จากสถานการณ์น้ำที่ถูกปล่อยมาจากประตูระบายน้ำศาลาธรรมสพ กรุงเทพมหานคร ทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านสินสมบูรณ์ หมู่ที่ 10 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 ซึ่งในขณะนี้เวลาก็ผ่านมาหนึ่งวันเต็มแล้วนั้น ปรากฏว่า ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีความสูงกว่า 1 เมตรแล้ว และตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงวันนี้ตลอดทั้งวัน ชาวบ้านในหมู่บ้านสินสมบูรณ์ก็ได้ขนย้ายของออกมากันอย่างทุลักทุเล ต้องใช้เรือค่อยๆขนย้ายทรัพย์สิน ผู้สูงอายุ เด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงออกมาหน้าหมู่บ้าน เพื่อมาขึ้นรถทหารที่จอดรออยู่หน้าหมู่บ้านแล้วเดินทางไปยังศูนย์พักพิงผู้อพยพโรงเรียนวัดศรีสำราญฯ และวัดอ้อมน้อย โดยที่วัดอ้อมน้อยนั้นทางเทศบาลนครอ้อมน้อย ได้จัดให้เป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เนื่องจากมีแพทย์ พยาบาล ประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงและมีห้องน้ำสะดวกสบาย ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันนี้นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและคณะ ได้เดินทางมาที่สำนักงานเทศบาลนครอ้อมน้อย เพื่อรับฟังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านสินสมบูรณ์ โดยนายสมศักดิ์ ขวัญเมือง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอ้อมน้อยและนายสกล เหลืองไพฑูรย์ ปลัดเทศบาลฯ เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสภาพของหมู่บ้านสินสมบูรณ์นั้น เป็นหมู่บ้านรอยต่อกับอำเภอกระทุ่มล้ม จังหวัดนครปฐม และยังเป็นหมู่บ้านแรกที่ต้องรับน้ำที่เอ่อล้นมาตามถนนพุทธมณฑลสาย 4 อีกทั้งพื้นที่ของหมู่บ้านก็มีลักษณะเป็นพื้นที่ต่ำกว่าถนนพุทธมณฑล และไม่มีคลองระบายน้ำออกเพื่อใช้เป็นทางเดินของน้ำ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังสูงได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีชุมชนที่ได้รับผลกระทบอีก 2 แห่ง คือ ชุมชนกำนันวิจิตร กับ ชุมชนผู้ใหญ่แอ้นบางส่วน รวมแล้วมีผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมขณะนี้ไม่น้อยกว่า 800 ครัวเรือน ซึ่งได้อพยพคนออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมโรงเรียนวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุงแล้วกว่า 100 คน และที่ศูนย์พักพิงโรงเรียนอนุบาลเก่าภายในหมู่บ้านสินสมบูรณ์อีกกว่า300 คน แต่บางคนเมื่ออพยพออกมาได้ก็ไปอาศัยอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด เช่น ที่จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นต้น ส่วนเรื่องของอาหารการกินนั้นขณะนี้ทางเทศบาลนครอ้อมน้อย ได้จัดครัวสำหรับทำอาหารสำเร็จรูปไปส่งให้ทั้งผู้ที่มาอยู่ที่ศูนย์พักพิงฯ และที่ยังอยู่ภายในหมู่บ้าน แต่ปัญหาที่พบก็คือเรื่องของอาหารอ่อนสำหรับเด็กเล็กด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้สั่งกำชับให้นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อยเร่งสำรวจจำนวนคนที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในหมู่บ้านและประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนที่ยังอยู่ภายในนั้นอพยพออกมาให้หมด เพื่อความสะดวกในการดูแลและการให้ความช่วยเหลือ ขณะที่เรื่องของการแก้สถานการณ์วิกฤตินี้ เบื้องต้นทางจังหวัดสมุทรสาครจะได้นำเครื่องสูบน้ำที่จัดซื้อให้เทศบาลนครสมุทรสาครนั้น ย้ายมาติดตั้งที่หมู่บ้านสินสมบูรณ์เทศบาลนครอ้อมน้อยก่อน เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ ซึ่งทางเทศบาลนครอ้อมน้อย ก็จะต้องหาเส้นทางที่จะปล่อยน้ำลงสู่คลองซอยเพื่อผันน้ำลงไปยังคลองภาษีเจริญอีกทอดหนึ่ง และจะได้นำถุงยังชีพ พร้อมน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่วนเรื่องของเรือพายนั้นทางจังหวัดจะเร่งจัดหามาให้เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่จำเป็นต้องใช้ในการอพยพย้ายทรัพย์สินออกมาอยู่นอกหมู่บ้านทั้งนี้หลังจากที่รับฟังสถานการณ์โดยรวมแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและคณะก็ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงที่โรงเรียนวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุงและที่ศูนย์พักพิงโรงเรียนอนุบาลเก่าหมู่บ้านสินสมบูรณ์ พร้อมกับมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัยทั้งสองแห่ง ซึ่งการเข้าไปที่ศูนย์พักพิงของโรงเรียนอนุบาลเก่าภายในหมู่บ้านสินสมบูรณ์นั้น จะต้องนั่งเรือหรือนั่งรถของทหารเข้าไปเท่านั้น เพราะระดับน้ำสูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสภาพของแต่ละศูนย์พักพิง ก็มีทั้งเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้อาศัยอยู่ บางคนเมื่อเห็นผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ที่มาเยี่ยม ก็ถึงกับร้องไห้บอกว่าน้ำทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทันขนย้ายข้าวของมาได้แต่เสื้อผ้า กับทะเบียนบ้านเท่านั้น แต่บางคนก็บอกว่า ไม่รู้สึกหนักใจอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งก็มั่นใจว่าภัยธรรมชาติครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่นานเดี๋ยวก็หายไป แล้วทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติส่วนสภาพถนนนั้น ขณะนี้พบว่าน้ำได้เอ่อล้นมาจนถึงแยกสาครเกษม ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 4 กับ ถนนเพชรเกษมและถนนพุทธสาครแล้ว แต่ยังไม่ข้ามเกาะกลางถนนมายังอีกฝั่งหนึ่ง
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายอำเภอกระทุ่มแบบ สส. นายก อบจ.นายกเทศมนตรี ร่วมประชุมด่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหมู่บ้านสินสมบูรณ์ จำนวน 700 ครอบครัว อย่างเร่งด่วน ณ สนง.เทศบาลนครอ้อมน้อย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น