เมื่อ
๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๐๐ น. ตามนโยบาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ
พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร.(ตท.) ให้ สตม. เร่งกวาดล้างมาเฟียต่างชาติ
ขบวนการอาชญากรข้ามชาติหรืออาชญากรต่างชาติที่หลบหนีคดี
รวมทั้งชาวต่างชาติมีพฤติการณ์เป็นภัยต่อความมั่นคงที่หลบซ่อนตัวในประเทศไทย
พล.ต.ท.ณัฐธร
เพราะสุนทร ผบช.สตม.
ได้รับนโยบายมาปฏิบัติเร่งประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝ่ายกิจการตำรวจประจำสถานทูตต่างๆและองค์กรตำรวจสากลอย่างใกล้ชิด
โดยในวันนี้ สตม.สามารถแถลงผลการปฏิบัติ ผู้ต้องหา ๑๑๒ ราย ดังนี้
รายที่
๑ นายซัฟฟี่ ไกรบา (Mr.Kraiba Safy) อายุ ๒๖ ปี
สัญชาติ ฝรั่งเศส ผู้ต้องหาตามหมายจับของ
ประเทศฝรั่งเศส
ในข้อหา “กักขังหน่วงเหนี่ยว
, โจรกรรมและพยายามฆ่าซึ่งเป็นรูปแบบขององค์กรอาชญากรรม”
รายที่
๒ นายอีฟเจนี่ กูบารีฟ (Mr.Evgenii Gubrev) อายุ ๓๗ ปี
สัญชาติรัสเซีย ในข้อหา “อยู่เกินกำหนด” (OVERSTAY) และหลบหนีหมายจับรัสเซียในข้อหา ฉ้อโกง
รายที่
๓ นายมาลิค นาอีม วัตสัน สมิท (MR.Malik Naeem Watson-Smith) อายุ ๒๓ ปี สัญชาติอเมริกัน ในข้อหา“อยู่เกินกำหนด
(OVERSTAY)” ๖๙๑ วัน
รายที่
๔ นายเวิร์นเนอร์ เอนริว แวนเดน โบรค (MR.Werner Henri
Van Den Broeck ) อายุ ๔๗ ปี
สัญชาติเบลเยียม
ในข้อหา“อยู่เกินกำหนด
(OVERSTAY)” ๒๔๕ วัน
รายที่
๕- ๑๑๒ คนต่างด้าว เอเชียใต้ ชาวผิวสี อยู่เกินกำหนด (OVERSTAY) และหลบหนีเข้าเมือง
พฤติการณ์กระทำผิด
รายที่
๑ “สมาชิกแก๊งองค์กรอาชญากรรมฝรั่งเศส” วันที่ ๑๘ ธ.ค.๒๕๕๘ สืบเนื่องจาก สอท.ฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
ได้แจ้งข้อมูลและต้องการตัว นาย ซัฟฟี ไกรบา อายุ ๒๖ ปี สัญชาติฝรั่งเศส
ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลประจำเมืองดรากวินยอง (DRAGUINAN) ออกเมื่อวันที่ ๑๑ ธ.ค.๒๕๕๘ ในข้อหา “กักขังหน่วงเหนี่ยว,โจรกรรมและพยายามฆ่าซึ่งเป็นรูปแบบขององค์กรอาชญากรรม” พฤติการณ์ คือ นายซัฟฟีฯ พร้อมพวก รวม ๓ คน
ได้ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและพยายามฆ่าชายชาวฝรั่งเศสรายหนึ่งโดยการใช้อาวุธมีด
เนื่องจากมีความขัดแย้งกัน
ในเรื่องผลประโยชน์จากการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดประเภทโคเคน หลังจากนั้นทั้ง
๓ รายก็ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดย นายซัฟฟีฯ
ได้หลบหนีไปยังสเปนและเดินทางต่อมายังประเทศไทย โดยหลบซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดระยอง
ต่อมาตำรวจฝรั่งเศส สามารถจับกุมตัวผู้ร่วมกระทำผิดได้ ๒ ราย ซึ่งทั้ง ๒
รายก็ได้ให้การซัดทอดว่า นายซัฟฟีฯ เป็นตัวการใหญ่ จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางพบว่านายซัฟฟีฯ
ได้เดินทางเข้ามาเมื่อวันที่ ๑๓ ธ.ค.๒๕๕๘ ทางด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ ซึ่ง
เจ้าหน้าที่ กก.๑ บก.สส.สตม.จับกุมตัว นายซัฟฟีฯ ได้ บริเวณริม ถนนเจริญกรุง
แขวง/เขตบางรัก กรุงเทพฯ จึงได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร
เพื่อดำเนินการผลักดันกลับประเทศฝรั่งเศส ต่อไป
รายที่
๒ “รัสเซียหนีคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน” เมื่อวันที่
๑๗ ธ.ค.๒๕๕๘ ตม.จว.ชลบุรี ได้สืบทราบว่า นายอีฟเจนี่ กูบารีฟ (Mr.Evgenii
Gubrev) อายุ ๓๗ ปี สัญชาติรัสเซีย
ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลแขวงเมือง Kirovski ประเทศรัสเซียและตำรวจสากล
Interpol ประกาศสืบจับ Red Notice ในข้อหา
“ฉ้อโกงและฟอกเงิน” สืบเนื่องจาก
นายกูบารีฟฯ
ได้ร่วมกับมารดาของตนแสดงเอกสารอันเป็นเท็จยื่นกู้เงินต่อธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย
ซึ่ง นายกูบารีฟฯ กับมารดาได้รับเงินจำนวน ๑๘,๐๐,๐๐๐ รูเบิ้ล (ประมาณ ๙,๒๐๐,๐๐๐
บาท) จากนั้นได้หลบหนีเข้ามาซ่อนตัวในจังหวัดชลบุรี ซึ่ง
บก.สส.สตม.ได้บันทึกข้อมูลเป็นบุคคลเฝ้าดูไว้ในระบบแล้ว ต่อมา ตม.จว.ชลบุรี
ได้ตรวจพบตัว นายกูบารีฟฯ
ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับตามหมายจับของทางการรัสเซียจริง
จึงได้ดำเนินการจับกุมในข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
ตัวนำส่ง พงส.สภ.เมืองพัทยา
ขณะนี้การดำเนินคดียังไม่เสร็จสิ้นและยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ
รายที่
๓ “นักมวยชาวอเมริกันอยู่เกินร่วม ๒ ปี” ด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.ชลบุรี ได้ออกสืบสวนในเขตรับผิดชอบ
พบบุคคลต่างด้าวทราบชื่อภายหลังว่า นายมาลิค นาอีมวัตสัน สมิท (MR.Malik
Naeem Watson-Smith) อายุ ๒๓ ปี สัญชาติอเมริกา จากการตรวจสอบ
นายมาลิคฯ ได้แสดงหนังสือเดินทางสัญชาติอเมริกา จึงได้ตรวจสอบในระบบพบว่า
เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ ๒๔ ธ.ค.๒๕๕๖ อนุญาตให้อยู่ถึง ๒๒ ม.ค.๒๕๕๖
อยู่เกินกำหนด ๖๙๑ วัน และนายมาลิคฯ ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่ายกาย
ด้วยระหว่างพักอาศัยอยู่ในพัทยาได้
ชกมวยเป็นอาชีพและเคยขึ้นชกกับนักมวยไทยชื่อดังมาแล้ว โดยนายมาลิคฯ
มีรายการขึ้นชกอีกครั้งในปลายเดือนนี้ เจ้าหน้าที่ ตม.จว.ชลบุรี
จึงได้ดำเนินการจับกุมในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
นำส่ง พงส. สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายและเตรียมผลักดันกลับประเทศสหรัฐอเมริกาต่อไป
รายที่
๔ “ชาวเบลเยียมอยู่เกินร่วมปี” เมื่อวันที่
๒๐ ธ.ค.๒๕๕๘ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.ภูเก็ต ได้ออกสืบสวนในเขตรับผิดชอบ
พบบุคคลต่างด้าวทราบชื่อภายหลังว่า นายเวิร์นเนอร์ เอนริว แวนเดน โบรค
(MR.Werner Henri Van Den Broeck ) อายุ ๔๗ ปี
สัญชาติเบลเยียม จากการตรวจสอบ นายเวิร์นเนอร์ฯ ไม่แสดงหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดได้
จึงได้ตรวจสอบในระบบพบว่า เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ ๒๐ ม.ค.๒๕๕๘
อนุญาตให้อยู่ถึง ๑๘ ก.พ.๒๕๕๘ อยู่เกินกำหนด ๓๐๕ วัน เจ้าหน้าที่ ตม.จว.ภูเก็ต
จึงได้ดำเนินการจับกุมในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
นำส่ง พงส. สภ.กะทู้
ดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันกลับประเทศเบลเยียม ต่อไป
รายที่
๕- ๑๑๒ คนต่างด้าว เอเชียใต้ ชาวผิวสี อยู่เกินกำหนด (OVERSTAY) และหลบหนีเข้าเมือง ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กองบังคับการสืบสวนสอบสวน
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ติดตามจับกุมชาวต่างชาติที่อยูในเกินกำหนดอนุญาตและหลบหนีเข้าเมือง
ปรากฏผลการปฏิบัติ แยกเป็นคนต่างด้าวผิวสี ดังนี้ โซมาเลีย ๘ ราย,กินี ๓ ราย , ไนจีเรีย ๓ ราย, มาลีและไลบีเลียประเทศละ
๒ ราย คนต่างด้าวเอเชียใต้ ปากีสถาน ๕๐ ราย,อินเดีย ๑๕
ราย ,บังคลาเทศและศรีลังกาประเทศละ ๑ ราย ,เวียดนาม ๓ รายและ อื่นๆ ๒๒ ราย รวม ๑๐๘ ราย
อนึ่ง
หากประชาชนพบบุคคลต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย ไม่เหมือนนักท่องเที่ยว หรือ
มีลักษณะไม่มีงานทำที่แน่นอน น่าเชื่อว่าอาจเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรม
ขอให้แจ้งข้อมูลผ่านสายด่วน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โทร. ๑๑๗๘ หรือ www.immigration.go.th
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น