pearleus

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข่าวนครปฐม...สุชาดา พรหมจำรัส/สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม/รายงาน

 รองผวจ.นครปฐมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุกภัย
จังหวัดนครปฐมในพื้นที่อำเภอบางเลน น้ำจากคลองเอ่อล้นทะลักพื้นที่ไร่นา และบ้านเรือนสูงประมาณ ๑ เมตร ทำให้ราษฎรต้องอพยพขึ้นมาอาศัยอยู่บริเวณริมถนน
เมื่อ ๑๙ ต.ค. ๕๔นายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการตรวจเยี่ยมให้กำลังราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หมู่ที่ ๒ ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน ซึ่งมีประชาชนกว่า ๒๐ ครัวเรือน ๑๒๐ คนต้องอพยพหนีน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งจากคลองพระพิมลเข้าท่วมบ้านเรือน  มาอาศัยอยู่บริเวณสะพานบางภาษีต่อจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางไปให้กำลังใจราษฎร หมู่ที่ ๙ ตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน ที่อพยพมาอาศัยอยู่บริเวณริมถนนลาดบัวหลวง-วัดไผ่โรงวัว ประมาณ ๕๐ ครอบครัว ๑๕๐ คน และคาดว่าจะมีราษฎรทยอยอพยพขึ้นมาอีก เนื่องจากน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ไร่นาสูงประมาณ ๑ เมตร จากคลองญี่ปุ่นใต้ที่เชื่อมมาจากคลองพระยาบรรลือ จากการสอบถามราษฎรนั้นมีความต้องการเรือเพื่อใช้ในการสัญจรขนส่งอาหาร และอุปกรณ์ยังชีพ
รมว.แรงงานมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
       นายนิมิต  จันทน์วิมล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม  ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยจังหวัดนครปฐม  แจ้งว่า นายเผดิมชัย  สะสมทรัพย์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  เดินทางมาเป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ครัวเรือนละ 5,000 บาท)  ในวันพรุ่งนี้(19 ตุลาคม 2554)เวลา 10.00 น. มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอบางเลน จำนวน 1,332 ราย  ณ  หอประชุมที่ว่าการอำเภอบางเลน   และเวลา 11.00 น. มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี จำนวน 2,040 ราย และอำเภอสามพราน จำนวน 72 ราย  รวมทั้งสิ้น 2,112 ราย    วัดบางพระ(หลวงพ่อเปิ่น)  อำเภอนครชัยศรี  จังหวัดนครปฐม
นายอำเภอพุทธมณฑล แจ้งผู้นำชุมชนเร่งทำแนวกั้นน้ำ และเก็บของเตรียมพร้อมอพยพภายใน 24 ชม. คาดน้ำสูงอีก 1 เมตร
          18 ตุลาคม 2554 มีรายงานว่า นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม สั่งให้เจ้าหน้าที่ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนว่าให้แจ้งประชาชนว่า น้ำอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 1 เมตร ภายใน 24 ชั่วโมงนี้ จึงขอให้ประชาชนเร่งทำแนวป้องกัน และเตรียมเก็บข้าวของพร้อมอพยพไปยังศูนย์ที่เตรียมไว้หากน้ำขึ้นสูงจนไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้
สำหรับศูนย์อพยพของอำเภอพุทธมณฑล จัดไว้ 2 แห่ง คือ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ตำบาลศาลายา รองรับได้ 1,000 คน และรถอีก 400 คัน โทร. 084-662-6298 และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตำบลศาลายา รองรับได้ 500 คน และรถ 400 คัน โทร.086-880-7238 
 โครงการชลประทานนครปฐมสรุปรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
ประจำวันที่ 19 ตุลาคม 2554 นายมรกต  คงทน  ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม  ได้รับแจ้งจาก  นายชูชาติ  รักจิตร  ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม  รายงานว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2554  โดยพิจารณาจากสภาพน้ำท่าเป็นเกณฑ์  ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ช่วงตั้งแต่ อำเภอบางเลน-อำเภอสามพราน   นอกจากนี้ในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครปฐม ก็มีน้ำท่วมขังอยู่  ซึ่งได้รับแจ้งจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางเลนและพระพิมล  ว่ามีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่เกษตร/เขตชุมชนบางส่วน ประกอบด้วยอำเภอบางเลนที่ ต.บางไทรป่า, ไทรงาม, หินมูล, ไผ่หูช้าง, ดอนตูม, บางปลา, บางหลวง, ต.บางภาษี, บางเลน  ส่วนอำเภอดอนตูมที่ ต.สามง่าม   อำเภอกำแพงแสนที่ ต.ทุ่งบัว, ต.สระพัฒนา, ต.ดอนข่อย, ต.สระสี่มุม, และอำเภอนครชัยศรี ที่บริเวณพื้นที่ชุมชนริมน้ำส่วนสถานการณ์น้ำ ในวันถัดไป(20 ต.ค.54)  อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตรวจสอบแนวป้องกัน โดยพิจารณาจากข้อมูลระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำวัดได้ 3.49 เมตร สูงกว่าระดับตลิ่ง 49 เซนติเมตร (ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 18 ต.ค.54  6 ซม.) และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตร ในเขต อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กำลังไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่เกษตรด้านบน (ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด) ทำให้ระดับน้ำในคลองพระยาบันลือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งหรือแนวป้องกันที่เสริมใหม่อยู่ 41 เซนติเมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 18 ตค.54    12 เซนติเมตร  (ระดับตลิ่งใหม่ครั้งที่ 2 เท่ากับ 4.00 เมตร)  และได้มีการเปิดบานระบาย เพื่อรับน้ำเข้าพื้น ที่เกษตรฝั่งซ้ายของแม่น้ำท่าจีน บริเวณตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน ซึ่งจะส่งผลถึงอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑล สำหรับสภาพน้ำท่าในแม่น้ำท่าจีน  ที่จุดตรวจวัดระดับน้ำและปริมาณน้ำมี 4 จุดเมื่อวันที่ 19 ต.ค.54 เวลา 06.00 น. คือที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง(T13) จังหวัดสุพรรณบุรีระดับน้ำท่าจีน 3.49 เมตรจากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร  เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 49 เซนติเมตร  เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 6 เซนติเมตร(เตือนภัย ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน สูงกว่าตลิ่งเกิดสภาวะน้ำท่วม) สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ   สถานีวัดน้ำบางไทรป่า(T15) ระดับน้ำท่าจีน 2.78 เมตรจากระดับตลิ่ง 2.20เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 58 เซนติเมตร  เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร(เตือนภัย ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน สูงกว่าตลิ่งเกิดสภาวะน้ำท่วม) สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำสถานีวัดน้ำนครชัยศรี(T1) ระดับน้ำท่าจีน 2.21 เมตร จากระดับตลิ่ง 1.70 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 51 เซนติเมตร  เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2554 ลดลง 2 เซนติเมตร (เตือนภัย ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน สูงกว่าตลิ่งเกิดสภาวะน้ำท่วม) สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ   และสถานีวัดน้ำสามพราน(T14) ระดับน้ำท่าจีน 3.59  เมตร จากระดับตลิ่ง 4.00เมตร  เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 41 เซนติเมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2554  เพิ่มขึ้น 5 เซนติเมตร  สถานการณ์ยังเฝ้าระวังอยู่  ส่วนสภาพน้ำท่าในคลองสายสำคัญ ได้แก่คลองพระยาบันลือ(G1) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 41 เซนติเมตร ระดับตลิ่งใหม่ครั้งที่ 2 เท่ากับ 4.00 เมตร  เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 18 ต.ค.54  เพิ่มขึ้น 12 เซนติเมตร ปิดบานระบายด้านติดแม่น้ำท่าจีนสูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณน้ำ 16.80 ลบ.ม.ต่อวินาที,  คลองพระพิมล(G4)  มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม  ทำให้ระดับน้ำวันนี้(19 ตค.54)สูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 67 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 18 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 4 เซนติเมตร  จึงต้องเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 22.13 ลบ.ม.ต่อวินาที และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด,   คลองมหาสวัสดิ์(G7)  มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม  ทำให้ระดับน้ำวันนี้(19ตค.54)สูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 52 เซนติเมตร  เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 18 ต.ค.54  เพิ่มขึ้น 3 เซนติเมตร  มีการปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 13.75 ลบ.ม.ต่อวินาที และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด  คลองบางภาษี(G5)  ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.10 เซนติเมตร  เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 18 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 7 เซนติเมตร  ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง  ต้องปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 18.00 ลบ.ม.ต่อวินาที คลองลำพญา(G6)  มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม  ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 74 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 18 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 4 เซนติเมตร ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง  จึงต้องปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 2.00 ลบ.ม.ต่อวินาที  และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด  และคลองประชาศรัย(G3)  มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม  ระดับน้ำวันนี้(19 ตค.54) สูงกว่าตลิ่ง 77 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 18 ต.ค.54 ระดับน้ำทรงตัว  ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่งเช่นกัน  จึงต้องปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 2.40 ลบ.ม.ต่อวินาที  และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้ชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังเฉพาะจุดในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จำนวน 11 เครื่อง และได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่สะพานสำโรง-ลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี  จังหวัดนครปฐม จำนวน 18 เครื่อง สลับหมุนเวียนเดินเครื่องครั้งละ 14 เครื่อง, ที่คลองลัดงิ้วราย  ไทยาวาส อำเภอนครชัยศรี จำนวน 2 เครื่อง เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำท่าจีนให้ไหลลงสู่ทะเลให้เร็วขึ้น  สามารถติดตามข้อมูลรายละเอียดสถานการณ์น้ำประจะวันได้ที่ http:88ridceo.rid.go.th/nkpathom/index1.php

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น