัดทั้งระยะไข่ ระยะหนอน และระยะดักแด้
                2. ใช้เชื้อแบคทีเรีย (BT) ฉีดพ่นบริเวณใบมะพร้าว เพื่อกำจัดระยะหนอน อัตรา 80 - 100 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบตามอัตราที่แนะนำในฉลาก ฉีดพ่น 3 ครั้ง ห่างกัน 7-10 วัน ในช่วงเวลาตอนเย็น
                3. ปล่อยแตนเบียนควบคุมกำจัดและสร้างความสมดุลทางธรรมชาติ
                              3.1 ปล่อยแตนเบียนไข่ตริโกรแกรมม่า เพื่อทำลายระยะไข่ อัตราไร่ละ 20,000 ตัว 12 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 15 วัน
                     3.2 ปล่อยแตนเบียนหนอนบราคอน (Bracon hebetor) เพื่อควบคุมกำจัดระยะหนอน อัตราอย่างน้อย 200 ตัว /ไร่ ปล่อยทุก 15 วัน ติดต่อกัน 6 เดือน
                     3.3 ปล่อยแตนเบียนโกนีโอซัสนีแฟนติดิส เพื่อกำจัดระยะหนอน อัตรา 50-100 ตัว/ไร่ ปล่อย   3 ครั้ง แต่ละครั้ง ห่างกัน 1 เดือน
                4. ใช้สารเคมีฉีดพ่นทางใบ กรมวิชาการเกษตร ได้ทดลองการป้องกันกำจัดหนอนหัวดำมะพร้าว ด้วยวิธีการฉีดพ่นสารเคมีทางใบ
                    เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แนวทางหรือปัจจัยที่ให้การควบคุมหนอนหัวดำมะพร้าวประสบผลสำเร็จ ควรดำเนินการ ดังนี้
                - ให้เกษตรกรตระหนักถึงภัยของหนอนหัวดำมะพร้าว โดยให้มีการสำรวจ ติดตามสถานการณ์การระบาดอย่างต่อเนื่อง
                - เกษตรกรต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันกำจัดหนอนหัวดำมะพร้าว โดยใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม สามารถปฏิบัติได้
                - ต้องร่วมบูรณาการจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการป้องกันกำจัดหนอนหัวดำมะพร้าวอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่
                - มีการเฝ้าระวัง ติดตาม และประเมินผล
                หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร โทร/โทรสาร.       034-426995 หรือ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน
ข่าว  นางอรวีณ์ จุฑาวรรธนะ

กลุ่มอารักขาพืช

เกษตรสมุทรสาครร่วมรณรงค์การควบคุมหนอนหัวดำมะพร้าวด้วยวิธีที่เหมาะสม

    นายเศรณี อนิลบล เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่าในปัจจุบันยังมีพื้นที่ปลูกมะพร้าวที่ถูกหนอนหัวดำมะพร้าวทำลายอยู่ แม้ว่าในขณะนี้มีฝนตกในพื้นที่ทำให้เห็นสภาพทั่วไปว่าการระบาดไม่รุนแรง แต่ถ้าเกษตรกรวางใจ ไม่ร่วมมือกันสำรวจสถานการณ์การระบาดและเลี้ยงแตนเบียนบราคอนปล่อยสู่ธรรมชาติ เมื่อเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว มีสภาพอากาศแห้งแล้ง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว จะทำให้เกิดการระบาดอย่างรุนแรงและยากต่อการป้องกันกำจัด จึงขอให้เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวร่วมมือ ร่วมใจในการควบคุมการระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว ดังนี้
                1. ตัดทางใบมะพร้าวที่ถูกหนอนหัวดำมะพร้าวทำลายมาเผาไฟทันที เพื่อตัดวงจรการระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว เป็นการกำจัดทั้งระยะไข่ ระยะหนอน และระยะดักแด้
                2. ใช้เชื้อแบคทีเรีย (BT) ฉีดพ่นบริเวณใบมะพร้าว เพื่อกำจัดระยะหนอน อัตรา 80 - 100 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบตามอัตราที่แนะนำในฉลาก ฉีดพ่น 3 ครั้ง ห่างกัน 7-10 วัน ในช่วงเวลาตอนเย็น
                3. ปล่อยแตนเบียนควบคุมกำจัดและสร้างความสมดุลทางธรรมชาติ
                              3.1 ปล่อยแตนเบียนไข่ตริโกรแกรมม่า เพื่อทำลายระยะไข่ อัตราไร่ละ 20,000 ตัว 12 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 15 วัน
                     3.2 ปล่อยแตนเบียนหนอนบราคอน (Bracon hebetor) เพื่อควบคุมกำจัดระยะหนอน อัตราอย่างน้อย 200 ตัว /ไร่ ปล่อยทุก 15 วัน ติดต่อกัน 6 เดือน
                     3.3 ปล่อยแตนเบียนโกนีโอซัสนีแฟนติดิส เพื่อกำจัดระยะหนอน อัตรา 50-100 ตัว/ไร่ ปล่อย   3 ครั้ง แต่ละครั้ง ห่างกัน 1 เดือน
                4. ใช้สารเคมีฉีดพ่นทางใบ กรมวิชาการเกษตร ได้ทดลองการป้องกันกำจัดหนอนหัวดำมะพร้าว ด้วยวิธีการฉีดพ่นสารเคมีทางใบ
                    เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แนวทางหรือปัจจัยที่ให้การควบคุมหนอนหัวดำมะพร้าวประสบผลสำเร็จ ควรดำเนินการ ดังนี้
                - ให้เกษตรกรตระหนักถึงภัยของหนอนหัวดำมะพร้าว โดยให้มีการสำรวจ ติดตามสถานการณ์การระบาดอย่างต่อเนื่อง
                - เกษตรกรต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันกำจัดหนอนหัวดำมะพร้าว โดยใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม สามารถปฏิบัติได้
                - ต้องร่วมบูรณาการจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการป้องกันกำจัดหนอนหัวดำมะพร้าวอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่
                - มีการเฝ้าระวัง ติดตาม และประเมินผล
                หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร โทร/โทรสาร.       034-426995 หรือ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน
ข่าว  นางอรวีณ์ จุฑาวรรธนะ

กลุ่มอารักขาพืช

เกษตรสมุทรสาคร มุ่งส่งเสริมและพัฒนากลุ่มยุวเกษตรกรจังหวัดสมุทรสาคร

นายเศรณี อนิลบล เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร   เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ การส่งเสริมและพัฒนากลุ่มยุวเกษตรในจังหวัดสมุทรสาคร ที่เป็นบุตรหลานของเกษตรกร ซึ่งมีอายุระหว่าง 10 – 25 ปี เพื่อเผยแพร่ความรู้ในด้านการเกษตร เคหกิจเกษตร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และมีความพร้อมในการเป็นผู้นำ การที่จะช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวและท้องถิ่น ตลอดจนช่วยเหลือประเทศชาติ โดยเน้นให้ยุวเกษตรกร “เรียนจากการทำจริง” และ “จะทำให้ดียิ่งกว่าดีที่สุด” โดยปลูกฝังให้รักและภาคภูมิใจในการอาชีพการเกษตร
                เพื่อให้การส่งเสริมและพัฒนากลุ่มยุวเกษตรกร ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร ได้กำหนดแนวทาง และมีขั้นตอนการดำเนินงานการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มยุวเกษตรในจังหวัดสมุทรสาคร              
โดยกลุ่มยุวเกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มยุวเกษตรในจังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่
1. ปี 2556 กลุ่มยุวเกษตรกรบ้านอ้อมพัฒนา โรงเรียนบ้านอ้อมโรงหีบ ตำบลบ้านเกาะ 
อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับรางวัลที่ 2 ประเภทที่ปรึกษายุวเกษตรกรดีเด่น ระดับประเทศ
2. ปี ๒๕๕7 กลุ่มยุวเกษตรกรสุนทรสถิตสามัคคีพัฒนา โรงเรียนที่ปังกรวิทยาพัฒน์ (สุนทรสถิต) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับรางวัลที่ 2 ประเภทกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น ระดับประเทศ
3. ปี ๒๕๕๘ กลุ่มยุวเกษตรกรสุนทรสถิตสามัคคีพัฒนา โรงเรียนที่ปังกรวิทยาพัฒน์ (สุนทรสถิต) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับรางวัลที่ ๓ ประเภทกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น ระดับประเทศประจำปี 2558
๔. ปี ๒๕๕๙ กลุ่มยุวเกษตรกรสุนทรสถิตสามัคคีพัฒนา โรงเรียนที่ปังกรวิทยาพัฒน์
 (สุนทรสถิต) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้รับรางวัลที่ ๑ ประเภทกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น ที่ปรึกษายุวเกษตรกรดีเด่น และสมาชิกยุวเกษตรกรดีเด่น ระดับเขต ประจำปี 255๙
เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การส่งเสริมและพัฒนากลุ่มยุวเกษตร เป็นโครงการที่มีประโยชน์มาก เพราะเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความกระตือรือร้นต่อการเปลี่ยนแปลง เปิดกว้างทางความคิด รวมทั้งยังเป็นความหวังและอนาคตของชาติ ถ้าได้รับการพัฒนาที่ถูกต้อง เหมาะสม และปลูกฝังให้มีทัศนคติที่ดีต่อการเกษตร จะสามารถเป็นผู้นำและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปได้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร โทร/โทรสาร. 034-426995 หรือ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน
 ข่าว   นางสาวสุหฤทธา  เต่งแก้ว

กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร

เกษตรสมุทรสาคร เดินหน้าปรับปรุงและขึ้นทะเบียนเกษตรกร ปี 2559

นายเศรณี อนิลบล เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้มีนโยบายให้มีการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรประจำตำบลและอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ เป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูล เพื่อขยายฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้มีความครบถ้วนถูกต้อง สามารถนำฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตร และสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและพัฒนางานภาคการเกษตรของประเทศ นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง ตลอดจนการให้บริการฐานข้อมูลดังกล่าวแก่หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน
                สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศและภูมิศาสตร์มาใช้ร่วมกับอุปกรณ์สมัยใหม่ เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลมีความถูกต้องและสมบูรณ์ โดยมีการดำเนินการรับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเป็นประจำทุกปี สำหรับในปี 2559 นั้น จะดำเนินการรับขึ้นทะเบียนเกษตรกร 
โดยมีเป้าหมาย คือ เกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรมาก่อนเลย และเกษตรกรที่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้วให้มาทำการปรับปรุงข้อมูลการเกษตรให้เป็นปัจจุบัน
                เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะเป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกรโดยภาครัฐจะสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร  จึงขอเชิญชวนเกษตรกรและผู้ประกอบกิจกรรมการเกษตรมาดำเนินการปรับปรุงและขึ้นทะเบียนเกษตร ประจำปี 2559 หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร โทร/โทรสาร. 034-426995 หรือ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน
                                                                         ข่าว นางสาวสุภาพร อินดำ

กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ

เกษตรสมุทรสาคร เผยความสำเร็จโครงการตามแผนพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ( มาตรการที่ ๔ )

นายเศรณี อนิลบล เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับการอนุมัติโครงการตามแผนพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ( มาตรการที่ ๔ ) จำนวน ๒ อำเภอ ๔ ตำบล ซึ่งเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 1,111,026 บาท ได้แก่
                1. โครงการเพาะเห็ดนางฟ้าและเห็ดภูฐาน ตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร  
          2. โครงการส่งเสริมการปลูกผักด้วยระบบไฮโดรโปรนิกส์ ตำบลคลองตัน อำเภอบ้านแพ้วจังหวัดสมุทรสาคร                                    
           ๓. โครงการต่อยอดผลิตดินและปุ๋ยจากผักตบชวาเพื่อจำหน่าย ตำบลหลักสอง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
           ๔. โครงการ การขุดลอกคลองเพื่อกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร  ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร                                                                                                                                          
โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากการขาดรายได้ในช่วงฤดูแล้ง รวมทั้ง            สร้างโอกาสในการปรับเปลี่ยนอาชีพและโครงสร้างการผลิตที่เหมาะสม
เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมาได้รับการบูรณาการจากหลายหน่วยงานในจังหวัดสมุทรสาคร ถือว่าประสบความสำเร็จ ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เช่น เกษตรกรสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างอาหารในชุมชนเพื่อให้เกษตรกรสามารถดำรงชีพ อยู่ได้ในช่วงฤดูแล้ง ทำให้ชุมชนเกิดความสามัคคี  รู้จักการแก้ไขปัญหา วางแผนการผลิตด้วยตนเอง สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน และความตั้งใจในการดำเนินกิจกรรมร่วมมือกับหน่วยงานราชการให้สำเร็จ และยั่งยืน ทั้งนี้ยังสามารถเป็นชุมชนต้นแบบ ให้แก่ชุมชนอื่นได้หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร โทร/โทรสาร. 034-426995 หรือ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน
ข่าว  นางสาวสุหฤทธา  เต่งแก้ว
กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร