ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในบทบาทการขับเคลื่อนผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยในมิติด้านความมั่นคง ได้ตอบสนองนโยบายรัฐ ในการบูรณาการความร่วมมือกับเครือข่ายการวิจัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้สามารถผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ได้เอง
ทั้งนี้ที่ผ่านมา วช. ได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วน วช. จึงได้ให้การสนับสนุนกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (วท.กห.) พัฒนาและผลิตเสื้อเกราะกันกระสุนน้ำหนักเบาระดับ NIJ III ภายใต้แผนงานวิจัยตอบสนองต่อนโยบาย/เป้าหมายรัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งมีความร่วมมือกับ วช. ในการใช้ประโยชน์องค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ : ชุมชนเข้มแข็ง ด้วยวิจัยและนวัตกรรม ผ่านกลไกการดำเนินงานของศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1- 5 (ศปป.1 - 5) นับเป็นความร่วมมือสำคัญในการบูรณาการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาชุมชนสังคมในพื้นที่ของ กอ.รมน. อันเป็นฐานรากสำคัญของการพัฒนาประเทศโดยรวม และโดยที่ กอ.รมน. โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 (ศปป.5) ได้เห็นความสำคัญของการวิจัยและนวัตกรรมต่อการพัฒนาด้านความมั่นคง และขอรับการสนับสนุน “เสื้อเกราะป้องกันกระสุน ระดับ 3” เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้
ศาสตราจารย์นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ได้สนับสนุนให้ กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม ดำเนินการวิจัยและพัฒนาเสื้อเกราะป้องกันกระสุนระดับ NIJ III หรือระดับ 3 โดยจะทำการส่งมอบเสื้อเกราะดังกล่าวแก่ พลเอก ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์เสนาธิการทหารบก เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จำนวน 105 ตัว เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 20 ธันวาคม 2562 ณ ห้องรับรอง 211 ชั้น 1 อาคาร 2 ภายในกองบัญชาการกองทัพบก กรุงเทพมหานคร เสื้อเกราะป้องกันกระสุน ระดับ NIJ 3 เป็นเสื้อเกราะที่มีน้ำหนักเบากว่าเสื้อเกราะที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าที่ผลิตด้วยวัตถุดิบนำเข้าเกือบเท่าตัวและมีประสิทธิภาพทัดเทียมต่างประเทศ นับเป็นนวัตกรรมใหม่ทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต การนำวัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศมาใช้ประโยชน์สูงสุด รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมพลาสติกและเส้นใยสังเคราะห์ของประเทศ เสื้อเกราะป้องกันกระสุน ระดับ NIJ 3 ได้ผ่านการทอสอบจากห้องปฏิบัติการ HP White Laboratory Inc. ประเทศสหรัฐอเมริการ ซึ่งผ่านเกณฑ์มาตรฐาน NIJ และได้รับการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม ซึ่ง วช. ได้ สนับสนุนงบประมาณในการผลิตขยายผลเสื้อเกราะกันกระสุน ระดับป้องกัน III (รุ่น 2814 SA) เพื่อนำไปใช้สำหรับการป้องกันและลดอันตรายจากกระสุนในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น