ธนชาตหนุน “สังคมไร้เงินสด” ตามนโยบาย ธปท. จับมือพันธมิตร BCEL จาก สปป.ลาว ร่วมมือกัน
พัฒนาในการใช้มาตรฐาน QR Code สำหรับธุรกรรมชำระเงินผ่านระบบ พร้อมเพย์ข้ามประเทศครั้งแรก! เปิดโอกาสร้านค้าไทยรับลูกค้าประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น เผยก้าวต่อไปเล็งขยายความร่วมมือสู่กลุ่มประเทศ CLMV
นางฤชุกร สิริโยธิน รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ความร่วมมือการใช้มาตรฐาน QR Code สำหรับการชำระเงิน ผ่านระบบพร้อมเพย์ข้ามประเทศครั้งแรก ซึ่งธนาคารธนชาต และธนาคารการค้าต่างประเทศลาว หรือ BCEL (Banque Pour Le Commerce Exterieur Lao Public) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ร่วมมือกันในการนำมาตรฐาน QR code มาใช้ในการชำระเงินข้ามประเทศ ถือเป็นการพัฒนาต่อยอดการใช้มาตรฐาน QR code เพื่อช่วยสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงระบบการเงิน ระหว่างไทย กับ สปป.ลาว สอดคล้องกับหลักการนำมาตรฐานสากลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ทำให้การพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างประเทศได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นการเพิ่มช่องทางการชำระเงินที่สะดวก ปลอดภัย ด้วยต้นทุนที่ต่ำ อีกทั้งเป็นรากฐานในการต่อยอดนวัตกรรมทางการเงินที่หลากหลายต่อไป
นายสอนไซ ซิดพะไซ รองผู้ว่าธนาคารแห่ง สปป.ลาว กล่าวว่า สปป.ลาว พยายามดำเนินตามพิมพ์เขียวการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) ให้สำเร็จลุล่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการทางการเงินระหว่างอาเซียน และเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกัน ครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธนาคารพาณิชย์ในลาวที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้บริการด้านการธนาคารที่ทันสมัยและเป็นไปตามมาตรฐานสากลโดยลำดับ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับ การเชื่อมโยงและนำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายและทันสมัยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เชื่อว่าความสำเร็จจากการร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถส่งเสริมการค้า และสนับสนุนการชำระเงินระหว่าง สองประเทศ
นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ เครือข่ายลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ภาคธนาคารนำโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกันพัฒนาระบบ PromptPay เพื่อให้การโอนและรับเงินในประเทศเกิดความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย จึงเป็นที่มาให้ธนาคารธนชาตคิดต่อยอดนำระบบดังกล่าวร่วมกันพัฒนาในการใช้มาตรฐาน QR Code สำ
หรับธุรกรรมชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ข้ามประเทศครั้งแรก โดยร่วมมือกับ BCEL ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำระดับประเทศที่ธนชาตมีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน และมีบริการโมบายแอพฯ เพื่อทำรายการภายในประเทศอยู่แล้ว โดยร่วมกันพัฒนาโมบายแอพฯ ให้สามารถสแกน QR Code ชำระค่าสินค้าและบริการข้ามประเทศได้เป็นครั้งแรกโดยภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ธนชาตจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนชำระเงิน (Sponsor Bank) ในประเทศไทยให้กับ BCEL เมื่อลูกค้าของ BCEL เดินทางมาประเทศไทย สามารถใช้โมบายแอพฯ สแกนซื้อสินค้าในไทยร้านใดก็ได้ที่รับชำระด้วยมาตรฐาน QR Code ไม่ว่าร้านค้านั้นจะเป็นลูกค้าของ ธนาคารใดก็ตาม โดยธนชาตจะทำหน้าที่ชำระเงินให้แก่ร้านค้านั้นๆ ผ่านระบบ PromptPay ซึ่งมีมาตรฐาน ความปลอดภัยสูงสุด เพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้แก่ผู้จ่ายและผู้รับ ลดภาระการถือเงินสด ลดความเสี่ยง ในการแปลงสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 2 ของปี 2561
“ในช่วงเฟสแรก ธนชาตจะร่วมมือกับ BCEL ก่อน จากนั้นมีแผนจะขยายความร่วมมือ ในการให้บริการไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์, เวียดนาม) เนื่องจากเป็นบ้านใกล้ เรือนเคียงที่เข้ามาท่องเที่ยวและทำงานในไทยแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ตัวเลขจากกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ CLMV เข้ามาราว 3.7 ล้านคน มียอดใช้จ่ายราว 113,738 ล้านบาทและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี จากนั้นในเฟส 2 ธนชาตจะร่วมมือ กับธนาคารพาณิชย์ไทยรายอื่นๆ พัฒนาโมบายแอพฯ เพื่อให้ คนไทยสามารถจับจ่ายซื้อสินค้า ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยชำระผ่าน QR Code ได้เช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 3 ของปี 2561” นายอนุวัติร์กล่าว
นายคำเซี่ยน มิ่งบุปผา รองผู้อำนวยการใหญ่ BCEL กล่าวว่า BCEL และธนชาตมีความร่วมมือทางธุรกิจกันมายาวนานตั้งแต่ปี 2552 ในหลายด้าน อาทิ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากกระแสรายวัน และการโอนเงินระหว่างประเทศ อีกทั้ง BCEL ได้ส่งพนักงานมาเรียนรู้งานในด้านต่างๆ จากธนชาต เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถให้แก่พนักงานด้วย ซึ่งปัจจุบันบริการทางการเงิน ในระบบดิจิทัลมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวัน จะเห็นได้จากในประเทศลาวเอง มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นปีละ 54% และธุรกรรมทางการเงินผ่าน e-Banking เพิ่มขึ้น 85% ปีต่อปี โดยเมื่อต้นปี BCEL ได้เปิดให้บริการ BCEL One Pay ซึ่งเป็นบริการชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน QR Code เป็นครั้งแรกใน สปป.ลาวซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยฟังก์ชั่นนี้อยู่ในโมบายแอพฯ BCEL One ที่ธนาคารเปิดตัวไปเมื่อปี 2559 ดังนั้น เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น BCEL จึงร่วมมือกับธนชาต พัฒนาบริการชำระเงินผ่าน QR Code ข้ามประเทศขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของ BCEL หรือลูกค้าชาวลาวที่ต้องการซื้อสินค้าและบริการในประเทศไทยสามารถจ่ายด้วยการสแกน QR Code ผ่าน BCEL One Pay ได้อย่างสะดวกสบาย โดยมีธนชาตเป็นตัวแทนชำระเงินให้ร้านค้าในประเทศไทย ซึ่งถัดจากโครงการนี้ ทั้ง 2 ธนาคารจะร่วมมือกันพัฒนาบริการทางการเงินให้ทันสมัยยิ่งขึ้นเพื่อลูกค้าของเราต่อไป
*******************
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น