pearleus

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข่าว เพชรบูรณ์



จับรีสอร์ทเพ่มอีก3ราย
      กำลังทหารชุดศูนย์อำนวยการประสานงานการแก้ไขปัญหาโครงการลุ่มน้ำเข็ก กองทัพภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ นำโดยนายมานพ สายอุ่นใจ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤติป่าไม้ของชาติ ที่ 2 พิษณุโลก บุกจับรีสอร์ทหรู หมู่ที่ 1 บ้านเสลี่ยงแห้งสาม ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดย ได้เข้าตรวจค้นจับรีสอร์ท ภูผาชาละวัน แต่ไม่พบเจ้าของหรือผู้อาศัยแต่อย่างใด จึงได้ทำการตรวจสอบและส่งสำนวน ให้กับเจ้าหน้าตำรวจดำเนินคดีต่อไป จากการสอบปากคำจาก นายเทพ สองสี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.หนองแม่นา ได้ความว่า รีสอร์ทแห่งนี้เป็นนายทุนมาจากจังหวัดพิจิตร บุกรุกเขตป่าสงวน เพื่อสร้างเป็นรีสอร์ท รองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านได้เคยร้องเรียนไปยังอำเภอเขาค้อและจังหวัดเพชรบูรณ์แล้ว ทราบว่าเรื่องอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
ต่อมาชุดจับกุมได้เข้าตรวจสอบ รีสอร์ทหรู อีกสองแห่ง หมู่ที่ 5 บ้านปัญญาดี ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ผู้ต้องหา 1 คน นายอำนวย อาภรณ์  เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรีสอร์ท พร้อมให้การว่าเป็นรีสอร์ทของ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์
 ส่วนรีสอร์ทอีกแห่งใกล้กันไม่พบผู้ใดเป็นเจ้าของ ซึ่งนายฉัตรชัย  ฉัตรธรรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ระบุว่า ที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินของราษฎรอาสา (รอส.) แต่ตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนมือไปเป็นของนายทุนแล้ว
ด้านนายมานพ สายอุ่นใจ หัวชุดศูนย์ปฏิบัติการยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤติป่าไม้ของชาติที่ 2 พิษณุโลก กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ประกอบการรีสอร์ทดังกล่าว เป็นนโยบายจากรัฐบาล ให้ดำเนินการอย่างเข้มงวดกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่า ภายใต้กรอบของความเที่ยงธรรม ทั้งนี้เห็นว่าปัจจุบันป่าไม้และพื้นที่สาธารณะถูกบุกรุกจำนวนมาก หากปล่อยให้มีการดำเนินการอย่างนี้ต่อไป จะเกิดการเอาอย่าง จนไม่สามารถควบคุมได้ จึงอยากให้ผู้ประกอบการรีสอร์ทต่างๆเข้าใจ ซึ่งยืนยันว่า จะดำเนินการตามนโยบายต่อไป โดยไม่มีการกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน ส่วนมาตรการต่อไปนั้น หากเจ้าของสถานประกอบการไม่มาแสดงตน หรือชี้แจงก็จะส่งเรื่องให้ทหาร ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่อง ทำการเพิกถอนสิทธิการครอบครอง และฟ้องร้องตามกระบวนการต่อไป ส่วนพื้นที่รีสอร์ทก็จะนำป้ายไปติด สั่งห้ามดำเนินการใดๆจนกว่าคดีจะสิ้นสุด

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น