เมื่อ 2 ก.พ. 60 พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้ดำเนิ นโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้ านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิ จฐานรากตามแนวทางประชารั ฐประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 (โครงการหมู่บ้านละ 2.5 แสนบาท) เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเข้ มแข็งในระดับหมู่บ้านและชุมชน ผ่านโครงการลงทุนด้านโครงสร้ างพื้นฐานของหมู่บ้าน หรือการดำเนินกิ จการสาธารณประโยชน์ ของหมู่บ้านที่เกี่ยวกั บการประกอบอาชีพ การผลิตและการตลาด เพื่อเสริมสร้างรายได้ให้กั บประชาชนในพื้นที่ ตามความต้องการของประชาชน และเป็นไปตามแนวทางประชารัฐ โดยมีคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) เป็นกลไกในการขับเคลื่ อนงานในระดับพื้นที่หมู่บ้าน โดยรัฐบาลได้สนับสนุ นงบประมาณให้แก่หมู่บ้านจำนวน 74,655 หมู่บ้าน ภายในวงเงินหมู่บ้านละ 250,000 บาท ดำเนินการภายในระยะเวลา 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 - 31มกราคม 2560
ซึ่งขณะนี้การดำเนินโครงการได้ ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ วตามระยะเวลาที่กำหนด กระทรวงมหาดไทยจึงขอเรียน ให้ทราบถึงผลการดำเนิ นงานในภาพรวม โดยมีโครงการทั้งหมดจำนวน82,336 โครงการ งบประมาณที่ได้รับอนุมัติ 18,660,723,208 บาท มีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็ จและมีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว จำนวน 80,328 โครงการ เป็นเงิน 18,186,413,187บาท คิดเป็นประมาณร้อยละ 98 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2560) มีจังหวัดที่มีผลการเบิกจ่ายแล้ ว 100% จำนวน 68 จังหวัด ทั้งนี้ สำหรับโครงการที่ไม่สามารถดำเนิ นการเบิกจ่ายได้ทันตามห้วงเวลา ที่กำหนดเนื่องจากได้เกิดเหตุ การณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ของประเทศไทย ทำให้มีหมู่บ้านที่ดำเนิ นโครงการต้องประสบภัยธรรมชาติ หรือมีเหตุสุดวิสัยซึ่ งกระทรวงมหาดไทยได้ ขอขยายระยะเวลาดำเนินการออกไปอี ก จำนวน 2,620 โครงการ งบประมาณ650,148,600 บาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้ านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิ จฐานรากตามแนวทางประชารั ฐประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 หรือโครงการหมู่บ้านละ 2.5 แสนบาท
ได้ส่งผลให้เกิดการกระตุ้ นเศรษฐกิจในระดับฐานรากทำให้เกิ ดการสร้างงานกระจายรายได้อย่ างทั่วถึง และยังเป็นโครงการที่ได้สะท้ อนถึงความต้องการของประชาชนในพื้ นที่ สามารถนำงบประมาณที่ได้รับไปแก้ ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ได้ ตรงตามความต้ องการของประชาชนมากที่สุ ดโครงการหนึ่ง และเป็นการส่งเสริมกระบวนการเรี ยนรู้ของประชาชนในระดับหมู่บ้ านให้เข้ามามีส่วนร่วม ช่วยกันคิด ช่วยกันนำเสนอปัญหา และวิธีแก้ไขปัญหา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเป้ าหมายสำคัญที่รั ฐบาลและกระทรวงมหาดไทยคาดหวั งให้ประชาชนมีความเข้มแข็ งจากภายในอันจะนำไปสู่การพั ฒนาอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่ อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น