pearleus

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปลัดกระทรวงมหาดไทย ติวเข้มผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยทั้ง 18 เขตและผู้ตรวจราชการกรมทุกกรม เพื่อเป็นกลไกสำคัญเชื่อมต่องานนโยบายที่ลงไปในพื้นที่

เมื่อ 4 ธ.ค. 58  เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุภาพ  กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ครั้งที่ 10/2558    โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขต 1 - 18 รองอธิบดี และผู้ตรวจราชการกรมทุกกรม เข้าร่วมการประชุม
          ในการประชุมฯ ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มอบแนวทางการทำงานให้กับผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรม โดยเน้นย้ำถึงบทบาทการทำงาน 2 ภารกิจสำคัญ คือ 1.งานตามบทบาทของผู้ตรวจราชการฯ โดยขอทุกหน่วยงานลงไปดูงานตามกลุ่มยุทธศาสตร์ 6 ด้านที่รัฐบาลได้กำหนดเป็นโรดแมปในการบริหารประเทศ ว่ามีงานของแต่ละกรมเกี่ยวข้องหรืออยู่ในกลุ่มภารกิจด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างเช่น กรมการพัฒนาชุมชนที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจและสังคม กรมการปกครองที่เกี่ยวข้องกับงานหลายด้านทั้งด้านสังคมและความมั่นคง ซึ่งผู้ตรวจราชการทุกคนจะต้องทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อของงานทั้ง 6 กลุ่มงานของรัฐบาลที่ได้นำไปปฏิบัติแล้วในพื้นที่และเป็นตัวแทนของปลัดกระทรวงมหาดไทยในการติดตามการทำงานด้านต่างๆ เพื่อรายงานความคืบหน้าให้กระทรวงมหาดไทยทราบ สำหรับการตรวจติดตามงานตามยุทธศาสตร์และมาตรการสำคัญของรัฐบาล เช่น มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท หรือ ปัญหาสาธารณะต่างๆที่มีผลกระทบต่อประชาชนพื้นที่เป็นวงกว้าง เช่น ปัญหาหมอกควัน ภัยหนาว ขอเน้นย้ำให้ผู้ตรวจราชการฯ ทำหน้าที่ 3 ด้าน คือ 1) การตรวจติดตามงานยุทธศาสตร์และมาตรการสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย 2) การตรวจแนะนำ ต้องทำหน้าที่ในการแนะนำการทำงานต่างๆ ให้กับจังหวัด เช่น ด้านการรักษาความปลอดภัย   ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เป็นต้น 3) การตรวจสอบข้อเท็จจริง เช่น กรณีปัญหาข้อร้องเรียน    ที่เข้ามาที่ศูนย์ดำรงธรรม โดยกระทรวงมหาดไทยจะสรุปประเด็นข้อร้องเรียนต่างๆ ให้ผู้ตรวจราชการฯ ลงไปดูข้อเท็จจริงในพื้นที่   เพื่อนำข้อเสนอแนะต่างๆ มาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  
          2. เรื่องสำคัญที่ขอเน้นย้ำในการตรวจราชการในพื้นที่ คือ งานที่รัฐบาลให้ความสำคัญและข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่องแรกด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์และการขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริในพื้นที่ ให้ไปดูการทำงานของจังหวัดว่าสามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สุขต่อประชาชนในพื้นที่ได้หรือไม่อย่างไร ด้านความสงบเรียบร้อยในสังคมสิ่งที่ต้องการให้ทุกหน่วยดำเนินการ คือ การวิเคราะห์สถานการณ์ล่วงหน้า 6 เดือน - 1 ปี ต่อจากนี้จะมีเหตุการณ์สำคัญอย่างไรเกิดขึ้น และจะมีปัญหาอะไรที่อาจจะกระทบต่อพี่น้องประชาชน เช่น ปัญหาภัยธรรมชาติ และเรื่องปัญหาปากท้อง หากพบต้องเร่งรายงานขึ้นมาให้กระทรวงมหาดไทยทราบ เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน
          สำหรับการดำเนินงานตามมาตรการตำบลละ 5 ล้านบาท ขณะนี้เม็ดเงินกำลังลงไปในพื้นที่ได้มอบหมายให้กรมการปกครองเป็นหน่วยงานหลัก ขอให้ลงไปดูตั้งแต่เรื่องของเอกสาร ขั้นตอนการเสนอโครงการว่าได้ดำเนินงานเป็นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ เน้นการลงพื้นที่สุ่มตรวจเจาะลึกลงไปในพื้นที่ว่าสามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์ มีความโปร่งใส และเกิดประโยชน์สุขต่อพี่น้องประชาชนหรือไม่ หรือการตรวจติดตามโครงการพัฒนาอาชีพตามความต้องการของชุมชน/หมู่บ้านเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้ง ที่ได้มอบหมายกรมการพัฒนาชุมชนเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งต้องไปดูว่าการดำเนินการต่างๆ เกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนตามรูปแบบประชารัฐหรือไม่ เป็นต้น รวมไปถึงการตรวจติดตามงานในพื้นที่ที่มีการพัฒนาที่แปลกใหม่มีความริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งอาจเกิดจากการผลักดันของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ส่วนราชการต่างๆ เพื่อนำมาเป็นแบบอย่างให้กับพื้นที่อื่นๆ เป็นต้น
          สุดท้ายปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำถึงบทบาทการทำงานของผู้ตรวจราชการฯ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมต่อการทำงานที่ลงไปในพื้นที่ จึงขอให้ทุกหน่วยงานได้บูรณาการการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตามยุทธศาสตร์ ทั้ง 6 ด้าน เพื่อสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ให้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น