pearleus

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ผู้แทนองค์การอนามัยโลกชี้คนต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม มาตรวจให้ไว จะลดการตายด้วยมะเร็งได้

เมื่อ 3 ส.ค.59 ในงานประชุมวิชาการนานาชาติว่าด้วยการ เรื่องการควบคุมโรคมะเร็งเพื่อความเป็นธรรมด้านสุขภาพ “ทุกนโยบายใส่ใจการควบคุมมะเร็ง” DR Rengasawamisankaranarayan M.D ผู้แทนจาก WHO IARC  จากประเทศฝรั่งเศส ได้กล่าวถึงทิศทางการแก้ไขปัญหาโรคมะเร็ง ที่ขณะนี้พบว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละกว่า 14 ล้านคน และเสียชีวิตปีละกว่า 8 ล้านคน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 65 เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา ;ว่าองค์กรอนามัยโลกได้ให้ความสำคัญ ในการสำรวจ เฝ้าระวัง,การตรวจคัดกรอง และป้องกันโรคมะเร็งให้กับประชากรโลก  ทั้งนี้ขั้นตอนจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่  เราจะมุ่งให้ความสำคัญเป็นกรณีๆ ในแต่ละพื้นที่จะมีปัญหาแตกต่างกันโดยทางองค์การอนามัยโลกจะทำวิจัยเพื่อสำรวจปัญหาในแต่ละพื้นที่  เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และจะได้มีนโยบายที่มาสนับสนุนได้อย่างเหมาะสม
                ส่วนประเด็นความเหลื่อมล้ำระหว่างความรวย ความจน ของประเทศกำลังพัฒนา จะเป็นสาเหตุทำให้พบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ถึง 14 ล้านคน  หรือไม่:
                ผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า   มันเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่าผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่  จะเป็นผู้ป่วยในประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งความจริงแล้วปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำทางฐานะก็อาจจะไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดของปัญหา  เพราะคนเราสามารถสามารถป้องกันความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งได้  เช่น การดูแลเรื่อง อาหารการกิน การออกกำลังกาย  ลดการสูบ  ดังนั้นความจนความรวยจึงไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งรายใหม่
                ส่วนประเด็นพัฒนานโยบาย ป้องกัน และจัดบริการการตรวจคัดกรอง และรักษาโรคมะเร็ง นั้น ผู้แทนองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า นโยบายการป้องกันโรคมะเร็งจะเน้นที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพส่วนบุคคล  และการจัดบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของสถานบริการสุขภาพ รวมถึงการจัดบริการที่ครบวงจรอย่างจังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีจำนวนคนที่เป็นมะเร็งมากที่สุดในประเทศไทย  หากผู้คนสามารถลดหรือเลิกการทานปลาดิบได้  อาการเกิดโรคมะเร็งตับจะลดน้อยลง  และหลังจากนี้จังหวัดร้อยเอ็ดจะเป็นศูนย์กลางโรคมะเร็งเพื่อวิจัย  และพัฒนา และเฝ้าระวัง,ตรวจคัดกรอง, และป้องกันโรคมะเร็งต่อไป
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
ทองสุข โพนเงิน/ข่าว




0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น