“ออมสิน” พร้อมแล้ว สินเชื่อรูปแบบใหม่สำหรับประเทศไทย
สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ : Reverse Mortgage สำหรับดำรงชีพ-ยกระดับคุณภาพชีวิต
กู้วันนี้ถึง 31 มี.ค.61 ดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี
ธนาคารออมสิน เปิดตัว “สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ” หรือ Reverse Mortgage สินเชื่อรูปแบบใหม่สำหรับประเทศไทย
มีวงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี
และยกเว้นค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย
ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559
มีมติเห็นชอบมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยมีเรื่องสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) ที่ธนาคารออมสินได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลังให้ดำเนินการรวมอยู่ด้วย
ซึ่งได้กำหนดแนวคิดที่ต้องการให้ผู้สูงอายุที่มีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภาระหนี้และเป็นเจ้าของบ้าน
มีรายได้ในการดำรงชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และลดภาระทางการคลังของรัฐบาลในระยะยาว
ซึ่งธนาคารออมสินได้เตรียมวงเงิน 10,000 ล้านบาท
เปิดให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุนี้
“สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
เหมาะกับการนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการครองชีพ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ที่เกี่ยวกับการกู้ครั้งนี้ ซึ่งธนาคารฯ ให้วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยหมายรวมถึง เงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้แก่
ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย และค่าจดจำนอง คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-1% ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารออมสิน
อยู่ที่ 7.00% ต่อปี)
โดยผู้กู้ที่ได้รับการอนุมัติช่วงเปิดตัวนี้จนถึงวันที่ 31
มีนาคม 2561 ธนาคารฯ จะไม่คิดดอกเบี้ยใน 2 ปีแรก พร้อมกับยกเว้นค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ และเลือกรับ Gift
Card Home Pro มูลค่า 1,000 บาท หรือ
เครื่องวัดความดันโลหิต 1 เครื่อง หรือ บัตรออมสิน GSB
VISA Debit Smart Care วงเงินคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 100,000 บาท”นายชาติชาย กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารฯ
จะเริ่มต้นโครงการด้วยการปล่อยกู้ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี
ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม
และในส่วนภูมิภาคจะเปิดให้บริการในเขตอำเภอเมืองก่อนเพื่อประเมินผล/ติดตามผล
ก่อนจะทยอยขยายให้กู้ได้ทั่วประเทศต่อไป สำหรับคุณสมบัติผู้กู้นั้น
จะต้องเป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 80 ปี
กู้ร่วมได้เฉพาะกับคู่สมรสตามกฎหมายที่มีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันร่วมกัน
โดยผู้กู้จะต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
หลักประกันต้องเป็นที่อยู่อาศัยหลักของผู้กู้
และต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตลอดช่วงระยะเวลาที่ได้รับเงินกู้
กรณีใช้ที่ดินพร้อมอาคาร ให้กู้ได้ไม่เกิน 70%
ของราคาประเมินหลักทรัพย์ หากใช้ห้องชุด ให้กู้ได้ไม่เกิน 60% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ (ราคาประเมินไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท)
สำหรับการจ่ายเงินกู้ ธนาคารฯ
จะจ่ายเงินกู้ให้ผู้กู้เป็นรายเดือน นำเข้าบัญชีเงินฝากที่เปิดไว้
ระยะเวลาจ่ายเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 25 ปี แต่รวมระยะเวลาจ่ายเงินกู้กับอายุของผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 85 ปี เมื่อครบระยะเวลากู้ตามสัญญาแล้ว ผู้กู้สามารถชำระหนี้ปิดบัญชี
หรือสามารถกู้เงินเพิ่มเติมได้ตามเงื่อนไขที่ธนาคารฯ กำหนด หากไม่กู้เพิ่มเติมหรือปิดบัญชี
ผู้กู้สามารถอาศัยอยู่ในบ้านต่อไปได้จนกว่าผู้กู้จะเสียชีวิต กรณีผู้กู้เสียชีวิต
ธนาคารฯ จะให้สิทธิ์ทายาทชำระหนี้ปิดบัญชี หากทายาทไม่ปิดบัญชี ธนาคารฯ
จะขายหลักประกันเพื่อชำระหนี้ปิดบัญชี หากชำระหนี้ไม่พอแต่สามารถชำระต้นได้
ให้ถือว่าเป็นการชำระหนี้เสร็จสิ้น โดยไม่ต้องดำเนินการ
สืบทรัพย์อื่นของลูกหนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม
สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เป็นสินเชื่อรูปแบบใหม่สำหรับประเทศไทย
เงื่อนไขหลักเกณฑ์ไม่เหมือนกับเงินกู้ทั่วไป ธนาคารฯ
จึงต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเงินกู้ประเภทนี้ โดยได้กำหนดให้ผู้กู้
คู่สมรส ทายาทของผู้กู้
ต้องได้รับคำแนะนำเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์
เงื่อนไขการให้สินเชื่อประเภทนี้อย่างชัดเจนก่อน
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อโต้แย้งในภายหลัง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น