สรุปสถานการณ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ของจังหวัดนครปฐม (ประจำวันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 เวลา 13.00 น.)
นายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยจังหวัดนครปฐม ได้รับแจ้งจาก ร.ต.พงศธร ศิริสาคร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม ว่า จังหวัดนครปฐม เริ่มมีสถานการณ์อุทกภัยน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ในพื้นที่ มาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2554 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 7 อำเภอ 99 ตำบล 854 หมู่บ้าน และราษฎรได้รับความเดือดร้อน รวม 168,608 คน 47,094 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 6 ราย ได้มอบเงินช่วยเหลือเป็นค่าจัดการศพเรียบร้อยแล้ว และด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 23,702 หลัง รวมมูลค่าในเบื้องต้นประมาณ 472,018,267.00 บาท ประกอบด้วย อ.บางเลน 34,462 คน 9,510 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 คน เนื่องจากจมน้ำ, บ้านเรือน 8,996 หลัง , อ.นครชัยศรี 41,211 คน 12,336 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 คน เนื่องจากถูกไฟฟ้าช็อตและจมน้ำ บ้านเรือน 8,325 หลัง, อ.สามพราน 22,183 คน 7,995 ครัวเรือน บ้านเรือน 831 หลัง, อ.ดอนตูม 1,674 คน 525 ครัวเรือน บ้านเรือน 307 หลัง, อ.กำแพงแสน 17,544 คน 4,670 ครัวเรือน บ้านเรือน 268 หลัง, อ.พุทธมณฑล 16,765 คน 2,487 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คน เนื่องจากถูกไฟฟ้าช็อต บ้านเรือน 3,831 หลัง และอ.เมืองนครปฐม 34,769 คน 9,571 ครัวเรือน บ้านเรือน 1,144 หลัง สำหรบด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ ที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ ถนน 441 สาย สะพาน 27 แห่ง วัด 72 แห่ง โรงเรียน 17 แห่ง สถานที่ราชการ 19 แห่ง และโรงงาน 9 แห่งในขณะนี้ที่ศูนย์พักพิงฯ ณ วันที่ 7 พย.54 มีผู้ประสบอุทกภัยอพยพเข้ามาอาศัยอยู่กันบ้างแล้วทั้งจังหวัด จำนวน 176 แห่ง รวมทั้งสิ้น 18,985 คน 1,886 ครัวเรือน ประกอบด้วยที่อ.นครปฐม 5 จุด มี 6,172 คน อ.สามพราน มี 11 จุด จำนวน 1,355 คน 579 ครัวเรือน อ.นครชัยศรีมี 27 จุด จำนวน 1,776 คน 180 ครัวเรือน อ.กำแพงแสนมี 3 จุด จำนวน 541 คน อ.บางเลน มี 116 จุด จำนวน 7,739 คน 814 ครัวเรือน อำเภอดอนตูม มี 7 จุด จำนวน 266 คน 36 ครัวเรือน และอ.พุทธมณฑลมี 7 จุด จำนวน 1,136 คน 277 ครัวเรือน ซึ่งรัฐบาลได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ครัวเรือนละ 5,000 บาท) เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2554 ประกอบด้วยอำเภอบางเลน มีผู้ที่ได้รับอนุมัติ 1,350 ครัวเรือน จ่ายแล้วจำนวน 1,316 ครัวเรือน คงเหลือ 34 ครัวเรือน, อำเภอนครชัยศรี มีผู้ที่ได้รับอนุมัติ 2,052 ครัวเรือน จ่ายแล้วจำนวน 2,027 ครัวเรือน คงเหลือ 25 ครัวเรือน และอำเภอสามพราน มีผู้ที่ได้รับอนุมัติ 83 ครัวเรือน จ่ายแล้วจำนวน 70 ครัวเรือน คงเหลือ 13 ครัวเรือน สำหรับผู้ที่ประสบภัยที่เหลือ จำนวน 72 ครัวเรือนยังมิได้ไปรับเงิน จังหวัดได้ประสานไปยังอำเภอให้แจ้งผู้ประสบภัยไปรับเงินที่ ธนาคารออมสินในพื้นที่แล้วปรากฏว่า ขณะนี้ ด้านการเกษตร มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 4 พฤศจิกายน 2554 จำนวน 7 อำเภอ เสียหายสะสมจำนวน 98,738.75 ไร่ เป็นข้าว 59,443 ไร่, พืชสวน 33,916.75 ไร่, พืชไร่ 5,379 ไร่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 10,693 ราย และด้านประมง ความเสียหายเบื้องต้นเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 3 พฤศจิกายน 2554 มี 7 อำเภอ คืออำเภอบางเลน เมืองฯ พุทธมณฑล นครชัยศรี สามพราน กำแพงแสน และดอนตูม ประกอบด้วย พื้นที่ปลาทุกชนิดในบ่อดิน/นาข้าว กุ้ง จำนวน 6.278.90 ไร่ 7,906 ตารางเมตร เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 998 ราย ประมาณการมูลค่าความเสียหาย 185,860,953 บาท ประมาณการวงเงินช่วยเหลือ 17,845,646 บาท
และทางด้าน นายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม รายงานว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 โดยพิจารณาจากสภาพน้ำท่าเป็นเกณฑ์ ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ช่วงตั้งแต่ อำเภอบางเลน-อำเภอสามพราน นอกจากนี้ในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครปฐม ก็มีน้ำท่วมขังอยู่ สภาพน้ำท่วมข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันที่ 5 พย.54 มีพื้นที่น้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 584,467 ไร่ สามารถแยกพื้นที่น้ำท่วมเป็นรายอำเภอได้ดังนี้ คือ อำเภอบางเลน จำนวน 323,548 ไร่, อำเภอดอนตูม จำนวน 52,130 ไร่, อำเภอกำแพงแสน จำนวน 64, 865 ไร่, อำเภอเมืองนครปฐม จำนวน 10,551 ไร่, อำเภอนครชัยศรี จำนวน 69,446 ไร่, อำเภอสามพราน จำนวน 27,324 ไร่, และอำเภอพุทธมณฑล จำนวน 36,603 ไร่ส่วนสถานการณ์น้ำ ในวันถัดไป(8 พ.ย.54) อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตรวจสอบแนวป้องกัน โดยพิจารณาจากข้อมูลระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำวัดได้ 3.88 เมตร สูงกว่าระดับตลิ่ง 88 เซนติเมตร (ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวันที่ 6 พย.54 1 เซนติเมตร) ปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่เกษตรด้านบน (ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด) ทำให้ระดับน้ำในคลองพระยาบันลือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งหรือแนวป้องกันที่เสริมใหม่อยู่ 32 เซนติเมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวานวันที่ 6 พย.54 2 เซนติเมตร (ระดับตลิ่งใหม่ครั้งที่ 3 เท่ากับ 4.30 เมตร) ขณะนี้มีการเปิดบานระบาย ที่ประตูระบายน้ำพระยาบันลือเพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีน และเปิดรับน้ำเข้าพื้นที่เกษตรฝั่งตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน บริเวณตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน ซึ่งจะส่งผลถึงอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑล
สำหรับสภาพน้ำท่าในแม่น้ำท่าจีน ที่จุดตรวจวัดระดับน้ำและปริมาณน้ำมี 4 จุดเมื่อวันที่ 7 พย.54 เวลา 05.00 น. คือ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง(T13) จังหวัดสุพรรณบุรี ระดับน้ำท่าจีน 3.88 เมตรจากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 88 เซนติเมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2554 ระดับน้ำลดลง 1 เซนติเมตร (เตือนภัย ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน สูงกว่าตลิ่งเกิดสภาวะน้ำท่วม) สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ สถานีวัดน้ำบางไทรป่า(T15) ระดับน้ำท่าจีน 3.37 เมตรจากระดับตลิ่ง 2.20 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.17 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2554 ระดับทรงตัว (เตือนภัย ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน สูงกว่าตลิ่งเกิดสภาวะน้ำท่วม) สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ สถานีวัดน้ำนครชัยศรี(T1) ระดับน้ำท่าจีน 2.76 เมตร จากระดับตลิ่ง 1.70 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.06 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2554 ระดับน้ำทรงตัว (เตือนภัย ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน สูงกว่าตลิ่งเกิดสภาวะน้ำท่วม) สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ และสถานีวัดน้ำบ้านตลาดสามพราน(T14) ระดับน้ำท่าจีน 4.16 เมตร จากระดับตลิ่ง 4.00 เมตร ระดับน้ำวันนี้(7 พย.54)สูงกว่าตลิ่ง 16 เซนติเมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2554 ระดับน้ำทรงตัว สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ (วันที่ 6 พย.54 เวลา 17.00 น. ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนสูงกว่าตลิ่ง 31 เซนติเมตร ทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วม)
ส่วนสภาพน้ำท่าในคลองสายสำคัญ ได้แก่
คลองพระยาบันลือ(G1) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 32 เซนติเมตร ระดับตลิ่งใหม่ครั้งที่ 3 เท่ากับ 4.30 เมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน วันที่ 6 พย.54 2 เซนติเมตร เปิดบานระบายด้านติดแม่น้ำท่าจีน 57.88 ลบ.ม./วินาที และเปิดบานประตูสถานีสูบน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณน้ำ 40.85 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองพระพิมล(G4) ระดับน้ำวันนี้(7 พ.ย.54)สูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 1.49 เมตร ระดับน้ำทรงตัว เปิดบานระบายด้านติดแม่น้ำท่าจีน 13.30 ลบ.ม./วินาที จึงต้องเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 6.00 ลบ.ม.ต่อวินาที มีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง อยู่ในเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด,
คลองมหาสวัสดิ์(G7) ระดับน้ำวันนี้(7 พ.ย.54)สูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 1.42 เมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน 1 เซนติเมตร มีการเปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน 13.31 ลบ.ม./วินาที และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 9.00 ลบ.ม.ต่อวินาที และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด, คลองบางภาษี(G5) ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.76 เมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน(6 พย.54) 1 เซนติเมตร ต้องเปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน 22.14 ลบ.ม./วินาที ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด, คลองลำพญา(G6) ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.55 เมตร ระดับน้ำทรงตัว ปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด, และคลองประชาศรัย(G3) ระดับน้ำวันนี้(7 พย.54) สูงกว่าตลิ่ง 1.28 เมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน(6 พย.54) 1 เซนติเมตร มีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง เปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน 6.68 ลบ.ม/วินาที อยู่ในเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
สรุปข้อมูลน้ำ ณ วันที่ 7 พย.54 พื้นที่น้ำท่วมขัง 574,467 ไร่ ปริมาณน้ำท่วมสะสม 1,159.58 ล้าน ลบ.ม. (ค่าความลึกเฉลี่ย 1.24 ม.)อ้างอิงภาพถ่ายดาวเทียม 5 พย.54
และปริมาณน้ำที่ไหลเข้าจังหวัดนครปฐมดังนี้
1. มาจาก ปตร.โพธิ์พระยา จ.สุพรรณบุรี ปริมาณน้ำ 26.28 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือ 304.20 ลบ.ม./วินาที
2. รับเข้าคลองพระยาบันลือ ปริมาณน้ำ 66.32 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือ 767.56 ลบ.ม./วินาที
3. มาจาก จ.นนทบุรี ปริมาณน้ำ 4.38 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือ 50.72 ลบ.ม./วินาที
4. ปริมาณน้ำ Side Flow จากลำน้ำ ปริมาณน้ำ 1.71 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือ 19.80 ลบ.ม./วินาที
สาขาและจากการสูบน้ำระบายออกจากพื้นที่ที่ท่วมขังรวมปริมาณน้ำที่ไหลเข้า จ.นฐ.ทั้งหมด ปริมาณน้ำ 98.69 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือ 1,142.28 ลบ.ม./วินาที
แต่น้ำไหลออกจาก จ.นฐ. ที่ อ.นครชัยศรี ปริมาณน้ำค่าเฉลี่ย 76.13 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือ 881.11 ลบ.ม./วินาทีสรุป ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าในพื้นที่มากกว่าปริมาณน้ำที่ไหลออกจากพื้นที่ จ.นฐ. จำนวน 22.57 ล้าน ลบ.ม./วัน
พื้นที่น้ำท่วมเพิ่มขึ้น 4,815 ไร่(เปรียบเทียบภาพถ่ายดาวเทียม 5 พย.54 กับ 4 พย.54)
อนึ่งในวันที่ 7 พย.54 การระบายน้ำจะมีผลกระทบในช่วงน้ำทะเลหนุน ซึ่งเวลาน้ำทะเลหนุนสูง เวลา 17.00 น.น้ำขึ้นที่บริเวณอำเภอสามพราน และเวลา 03.00 น.ของวันที่ 8 พย.54 น้ำขึ้นที่บริเวณอำเภอนครชัยศรี
สำหรับการให้ความช่วยเหลือ หน่วยงานในจังหวัดนครปฐมได้เข้ามาดูแลและระดมให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในหลายๆ ด้านเป็นการเบื้องต้นด้วยความเร่งด่วนแล้ว และได้จัดหาอาหาร, ยาเวชภัณฑ์ และถุงยังชีพนำไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัยที่บริเวณศูนย์พักพิงต่างๆ แล้ว นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ และจัดทำอาหารแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยอีกด้วย ในส่วนด้านกำลังพล ได้มีการจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยและสนับสนุนกำลังพลช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ติดต่อขอกำลังพลเพื่อให้ความช่วยเหลือได้ที่โรงเรียนการบิน กำแพงแสน หมายเลขโทรศัพท์ 0-3499 6502 และ 0-2155 7206, กรมการสัตว์ทหารบก(ศบภ.กส.ทบ.) ผู้ประสานงาน พ.อ.วิสุทธิ์ โทร.083-1983827 ร่วมกับกรมทหารราบที่ 19 พัน 3 ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี(ศบภ.ร.19 พัน 3) โทรศัพท์ 0-3427-1153-5 ต่อ 50523.5 และ ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม
หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย จังหวัดนครปฐม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม โทรศัพท์ 0-3434-0230,0-3434-0000, 0-3434-0334, 0-3434-0158 และ E-mail:dpm_npt@yahoo.com, paladtai@yahoo.com,oatfuture@hotmail.com Website:http://61.19.100.58/npt/anewweb/indexoold.php
การประชุมศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ของจังหวัดนครปฐม
วันนี้(7 พ.ย.54) เวลา 09.00 น. นายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ ประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัด โดยมี ร.ต.พงศธร ศิริสาคร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ สำหรับสถานการณ์น้ำวันนี้ (7 พ.ย. 2554 เวลา 06.00 น.) ระดับน้ำค่อนข้างทรงตัว ปริมาณน้ำไหลเข้าในพื้นที่มีมากกว่าปริมาณน้ำที่ระบายออก 22.57 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน (ปริมาณน้ำส่วนเกินลดลงจากเมื่อวานนี้ 4.16 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน) มีพื้นที่น้ำท่วมขัง 584,467 ไร่ (พื้นที่น้ำท่วมลดลง 4,815ไร่) ปริมาณน้ำท่วมสะสม 1,159.58 ล้าน ลบ.ม. (ค่าความลึกเฉลี่ย 1.24 ม.) จากการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ โดยภาพรวมคาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จะไม่รุนแรงไปมากกว่านี้ และในขณะนี้ กรมชลประทาน และกรมเจ้าท่าจะเริ่มเดินเครื่องผลักดันน้ำและเรือผลักดันน้ำพร้อมกับ โดยเดินเครื่องผลักดันน้ำที่สะพานสำโรง-ลานตากฟ้า, สะพานรวมเมฆ และใช้เรือผลักดันน้ำ 6 จุด ได้แก่ ต.ทรงคนอง จำนวน 5 ลำ, คลองลัดนางแท่น จำนวน 2 ลำ, สะพานโพธิ์แก้ว จำนวน 3 ลำ, คลองลัดท่าคา จำนวน 4 ลำ, สะพานวัดเทียนดัด จำนวน 5 ลำ และสะพานวัดท่าไม้ จำนวน 5 ลำ โดยในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 จะเริ่มเดินเครื่องในเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป นอกจากนี้หากผู้ใดพบเห็นจระเข้ ขอความร่วมมือให้แจ้งรายละเอียดของสถานที่และเวลาที่พบด้วย ติดต่อได้ที่คุณมงคล ขาวเงิน มือถือ 082-8736181 ในส่วนของการรับบริจาคผู้สนใจบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ประเภทบัญชีออมทรัพย์ สาขานครปฐม หมายเลขบัญชี701-0-88938-4 ชื่อบัญชี “บริจาคช่วยเหลือน้ำท่วมจังหวัดนครปฐม” และที่สำนักงานคลังจังหวัดนครปฐม ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม ต.ถนนขาด อ.เมือง จังหวัดนครปฐม หมายเลขโทรศัพท์ 0-3434-0007-8
สำหรับการประชุมครั้งต่อไปศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดนครปฐม งดการประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ ตั้งแต่วันอังคารที่ 8 พ.ย. 2554 เป็นต้นไป เนื่องมาจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลดระดับความรุนแรงลงแล้ว ระดับน้ำค่อนข้างทรงตัว และเริ่มเข้าสู่สภาวะที่ปกติ อย่างไรก็ตาม ให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการในเรื่องที่ได้รับมอบหมายอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อเป็นการเตรียมการในช่วงฟื้นฟู บูรณะหลังน้ำลด ทั้งนี้ หากมีการประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ ศปภ.นครปฐม จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
ฝากข่าวสารของหน่วยงานที่ให้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มีต้องการเครื่องอุปโภค บริโภค อาทิ ยารักษาโรค อุปกรณ์ในการปรุงอาหาร ของใช้เด็กอ่อน และของใช้จำเป็นสำหรับผู้ประสบภัยที่เข้ามาพัก ผู้ที่ประสงค์จะมอบสิ่งของต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ ผู้ประสานงาน ผศ.ดร.เกศินี ประทุมสุวรรณ มือถือ 08-1556-7944, มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ เปิดศูนย์พักพิงมหาวิทยาลัยศิลปากร โทรศัพท์ 034-255090, 034-255-792, 034-253-840-4 ต่อ 22222, 22050, 22051 ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือประสบภัยน้ำท่วม อาคาร 36 ปี คณะอักษรศาสตร์ โทรศัพท์034-270-222, 034-253-840 ต่อ 23405, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ประสบภัยน้ำท่วม ณ อาคารยิมเนเซียม 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ท่านสามารถติดต่อศูนย์ประสานงานและลงทะเบียนได้ที่ หมายเลข HOT LINE 034-355-570, 034-351-286, 034-351-838, 034-351-839 และคณะสัตว์แพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน รับบริจาคเงินค่าอาหารสัตว์โดยสามารถโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารชื่อ “กองทุนสัตวแพทย์เกษตรศาสตร์” ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลขที่บัญชี 3741-4-3829-7 ผู้ประสานงานเรื่องการช่วยเหลือด้านสัตว์ ศูนย์ประสานงานสุนัขและแมวที่หมายเลข 087-1608059 /
น.สพ.ดร.พรชัย สัญฐิติเสรี หมายเลข 084-1655647 หรือ โรงพยาบาลสัตว์กำแพงแสนที่หมายเลข 087-1608057 กรณีสัตว์ใหญ่ ผู้อำนวยการสถาบันสุวรรณวาจกกสิกิจ 081-7231427รับนิสิตอาสาจำนวนมาก เพื่อทำหน้าที่ดูแลสัตว์และให้อาหารสัตว์ เก็บมูลสัตว์เลี้ยง อาบน้ำสุนัข และจูงสุนัขเดิน ออกกำลังกาย ติดต่อ อ.นุกูล เหลืองน้ำเพ็ชร เบอร์มือถือ 085-4052714, วัดทุ่งน้อยสามัคคี อ.เมืองฯ จ.นครปฐม (ห่างจากตัวเมืองเป็นระยะทาง 4 กม.) มีความยินดีต้องการเป็นจุดพักพิงสำหรับผู้ประสบอุทกภัย โดยวัดมีสถานที่รองรับผู้อพยพจำนวน 1,000 คน และสถานที่จอดรถ 500 คัน รวมทั้งมีอาหาร (เครื่องอุปโภคบริโภค) น้ำฯลฯ ไว้พร้อมต้อนรับผู้อพยพ ติดต่อได้ที่เบอร์มือถือ 081-3999784, ศูนย์พักพิงแรงงานต่างด้าว ณ วัดไร่ขิงอ.สามพราน จ.นครปฐม สามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่เบอร์โทรศัพท์มือถือ 080-8200445-9
รายงานเส้นทางหลวงที่ถูกน้ำท่วมขังในความรับผิดชอบของแขวงการทางฯ ดังนี้
แขวงการทางนครปฐม โทรศัพท์ 034-258856 คือเส้นทางหลวง
1. ทางหลวงหมายเลข 346 สายทางแยกลาดหลุมแก้ว-บางเลน ท้องที่อำเภอบางลน ที่ กม.44-51 น้ำท่วมเป็นแห่งๆ ระดับสูง 40-70 ซม. รถผ่านไม่ได้และไม่มีสายทางทดแทน
2. ทางหลวงหมายเลข 3094 สายทางแยกเข้านครชัยศรี ท้องที่อำเภอบางกระเบาที่ กม.0-2 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม. รถผ่านได้
3. ทางหลวงหมายเลข 3097 สายทางพระประโทน-บ้านบ่อ ท้องที่อำเภอนครชัยศรี ที่ กม. 35-36 ระดับน้ำสูง 10 ซม. รถผ่านได้
4. ทางหลวงหมายเลข 3233 สายนครชัยศรี-วัดสามง่าม ท้องที่อำเภอบางเลน ที่กม. 1-13 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม. รถผ่านได้
4. ทางหลวงหมายเลข 3296 สายทางวัดสามง่าม-บางเลน ท้องที่อำเภอบางเลน ที่ กม.7-12 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม. รถผ่านได้
5. ทางหลวงหมายเลข 3316 สายสามพราน-วัดไร่ขิง ท้องที่อำเภอสามพราน ที่ กม. 8-9 ระดับน้ำสูง 10 ซม. รถผ่านได้
5. ทางหลวงหมายเลข 3351 สายทางบางเลน-สุพรรณบุรี ท้องที่อำเภอบางเลน ที่ กม. 3-17 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 10-20 ซม. รถผ่านได้
แขวงการทางสมุทรสาคร โทรศัพท์ 034-311040 คือเส้นทางหลวง
1. ทางหลวงหมายเลข 338 สายทางสามพราน-นครชัยศรี ท้องที่อำเอสามพราน ที่ กม.22-23 ระดับน้ำสูง 40-60 ซม. ใช้สาย 4 เพชรเกษม (นครชัยศรี-กรุงเทพ) รถผ่านได้
2. ทางหลวงหมายเลข 3310 สายทางอ้อมน้อย-พุทธมณฑล ท้องที่อำเภอพุทธมณฑล ที่ กม. 9-10 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 40-50 ซม. รพผ่านไม่ได้และไม่มีเส้นทางทดแทน
3. ทางหลวงหมายเลข 3414 สายทางอ้อมน้อย-เขตการรถไฟ ท้องที่อำเภอพุทธมณฑล ที่ กม. 8-10 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 30-100 ซม. รถผ่านไม่ได้และไม่มีเส้นทางทดแทน
แขวงการทางกาญจนบุรี-สุพรรณบุรีที่ 2 โทรศัพท์ 034-552000 คือเส้นทางหลวง
1. ทางหลวงหมายเลข 3422 สายทางบัวปากท่า-สองพี่น้อง ท้องที่อำเภอบางเลน ที่ กม. 12-22 เป็นแห่งๆ ระดับน้ำสูง 25 ซม. รถผ่านได้
และหากต้องการทราบเส้นทางเลี่ยงภาคเหนือ สอบถามได้ที่ Call Center 1586 โทร.02-3546551 , 02-3546668-76 ต่อ 2014 โทรสาร 02-6645522
น้ำท่วมสวนส้มโอ
สวนส้มโอนครปฐม อาจได้รับผลกระทบกว่า 5 พันล้านบาท หากน้ำไม่ลดภายใน 15 วัน
จังหวัดนครปฐม มีพื้นที่ปลูกส้มโอ ประมาณ 4,500 ไร่ สร้างรายได้ให้เกษตรชาวสวนไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทต่อปี ขณะนี้ได้ประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก หากน้ำท่วมขังเกิน 15 วันอาจส่งผลให้พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท
(วันนี้ 4 พย.54) พื้นที่เกษตรกรชาวสวนส้มโอ 4 ตำบล ของอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ประกอบด้วย ตำบลไร่ขิง ทรงคะนอง หอมเกร็ด และตำบลบางเตย ประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก โดยน้ำจากแม่น้ำท่าจีนได้ไหลบ่าท่วมขังตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาระดับน้ำในสวนสูง 2 เมตร หากน้ำท่วมขังเกิน 15 วัน รากส้มโอจะเน่าเปื่อยและต้นจะตายในที่สุด ซึ่งส่งผลกระทบในระยะยาวทำให้เกษตรกรที่ปลูกส้มโอในพื้นที่จังหวัดนครปฐมจะได้รับความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากส้มโอมีอายุในการเก็บเกี่ยวผลผลิตยาวนานถึง 25 ปี หากมีการปลูกใหม่ต้องใช้เวลา 4 ปี ถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และสิ่งที่สำคัญเกษตรกรไม่สามารถหาสายพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพได้ดังเดิม เนื่องจากส้มโอนครชัยศรี เป็นผลไม้ที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และมีชื่อเสียงมาช้านาน โดยปลูกกันมากในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี สามพราน และอำเภอพุทธมณฑล ซึ่งสายพันธุ์ส้มโอที่ปลูกในพื้นที่ของจังหวัดนครปฐม ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ นับเป็นการประกันถึงรสชาติและถิ่นกำเนิดได้เป็นอย่างดี อาจสูญเสียสายพันธุ์และแหล่งผลิตส้มโอนครชัยศรีที่มีชื่อเสียงมาช้านาน
ครัวพระราชทาน
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) รับพระบรมราชานุญาตตั้งโรงครัวพระราชทาน ที่หวัดนครปฐม
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ของจังหวัดนครปฐม
วันนี้ (๔ พ.ย. ๕๔) ที่วิทยาลัยเทคนิคนครปฐม นายนิมิต จันทน์วิมล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายอเนก บุญหนุน รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วย พลตรีบุญสันติ แสนสวัสดิ์ เจ้ากรมการสัตว์ทหารบก และ พันเอกมนตรี ช้างพลายแก้ว รองผู้บัญชาการ กองพลทหารราบที่ ๙ ร่วมเป็นประธานเปิดโรงครัวพระราชทานในนามมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัทฑ์ เพื่อทำการปรุงอาหารสดทุกวัน ๆละ ๕,ooo – ๑o,ooo กล่อง เพื่อออกแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ของจังหวัดนครปฐม โดยเริ่มดำเนินการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ในจังหวัดนครปฐมเป็นแห่งแรก ซึ่งจะใช้พื้นที่บริเวณ วิทยาลัยเทคนิคนครปฐม เป็นศูนย์กลางการดำเนินการปรุงอาหารสดและเป็นจุดหลักในการกระจายอาหารแจกจ่าย ไปยังผู้ประสบภัยหลายแห่ง โดยมีกำลังพลจากกองพันทหารราบที่๙ เป็นผู้นำอาหารออกแจกจ่ายประชาชนผู้ประสบภัยทุกพื้นที่ของจังหวัดนครปฐมจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะลดลง
จังหวัดนครปฐมเปิดงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ประจำปี ๒๕๕๔ ๗-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ รวม ๙ วัน ๙ คืน
วันนี้ (๗ พ.ย. ๕๔) สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายนิมิต จันทน์ วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เปิดงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ประจำปี ๒๕๕๔ ระหว่างวันที่ ๗-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ที่บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม สืบเนื่องจากองค์พระปฐมเจดีย์ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งเป็นศูนย์รวมแห่งสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นดินแดนของพระพุทธศาสนาแห่งแรกในประเทศไทย สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช นับเป็นพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกอายุนับพันปี สร้างขึ้นสูงใหญ่งดงามตามแบบสถาปัตยกรรม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศานิกชนทั่วโลก ได้ทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา แต่โบราณจึงได้กำหนดให้มีงานเทศกาลองค์พระปฐมเจดีย์ขึ้นปีละครั้งในวันเพ็ญเดือนสิบสอง พุทธศาสนิกชนต่างนัดหมายกันมากราบไหว้บูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนและแก้วแหวนเงินทอง เพื่อจะได้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ประหนึ่งมาเฝ้าอยู่เบื้องพระยุคลบาทแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงนับว่าเป็นบุญลาภอันประเสริฐสุด ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 4 ได้บูรณะปฏิสังขรณ์ ครั้งใหญ่โดยสร้างครอบองค์ที่ 1 ที่ 2 ของเดิมไว้เมื่อปี พ.ศ. 2396 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น