ผู้ว่าฯมหาชัย ย้ำเตือนประชาชนมีสติ อย่าตื่นตระหนกข่าวลือน้ำท่วมสมุทรสาคร
นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์, นายอภิชาติ โตดิลกเวช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, นายไพศาล สำราญทรัพย์ ปลัดจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครอย่างต่อเนื่อง จากการประกาศเตือน ฉบับที่ 4 ของ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) ให้ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร นนทบุรี และ กรุงเทพฯ เตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสาคร ในอำเภอเมือง อำเภอบ้านแพ้ว อำเภอกระทุ่มแบน แจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมขนสิ่งของมีค่าไว้ในที่สูง เนื่องจากมีปริมาณน้ำจำนวนมากผ่าน 30-50 เซนติเมตร นั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประชุมชี้แจงและทำความเข้าใจกับข่าวที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกภาคส่วนได้กลับไปทำความเข้าใจ อธิบายพร้อมชี้แจงให้ประชาชนทราบสถานการณ์น้ำภายในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสาครว่า ขณะนี้สมุทรสาครยังไม่มีพื้นทีใดประสบปัญหาอุทกภัย สถานการณ์น้ำยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ หากมีกระแสน้ำระบายมาจากตอนบน จังหวัดสมุทรสาครได้เตรียมแผนรองรับน้ำไว้เรียบร้อยแล้ว ด้วยการขุดลอกคูคลองหลายแห่ง วางกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ พนังกั้นน้ำ จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำทุกพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ เพื่อเร่งในการผลักดันน้ำ โดยความร่วมมือของ เทศบาลนครทั้ง 2 แห่ง , อบจ., อบต. พร้อมหน่วยงานราชการที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีจุดเฝ้าระวังที่สำคัญอยู่ที่สถานี สูบน้ำนครชัยศรี ที่มีปริมาณน้ำอยู่ 2.21 ลูกบาศก์เมตร หากสูงถึง 2.6 ลูกบาศก์เมตร จังหวัดสมุทรสาครจะประกาศเตือนให้ประชาชนทุกพื้นที่เตรียมขนย้ายทรัพย์สินและสิ่งของมีค่าไว้ที่สูง ส่วนสถานการณ์น้ำที่ไหลหลากผ่านมาทางด้านบางเลน นครชัยศรี พุทธมณฑล มาลงคลองมหาสวัสดิ์ กว่าจะถึงจังหวัดสมุทรสาครต้องใช้ระยะการไหลผ่านประมาณ 11 กิโลเมตร ระยะการเคลื่อนตัวประมาณ 2 วัน ทำให้สามารถประสานทุกพื้นที่รองรับและเตรียมพร้อมได้ทันที ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทจังหวัดสมุทรสาครยังได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนและช่วยให้คลายความวิตกกังวล ไม่ก่อให้เกิดความเครียดได้
สถานการณ์น้ำขณะนี้จังหวัดสมุทรสาครยังสามารถรับปริมาณน้ำได้และอยู่ในเกณฑ์ปกติ หากมีกระแสน้ำที่ระบายมาจากภาคกลางตอนบน กว่าจะถึงสมุทรสาครนั้นจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณหนึ่งสัปดาห์ และกระแสน้ำที่ไหลมานั้นจะมีแรงดันน้ำที่เบาลง เพราะจะต้องผ่านพื้นที่ของจังหวัดนครปฐมที่รองรับน้ำได้หลายร้อยไร่ กว่าจะมาถึงคลองมหาสวัสดิ์ ผ่านคันทางรถไฟสายใต้ ที่สูงระดับ 3.00 เมตร ผ่านถนนปิ่นเกล้านครชัยศรี ผ่านถนนเพชรเกษม ผ่านคลองภาษีเจริญ ประกอบกับสภาพภูมิประเทศของจังหวัดสมุทรสาครเป็นที่ลาด หากน้ำทะเลหนุนจะช่วยผลักดันให้กระแสน้ำที่ระบายมาไม่เข้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อน้ำทะเลลง ก็จะสามารถระบายน้ำที่ไหลมาลงทะเลได้เร็วขึ้น จึงไม่มีปัญหาในเรื่องกระแสน้ำที่ไหลรุนแรง อย่างไรก็ตามอาจมีผลกระทบกับประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครบ้างแต่ไม่มากนัก ถ้าหากมีภาวะการณ์ฉุกเฉิน จังหวัดสมุทรสาครจะประกาศให้ประชาชนทราบทันที ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกหรือตกใจ สำหรับประชาชนที่อยู่ใกล้แม่น้ำท่าจีน สามารถเก็บทรัพย์สินหรือสิ่งของมีค่าไว้ในที่สูงได้ เพื่อความไม่ประมาทและทำให้เกิดความสบายใจ ประการสำคัญจังหวัดสมุทรสาครไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง
จังหวัดสมุทรสาคร จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้ทราบ และขอให้ทุกท่านติดตามข่าวสารของจังหวัดสมุทรสาครจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาครผ่านสื่อวิทยุชุมชนทุกสถานี เคเบิ้ลทีวี เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำทุกวันช่วง เวลา 07.00 น. 12.00 น. 18.00 น. และเคเบิ้ลทีวี เวลา 07.00 น. 12.00 น. 20.00 น. และ 23.00 น. ถ้าหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน จังหวัดจะประกาศและแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบทุก ๆ 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดหรือแจ้งเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 034-424981-4, 034- 427117, 034-426424 จึงขอประชาสัมพันธ์และชี้แจงข้อเท็จจริงจากจังหวัดสมุทรสาครมาให้ทราบทั่วกัน นายจุลภัทร แสงจันทร์ กล่าว /
เมธา จันทร์สอาด/รายงาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น